ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5600 อาจารย์เย่เรียกให้เขาเริ่มงาน!(1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5600 อาจารย์เย่เรียกให้เขาเริ่มงาน!(1)
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้มีพระคุณ ภายในใจของหยุนหรูเกอก็รู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก
และแล้ว ก็เป็นไปอย่างที่เธอคาดเดา ผู้มีพระคุณในตอนนี้มีข้อมูลตำแหน่งของท่านเอิร์ลทุกคน
และนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ที่น่ากลัวที่สุดคือ ผู้มีพระคุณสามารถจะเทียบเคียงข้อมูลตามเวลา สถานที่ แล้วรวมเข้ากับข้อมูลที่ค้นเจอได้จากอินเทอร์เน็ต ทุกย่างก้าวของทุกคน นำมันมาวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน
ซึ่งก็หมายความว่า ตลอดชีวิตนี้ของตัวเอง คงไม่สามารถจะหลุดพ้นจากการควบคุมของผู้มีพระคุณได้
อย่ามองว่าท่านเอิร์ลอย่างพวกเขาเวลาที่ได้ออกมาทำภารกิจ เป็นเวลานานที่ไม่ต้องกลับไปรายงานการปฏิบัติหน้าที่ แต่ภายในร่างกายของพวกเขา ก็ยังคงมียาพิษที่ผู้มีพระคุณได้กำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้
เพียงแค่ว่า พวกเขาคนที่มีปราณทิพย์ มีอายุขัยที่ยาวนานเพียงพอ ดังนั้นระยะเวลาที่ผู้มีพระคุณให้กับพวกเขานั้นก็จะยาวนานกว่าคนอื่นสักเล็กน้อย คนอื่นอาจสักสองอาทิตย์ สามเดือนหรือครึ่งปีต้องกลับไปรับยานั้นสักครั้ง แต่สำหรับพวกเขาแล้ว ก็จะทุกๆสามปีถึงจะไปรับยาสักครั้ง
แต่สามปีแล้วยังไง?หากทุกคนเป็นเพียงแค่ว่าวที่ผู้มีพระคุณดึงสายป่านอยู่ พวกเขาที่เป็นท่านเอิร์ล ก็เป็นแค่ว่าวที่มีสายป่านที่ยาวกว่าแค่นั้น ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นไปจากการควบคุมของผู้มีพระคุณได้
ภายใต้ความท้อแท้สิ้นหวัง ภายในใจของเธอก็ยังคงคิดวิเคราะห์ตามประเด็นสำคัญที่ผู้มีพระคุณได้พูดมาทั้งหมด
จากตลาดของโบราณท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเดินทางไปที่ภูเขา ซึ่งก็น่าแปลกมากจริงๆ และสถานที่ที่ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งได้ไปมานั้น จู่ๆก็เกิดฟ้าร้องอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างน่าเหลือเชื่อ
เมื่อรวมเอาทุกอย่างมาคิดวิเคราะห์ ตัวเองก็พอจะเดาการเชื่อมโยงทางตรรกะของเรื่องราวได้อย่างคร่าวๆ
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งอาจจะได้เครื่องมือทางธรรมที่มีความรุนแรงมา และเครื่องมือทางธรรมที่มีความรุนแรงนี้ ยังสามารถจะเรียกสายฟ้าได้!
และท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเองก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับผู้มีพระคุณ ว่าเขาได้เครื่องมือทางธรรมที่มีความรุนแรงนี้มา
ไม่แปลกใจเลยที่ผู้มีพระคุณบอกว่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่งนั้นคิดไม่ซื่อ ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งคงคิดว่าให้เครื่องรางพาสซีฟไปก็จะได้รับความไว้วางใจจากผู้มีพระคุณ แต่ไม่คิดว่า ผู้มีพระคุณนั้นได้รวบรวมเอาข้อมูลต่างๆ อยู่ห่างกันไกลกว่าหลายหมื่นลี้ก็ยังเดาได้ว่าเขานั้นพูดโกหก
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หยุนหรูเกอถามผู้มีพระคุณ“ผู้มีพระคุณ ความแข็งแกร่งของข้าไม่เท่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง หากถูกท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจับได้ จะพูดอธิบายกับเขายังไง?”
ผู้มีพระคุณพูดอย่างเรียบเฉย“ไม่หรอก เดี๋ยวข้าจะสอนวิธีการซ่อนปราณทิพย์กับการฝึกวิชาคาถาให้เจ้า ความแข็งแกร่งของเจ้ากับท่านเอิร์ลฉางเซิ่งนั้นไม่แตกต่างกันมาก มีวิชาคาถานี้คอยช่วยเหลือ ขอแค่เขาไม่เห็นเจ้า และอย่าใช้ปราณทิพย์ในรัศมีร้อยเมตรของเขา เขาไม่มีทางรู้สึกถึงตัวเจ้าได้แน่ นอกจากนี้ ตำแหน่งของเขาในตอนนี้ข้าเองก็มองเห็นได้ และข้าจะส่งตำแหน่งของเขาผ่านไปยังมือถือของเจ้าด้วย เขาอยู่ในที่แจ้งเจ้าอยู่ในที่ลับ เจ้าไม่มีทางถูกเขาจับได้แน่”
หยุนหรูเกอพูดขึ้นในทันทีว่า“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”
ผู้มีพระคุณก็พูดต่อ“หรูเกอ เจ้าไปในครั้งนี้ มีสองภารกิจ อย่างแรกคือคอยจับตาดูท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง ว่าเขาได้เครื่องมือทางธรรมอะไรมากันแน่ และอีกอย่างก็คือ เตรียมพร้อมคอยช่วยเหลือท่านเอิร์ลฉางเซิ่งในช่วงเวลาคับขัน”
หยุนหรูเกอถามด้วยความประหลาดใจ“ผู้มีพระคุณ ที่เมืองจินหลิงมีภัยคุกคามอะไรอย่างนั้นหรือ จนทำให้ท่านคิดว่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจะรับมือกับมันไม่ได้ ?”
ผู้มีพระคุณถอนหายใจ“ในตอนนี้ยังไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งเรื่องราวต่างๆก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ทำให้ข้ารู้สึกจิตใจไม่ค่อยจะเป็นสุข เรื่องของท่านเอิร์ลเจี้ยนกงเจ้าเองก็รู้ดี ถูกระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์โจมตีจนไม่เหลือชิ้นดี ใครจะไปรู้ว่าที่เมืองจินหลิงจะมีอันตรายอะไร ”
พูดมาถึงตรงนี้ ผู้มีพระคุณก็พูดเสริมต่อ“แต่เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป ที่ข้าบอกกับเจ้าไปนี้ ก็แค่เผื่อเอาไว้เท่านั้น ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งอยู่ในที่แจ้ง เจ้าอยู่ในที่ลับ แบบนี้ก็ยิ่งจะป้องกันการผิดพลาดได้ หากท่านเอิร์ลฉางเซิ่งไม่มีอันตรายใดๆก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่หากมี เจ้าอยู่เมืองจินหลิงด้วยก็สามารถจะช่วยเขาได้ในทันท่วงที ถึงเขาจะมีใจคิดไม่ซื่อ แต่ก็ยังเป็นนายพลใหญ่ขององค์กรพั่วชิงที่ขาดไม่ได้ ท่านเอิร์ลทั้งสี่ขององค์กรพั่วชิง ขาดท่านเอิร์ลเจี้ยนกงไปแล้วคนหนึ่ง คนอื่นที่เหลือจะเกิดอุบัติเหตุอะไรอีกไม่ได้แล้ว!”
หยุนหรูเกอพูดโพล่งออกมาทันทีว่า“ผู้มีพระคุณโปรดวางใจ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”
ผู้มีพระคุณตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง แล้วพูดว่า“นอกจากนี้ หากท่านเอิร์ลฉางเซิ่งฆ่าล้างครัวตระกูลอานแล้ว ต้องเจอกับแรงกดดันอย่างหนักจากหัวเซี่ย ข้าจะให้เขาออกจากเมืองจินหลิงในทันที ถึงตอนนั้น เจ้าก็รออยู่ที่เมืองจินหลิงเพื่อให้ลูกชายของเย่ฉางอิงกับอานเฉิงซีปรากฏตัว”
หยุนหรูเกอที่วางสายไปแล้ว ภายในใจมีความไม่เต็มใจอยู่เต็มไปหมด
ถึงเธอจะเป็นหนึ่งในสี่ท่านเอิร์ล แต่เธอก็ไม่เคยชอบการต่อสู้และเข่นฆ่ากันนี้เลยแต่อย่างใด ยิ่งไม่ต้องการจะรับคำสั่งของผู้มีพระคุณเพื่อก่อกรรมทำชั่ว
ที่เธอวาดหวังที่สุด ก็คืออยู่ในองค์กรพั่วชิงตลอดไป ไม่สนใจเรื่องทางโลกตั้งใจฝึกฝนบำเพ็ญเพียร
แม้บางครั้งจะหลีกเลี่ยงการต้องออกไปทำภารกิจของผู้มีพระคุณไม่ได้ แต่เธอก็จะหาจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมทำอะไรให้ชักช้าอืดอาด
อาทิเช่นครั้งนี้ที่ผู้มีพระคุณให้เธอมาตามหาหลินหว่านเอ๋อร์ที่หย่วนตง เธอก็มาตามหาจริงๆ เพียงแค่ไม่ได้ตั้งใจขนาดนั้น เที่ยวเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วก็เท่านั้น