ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5578 คุณลองดม (1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5578 คุณลองดม (1)
จ้าวเหล่าซื่อเห็นเงินแล้วก็เบิกตาโพลง เห็นอีกฝ่ายยื่นเงินหลายร้อยเหรียญมาให้อีก แทบไม่สนใจที่จะมองโดยละเอียดว่ามีกี่ใบกันแน่ ดึงเงินไปอย่างรีบร้อน มองรอบ ๆ โดยมีท่าทางเหมือนพวกขโมย คราวนี้จึงจะพูดกับท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง : “คุณท่าน ว่ากันตามตรงไม่ปิดบัง แหวนปานจื่อวงนี้ ไม่ได้เป็นของที่ผมบอกขายก็ขายได้ นี่เป็นของของพี่ผม ให้ผมสวมไว้เป็นเครื่องยืนยันตอนที่ให้ผมมารับคนที่สนามบิน”
“เครื่องยืนยัน ?” ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยสงสัย ทำไมบนมือของคนธรรมดาคนหนึ่งถึงได้มีเครื่องมือทางธรรมอยู่ชิ้นหนึ่ง
หากว่าไอ้เจ้าหมอนี่บังเอิญได้มาเพียงเท่านั้น ตัวเองจ่ายราคาที่ค่อนข้างสูงแล้วซื้อมาจากในมือของเขา นั่นก็เป็นตัวเองที่โชคดีแล้ว
แต่ว่า คนคนนี้กลับบอกว่าของชิ้นนี้เป็นเครื่องยืนยันที่คนอื่นมอบให้เขา นี่เลยทำให้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งรู้สึกระแวดระวังอยู่หน่อย
ครั้นแล้ว เขาเลยจงใจถามจ้าวเหล่าซื่อ : “น้องชาย เครื่องยืนยันชิ้นนี้หมายความว่ายังไงกัน ? ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม ? ”
จ้าวเหล่าซื่อเอาเงินจากท่านเอิร์ลฉางเซิ่งไปหลายร้อยเหรียญ ย่อมไม่กล้าขายผ้าเอาหน้ารอดเกินไป ครั้นแล้วเลยยิ้มแหะ ๆ พูดเบา ๆ : “พี่ผมให้ผมมารับนักธุรกิจเกาะฮ่องกางที่นี่ นักธุรกิจเกาะฮ่องกางเป็นลูกค้ารายใหญ่ของวงการของโบราณเรามาแต่ไหนแต่ไร และที่นี่ยังมีธุรกิจสีเทาบางอย่างที่ไม่สะดวกบรรยายให้คนนอก ก็เหมือนสายลับที่ติดต่อและส่งต่อข่าวสารอย่างไรอย่างนั้น ย่อมต้องมีเครื่องยืนยัน”
ว่าแล้ว จ้าวเหล่าซื่อชี้ไปที่ป้ายที่มารับคนของตัวเอง แล้วพูดด้วยใบหน้าจริงใจ : “ผมเดาว่า เฉินเจียเหว่ยอะไรนี่ที่เขียนบนป้ายนี่ เป็นชื่อปลอม นักธุรกิจเกาะฮ่องกางเขามาซื้อโบราณวัตถุ ใช้ชื่อจริงไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นถึงตอนนั้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์เลยว่าเขาต้องมายืนยันว่าผมเป็นเบื้องบนหรือเปล่า โดยอาศัยแหวนปานจื่อวงนี้บนมือของผม !”
จ้าวเหล่าซื่อไม่ได้พูดโกหกกับท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเลย
ตัวจางเอ้อเหมาไม่ได้อธิบายเรื่องราวให้พวกเขาอย่างชัดเจน จงใจปิดบัง กำกวม ทิ้งช่องว่างสำหรับคาดเดาที่ใหญ่มากให้พวกเขาเอาไว้
ทำไมยังไม่ได้บอกว่าอย่างแน่ชัดว่าคนคนนี้จะมาถึงเมื่อไหร่กับคนที่มารับ ? นั่นย่อมเป็นเพราะต้องระมัดระวังแล้ว ระมัดระวังเล่ายังไงล่ะ !
อีกอย่าง ทำไมคนที่มารับยังต้องสวมแหวนปานจื่อที่ขุดดิบออกมาด้วย ? นั่นเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้นักธุรกิจเกาะฮ่องกางพิสูจน์ว่าคนที่มารับเป็นตัวจริงหรือเปล่า โดยนัดหมายกันไว้เรียบร้อยอย่างแน่นอน !
นอกเหนือจากนี้ ทำไมต้องสวมแหวนปานจื่อที่ขุดดิบไว้ด้วย ? งั้นไม่แน่ว่าจางเอ้อเหมาคนนี้สมคบกับคนที่ปล้นสุสานตอนนี้กำลังอยากช่วยคนกลุ่มนั้นจำหน่ายของโจรอยู่ !
จ้าวเหล่าซื่อยังคิดว่า ของที่ขุดดิบชิ้นนี้ ไม่ว่ามันเป็นของสมัยไหน ขอเพียงขุดออกมาแล้วไม่ส่งให้หน่วยงานเบื้องบน นั่นก็เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ขอเพียงขุดออกมาแล้วไม่ส่งให้หน่วยงานเบื้องบน และตัวเองแอบค้าขาย งั้นความผิดก็เพิ่มอีกขึ้นหนึ่ง จางเอ้อเหมายอมให้ค่าจ้างสามพันต่อวันกับตัวเองและเสี่ยวเถิงได้ถึงขนาดนี้ ? นี่ก็พิสูจน์แล้วว่า เขากำลังจัดเตรียมการค้าขนาดใหญ่หนึ่งอยู่อย่างแน่นอน และไม่สนใจเงินเล็กน้อยแค่นี้เลยด้วย !
และเนื่องจากว่ามีช่องว่างให้จินตนาการได้อย่างอิสระพวกนี้ ดังนั้นจ้าวเหล่าซื่อเลยคิดอย่างหนักแน่นว่า การคาดการณ์ของตัวเองถูกต้องอย่างแน่นอน ตัวเองค้นพบชีพจรของจางเอ้อเหมาแล้วอย่างแน่นอน !
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งในขณะนี้รู้สึกสับสนอยู่หน่อย
ในด้านหนึ่งเขารู้สึกว่าของชิ้นนี้อาจจะมีนัย ในอีกด้านหนึ่งได้ยินจ้าวเหล่าซื่อพูดพวกนี้จบ ก็รู้สึกว่าเขาแม่งเป็นแก๊งที่บริการปล้นสุสานและจำหน่ายของโจรครบวงจรอย่างแน่เลย
คิดถึงตรงนี้ เขาจงใจหยั่งเชิงถาม : “น้องชาย ขอถามหน่อยว่า พี่คนนี้ของเธอทำอาชีพของโบราณใช่ไหม ?”
“ใช่แล้ว !” จ้าวเหล่าซื่อพูดโดยไม่ต้องคิดเลย : “เขาทำของโบราณมายี่สิบสามสิบปีแล้ว แน่นอนว่าการปล้นสุสานและฉกชิงทรัพย์ไม่ถูกต้อง แต่เชี่ยวชาญการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดโบราณทุกแบบนะครับ !”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพยักหน้า แล้วควักธนบัตรหนึ่งร้อยเหรียญยื่นให้หลายใบ แล้วยิ้มบอก : “น้องชาย ไม่ทราบว่าช่วยแนะนำพี่คนนี้ของเธอให้ฉันได้ไหม ? ฉันอยากรู้จักเขามากเลย”
จ้าวเหล่าซื่อเหลือบมองตาเฒ่าแวบหนึ่ง เห็นว่าไอ้แก่นี้ควักเงินได้ถึงอกถึงใจเหลือเกิน เลยมีแผนการอยู่ในใจ