ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5562 ไม่สำคัญขนาดนั้นแล้ว (2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5562 ไม่สำคัญขนาดนั้นแล้ว (2)
“ยังหรอก”คลอเดียพูดอย่างไม่ต้องคิด“ฉันลงไปรอเขาก่อน รอเขามาถึงแล้วฉันค่อยลงไปมันจะเสียเวลาเอา”
หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ได้พูดหยอกอีก พยักหน้ารับเบาๆ แล้วพูดว่า“ขอบใจนะคลอเดีย ฉันไม่ลงไปด้วยนะ ปวดหัวมากจริงๆ ช่วยบอกเขาแทนฉันด้วย เดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันไม่มีมารยาท”
“ได้”คลอเดียพยักหน้าและพูดว่า“เธอรออยู่ที่ห้องนี่แหละ ฉันจะไปแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ดูแลหอพัก แล้วจะพาพี่เย่เฉินขึ้นมาเลย พี่เย่เฉินเก่งมาก ขอแค่เขามา อาการปวดหัวไมเกรนของเธอจะต้องหายขาดอย่างแน่นอน!”
พูดจบ คลอเดียก็รีบออกจากห้องพักไป แล้วลงมารอที่ใต้ตึกด้านล่าง
เพราะปวดหัวอย่างรุนแรง หลินหว่านเอ๋อร์ก็คอยแต่ฝืนยิ้มให้อยู่ตลอด หลังจากที่คลอเดียไปแล้ว ใบหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นอิดโรยและเจ็บปวดอย่างมาก แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังคงเดินมาที่หน้ากระจกเพื่อมองดูตัวเองอย่างไม่รู้ตัว จัดแต่งทรงผมของตัวเองให้เข้าที่ แล้วนวดคลึงไปที่แก้ม เพื่อให้กล้ามเนื้อใบหน้าไม่ตึงแน่นจนเกินไป และในจิตใต้สำนึกของเธอ ก็ยังเป็นกังวลว่าเย่เฉินจะเห็นสีหน้าที่ดูแย่นี้ของตัวเอง
ราวๆสิบนาที เย่เฉินขับรถมาถึงที่มหาวิทยาลัยจินหลิง เขาขับรถตรงไปยังที่ใต้ตึกของหอพักนักเรียนต่างชาติหญิง กำลังจะกดโทรหาคลอเดีย ก็เห็นคลอเดียยืนอยู่ที่ริมทางเท้า
คลอเดียเองก็จำทะเบียนรถของเย่เฉินได้ วิ่งเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าที่ดีอกดีใจ
รอเย่เฉินจอดรถ แล้วเปิดประตูลงมา คลอเดียก็มาถึงที่ตรงหน้าพอดี พูดด้วยความเขินอายเล็กน้อยว่า“พี่เย่เฉินมาถึงแล้ว……”
เย่เฉินพยักหน้าให้เล็กน้อย และถามเธอว่า“เพื่อนร่วมห้องของเราคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
คลอเดียตอบว่า“ยังปวดหัวอยู่ ไม่ทุเลาลงเลย ตอนนี้กำลังรออยู่ที่ห้อง เธอให้ฉันบอกพี่ว่า เธอปวดหัวมาก ดังนั้นก็เลยไม่ได้ลงมารับพี่ด้วย ขอพี่อย่าได้ถือสา ”
เย่เฉินพยักหน้าและยิ้ม“ไม่เป็นไร พี่ขึ้นไปดูอาการเธอหน่อยแล้วกัน ”
พูดจบ เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เอ่ยถามคลอเดีย “พี่เข้าหอพักหญิงได้ไหม ?ตอนที่พี่เรียน หอพักหญิงนั้นห้ามผู้ชายเข้านะ”
คลอเดียยิ้มและพูดว่า“ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน หอพักหญิงทั่วไปนั้นห้ามผู้ชายเข้า แต่หอพักนักเรียนต่างชาตินั้นไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้น หากมีเพศตรงข้ามมาเยี่ยมเยือน ขอแค่นักเรียนหญิงมาลงบันทึกเอาไว้ก็เข้าได้ แต่ก่อนห้าทุ่มต้องให้ออกจากหอพักไป ห้ามพักค้างคืน”
เย่เฉินพยักหน้า“หากเป็นแค่อาการปวดหัวเล็กๆน้อยๆ คาดว่าใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย ไม่ใช้เวลาเท่าไรหรอก ”
คลอเดียรู้สึกดีใจมากในทันที รีบพาเย่เฉินไปลงบันทึกการเข้าออกหอพักที่ใต้ตึก แล้วรีบกลับไปที่ห้องพัก
มาถึงที่ตรงประตูห้องพัก คลอเดียยังไม่ได้เปิดประตู แหวนที่อยู่ในกระเป๋าของเย่เฉินก็สั่นกระตุกขึ้นมาอีกครั้ง
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เย่เฉินคุ้นชินกับมันไปซะแล้ว
ตอนนี้ในสายตาของเขา เจ้าแหวนอลวนนี้มีการใช้สอยที่รับรู้ได้อยู่สองอย่าง
การใช้สอยแรก คือดูดซับปราณทิพย์ของตัวเองอย่างไม่สิ้นสุด และไม่มีผลตอบแทนใดๆคืนกลับ
และอีกการใช้สอยหนึ่ง สามารถจะเข้าใจมันได้ว่าเป็นเสมือนเครื่องตรวจจับหลินหว่านเอ๋อร์ ขอแค่หลินหว่านเอ๋อร์อยู่ตรงหน้าตัวเอง ของสิ่งนี้ก็จะสั่นระริกไม่หยุด ราวกับมีเจ้าเข้าอะไรอย่างนั้น
เย่เฉินล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า พยายามควบคุมการสั่นไหวของแหวนวงนี้ ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะก่นด่าในใจ“เดิมทีคิดว่าเจ้าจะเป็นของวิเศษที่มีค่าอะไร แต่เอาเข้าจริง ก็เป็นแค่ของที่ไม่มีคุณค่าอะไรเลยสักนิด ไว้วันไหนจะเอาเจ้าไปทิ้งไว้กับจางเอ้อเหมา ให้เขาเอาเจ้าไปฝังกลบไว้ในหลุมแล้วกัน!”