ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5547 กลับไปตลาดของโบราณใหม่ (3)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5547 กลับไปตลาดของโบราณใหม่ (3)
ชายคนที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวเถิงรีบหยิบไฟแช็กออกมา จุดบุหรี่ให้จางเอ้อเหมาไปพลางพูดกล่าวนับถือไปพลาง : “พี่เอ้อเหมา ขอแค่เฮียยอมพาผมไปด้วย ผมจะอดทนต่อความยากลำบากและเสียงวิจารณ์ ไม่ผิดคำแน่นอน !”
จ้าวเหล่าซื่อที่อยู่ข้าง ๆ เองก็รีบพูด : “พี่เอ้อเหมา เอาฉันไปด้วยเถอะ ! ฉันคนเนี่ยไม่มีจุดเด่นอะไรอย่างอื่น แต่เชื่อฟัง ! ขอแค่เฮียพาฉันไปด้วย ฉันจะต้องเชื่อฟังเฮียอย่างเคร่งครัดแน่นอน ชี้ไหนไปนั่นเลย !”
ในตอนนี้คนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความจริงใจกับจางเอ้อเหมา ในสายตาของพวกเขา ในเมื่อจางเอ้อเหมายอมทิ้งตำแหน่งคนโปรดข้างกายท่านหงห้า มันพิสูจน์ได้ว่าเขาพบแหล่งเงินที่ใหญ่กว่าแน่นอน และเขายังบอกอีกว่า ลู่ทางหาเงินนี้เกี่ยวกับของโบราณ ไม่ใช่แค่เขาจางเอ้อเหมาที่ทำงานอย่างราบรื่นสบาย ทุกคนต่างก็คุ้นเคยดี เพราะงั้นใคร ๆ ก็อยากจะได้ส่วนแบ่งกับจางเอ้อเหมา
แต่ในตอนนี้จางเอ้อเหมากลับกล่าวราบเรียบ : “ทุกคน ฉันเพิ่งกลับมาที่นี่ กิจการใหม่ยังไม่ราบรื่นนัก ไม่ได้ใช้คนเยอะขนาดนี้ เพราะงั้นในขั้นแรกนี้ ก็ให้จ้าวเหล่าซื่อกับเสี่ยวเถิงมาเป็นลูกน้องฉันก่อน คนอื่น ๆ ที่ยังไม่ถึงตาก็อยากรีบร้อนไป รอให้ฉันทำธุรกิจให้เรียบร้อย ทุกคนจะมีส่วนแบ่ง !”
คนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะผิดหวัง แต่จ้าวเหล่าซื่อกับเสี่ยวเถิงต่างก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
สองคนรีบรีบดึงจางเอ้อเหมามาตรงที่ไม่มีคน จ้าวเหล่าซื่อพูดอย่างประจบ : “พี่เอ้อเหมา แผงขายของตรงนั้นของเฮียถ้าเฮียอยากจะใช้เมื่อไหร่ก็ใช้ได้เลยนะ ถ้าไม่พอก็ใช้ของฉันไปด้วยเลย อยากจะให้ฉันกับเสี่ยวเถิงทำอะไร ขอแค่เฮียบอกมาได้เลย”
จางเอ้อเหมาหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบแล้วถามทั้งสองคนว่า : “พวกนายบอกฉันมาตามความจริง ตอนนี้เดือนหนึ่งพวกนายหาเงินได้เท่าไหร่ ?”
จ้าวเหล่าซื่อยกมือพูด : “พี่เอ้อเหมา ฉันบอกก่อนละกัน สถานการณ์ของฉันเฮียก็รู้ ฉันไม่ได้ช่างพูดเหมือนเฮีย แล้วก็ปลิ้นปล้อนแบบเฮียไม่ได้ เดือนหนึ่งทำได้ดี ๆ ก็หาได้แค่หมื่นสองหมื่น บางทีเดือนหนึ่งประเดิมไม่เท่าไหร่ แค่ค่าแผงก็ยังหาไม่ได้เลย…”
เสี่ยวเถิงก็พูดต่อ : “ใช่ ๆ พี่เอ้อเหมา สถานการณ์ของผม ก็ไม่ได้ดีไปว่าเจ้าสี่เท่าไหร่ ดูสิ้นเดือนสิงหาแล้ว เดือนหนึ่งกำไรสักสามพันก็ยังไม่ได้เลย แล้วตอนนี้ตลาดของโบราณการแข่งขันสูง ให้ตายของพวกนี้ก็กดกันไม่ไหว เมื่อก่อนขายเงินตราห้าจักรพรรดิปลอมพวงหนึ่ง อยากได้ยังไงก็ต้องมีสิบหยวนยี่สิบหยวนใช่ไหม ? เจอโดนเอาเปรียบ จะเอาสามร้อยห้าร้อยก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้ไอ้พวกเซ่อที่มาใหม่พวกนั้น สามหยวนห้าหยวนมันก็ขาย เฮียว่าไหม พวงนี้ราคามายังไงก็หนึ่งหยวนแปดเหมาแล้ว แม่มันน่ะสิขายสามหยวนห้าหยวน แม่งเอ้ยอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ กินลมเหนือไปยังกินไม่อิ่มเลย !”
จางเอ้อเหมายิ้มหัวเราะ พูดกับทั้งสองคน : “เอาอย่างนี้ อยากว่าว่าพี่เอ้อเหมาไม่ดูแลพวกนาย สองวันนี้นายของฉันจะแนะนำนักธุรกิจชาวฮ่องกงให้มาที่เมืองจินหลิงของพวกเรา ตั้งแต่นี้ไป แผงขายของของพวกนายสองคนไม่ต้องตั้งแล้ว คนหนึ่งไปสนามบิน อีกคนไปสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไปถือป้ายรับคนให้ฉัน !”
“รับคน ?” จ้าวเหล่าซื่อกับเสี่ยวเถิงมองตากัน ฝ่ายหลังเอ่ยปากกล่าว : “พี่เอ้อเหมา งานรับคนก็ไม่ได้ใช้ฝีมือแยกแยะใช่รึเปล่า ไปรับครั้งหนึ่งจะได้เงินเท่าไหร่อะ…”
จางเอ้อเหมายิ้มอย่างลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก พูด : “คนที่ฉันให้พวกนายไปรับเนี่ยเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่เงินหนา บางทีพวกเขาก็ไม่ค่อยสะดวกที่จะออกหน้า จะส่งลูกน้องของพวกเขามา พวกนายทั้งสองคนก็ชูป้าย รออยู่ที่สนามบินกับสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง นายของฉันนัดกับพวกเขาไว้แล้ว ขอแค่พวกเขาเห็นพวกนาย ก็จะเข้ามาพบพวกนายเอง พวกนายก็อย่าไม่พอใจที่งานนี้ไม่ได้ใช้ฝีมือ หนึ่งวันฉันจะให้พวกนายคนละสามพันหยวน !”
“คนละสามพัน ? !”
ทั้งสองพูดไม่ออกแต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้ สามพันหยวน ต่อวัน รายได้นี้สูงกว่าแผงขายของพวกเขามาก
ตอนนี้จางเอ้อเหมาพูดต่อ : “แต่ว่าฉันคงจะต้องบอกเอาไว้ก่อน ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่าลูกค้ารายใหญ่จะมาเมื่อไหร่ เพราะงั้นพวกนายจะต้องไปรอที่สนามบินกับสถานีรถไฟทุกวัน พวกนายสองคนจะต้องไปตั้งแต่เช้าทุกวัน จนกระทั่งสนามบินกับสถานีรถไฟปิดแล้ว พวกนายถึงจะกลับบ้านไปพักผ่อนได้ ช่วงนี้ห้ามพลาดเที่ยวบินหรือรถไฟความเร็วสูงเด็ดขาด ถ้าใครรับลูกค้าได้ ฉันจะมอบรางวัลหนึ่งหมื่น ถ้าใครผลาดลูกค้าไป ฉันจะไม่ให้อภัย เข้าใจไหม ?”