ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5541 เมินเขาสองวัน (1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5541 เมินเขาสองวัน (1)
โครงการการดำเนินการซื้อขายหุ้นของตระกูลอาน ในสถานการณ์ปกติ ถึงแม้คนอื่น ๆ จะรีบเอาเงินมาร่วมถือหุ้น ก็ยากที่จะได้โอกาส
และ ถึงแม้ส่วนหนึ่งของโครงการตระกูลอานจะเปิดลงทุนภายนอก ก็ไม่ใช่ว่าใครก็จะได้โควตาในการลงทุน การคัดเลือกพาร์ทเนอร์ที่ร่วมมือกับตระกูลอานมีข้อเรียกร้องมากมายมาแต่ไหนแต่ไร หากสินทรัพย์มีไม่มากพอกับเกณฑ์ที่เรียกร้อง มีเงินก็ร่วมลงทุนไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น โลกภายนอกที่อยากจะร่วมโครงการกับตระกูลอาน ก็เหมือนกับการลงทุนในกองทุนบริหารความมั่งคั่ง ถึงแม้จะได้รับโอกาส ก็จะต้องจ่ายค่าบริหารจัดการจำนวนหนึ่งให้กับตระกูลอานที่เป็นผู้การดำเนินการซื้อขายหุ้น และค่าบริหารจัดการนี้อย่างน้อยก็ต้องถึง 25 %
ถ้าหากหนึ่งโครงการหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ ตระกูลอานให้โควตากับข้างนอก 40 % ดูเหมือนว่าทุก ๆ จุดร้อยละจะสอดคล้องกันกับร้อยล้านดอลลาร์ แต่ในความเป็นจริง หากโลกภายนอกต้องการครอบครองหนึ่งจุดร้อยละ อย่างน้อยจะต้องจ่าย 125 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป
แต่ เงื่อนไขที่อานโฉงชิวให้ซ่งหวั่นถิง คือให้หุ้นกับซ่งซื่อกรุ๊ป 10% แบบเปล่า ๆ หากที่เหลือซ่งซื่อกรุ๊ปต้องการจะรับซื้อ ค่าบริหารจัดการก็จะไม่เก็บแม้แต่แดงเดียว การทำแบบนี้ในการร่วมมือในโครงการของตระกูลอาน เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
ซ่งหวั่นถิงรู้สึกประหม่าใจฝ่อเป็นอย่างมากครู่หนึ่ง
ตระกูลอานให้ผลประโยชน์ที่มากมายขนาดนี้ในช่วงเวลาแป๊บเดียว เธอไม่กล้ารับไว้เลย ถึงแม้เย่เฉินกำชับเธอไว้ก่อนแล้ว ไม่ว่าอานโฉงชิวจะเสนอเงื่อนไขอะไรให้เธอ เธอก็สามารถรับมันไว้ได้หมด แต่หลังจากได้ฟังอานโฉงชิวพูดเรื่องสองโครงการนี้จบ ซ่งหวั่นถิงกลับกลายเป็นถูกการทำงานการใช้เงินของตระกูลอานทำให้ตกตะลึง
ดังนั้น เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยปากพูดกับอานโฉงชิว : “คุณอาน ขอบคูณที่คุณเห็นความสำคัญของซ่งซื่อกรุ๊ปขนาดนี้ แต่สุภาษิตว่าไว้ไร้ความสำเร็จไม่รับเงินตอบแทน ซ่งซื่อกรุ๊ปมีดีอะไร ให้ตระกูลอานขายผลประโยชน์มากขนาดนี้ในราคาเท่าทุน…”
อานโฉงชิวกลัวว่าซ่งหวั่นถิงจะไม่กล้ารับ จึงรีบกล่าว : “คุณซ่ง คุณไม่ต้องแบกภาระด้านจิตใจอะไร ตระกูลอานมอบความบริสุทธิ์ใจเหล่านี้ ก็เพื่อจะได้เสริมประสิทธิ์ภาพการร่วมมือกันกับซ่งซื่อกรุ๊ป ถึงยังไงตระกูลอานก็มาที่เมืองจินหลิงเป็นครั้งแรก ถ้าสามารถร่วมมือกับซ่งซื่อกรุ๊ปที่เป็นบริษัทท้องถิ่นได้ ตระกูลอานก็สามารถลดขั้นตอนในการสร้างความคุ้นเคยกับตลาดท้องถิ่น และการไกล่เกลี่ยเงื่อนไขได้อีกมาก”
ระหว่างพูด เขาก็กล่าวอีก : “นอกจากนี้ คุณซ่งก็ไม่จำเป็นจะต้องรีบให้คำตอบกับผมในทันที เรื่องที่ผมพูดวันนี้มีผลในระยะยาว”
ในใจของอานโฉงชิวเข้าใจเป็นอย่างดี เบื้องหลังของซ่งหวั่นถิง เป็นผู้มีพระคุณคนนั้น ตัวเองมาหาเธอในตอนนี้ มองของขวัญล้ำค่าให้ แบบนั้นแน่นอนว่าเธอจะต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้มีพระคุณคนนั้นก่อน และดูว่าผู้มีพระคุณคนนั้นจะว่าอย่างไร
ถึงแม้ซ่งหวั่นถิงจะมีคำแนะนำของเย่เฉินอยู่แล้ว แต่ก็ไม่กล้าตอบรับผลประโยชน์เหล่านี้ในเวลานี้ พอได้ยินอานโฉงชิวพูด ก็รู้สึกว่าตัวเองโล่งใจขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นจึงกล่าว : “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันขอเวลาคุณอานคิดก่อนละกันนะคะ”
“ไม่มีปัญหาครับ !” อานโฉงชิวยิ้มเล็กน้อยกล่าว : “หลังจากผมไปแล้ว คุณซ่งลองคิดดูก่อนได้ ถ้ารู้สึกว่าข้อเสนอของผมในวันนี้ไม่มีปัญหา ผมจะนัดมาอีกที ถ้าคุณซ่งไม่สะดวกล่ะก็สามารถมอบหมายคนรับผิดชอบคนหนึ่งมานัดผมได้ มาพบปะและพูดคุยอย่างละเอียด”
“ค่ะ !” ซ่งหวั่นถิงพยักหน้าเบา ๆ กล่าว : “ถ้าฉันคิดได้แล้วจะให้คำตอบกับคุณอานนะคะ”
อานโฉงชิวยิ้มกล่าว : “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่รบกวนเวลาของคุณซ่งมากไปกว่านี้แล้ว เชิญคุณซ่ง ผมขอตัวก่อนครับ”
ซ่งหวั่นถิงกล่าว : “ฉันจะไปส่งคุณเองค่ะ”
ซ่งหวั่นถิงส่งอานโฉงชิวถึงหน้าห้องทำงาน จากนั้นให้ผู้ช่วยส่งอานโฉงชิวลงตึกไป และตัวเองก็กลับมาที่ห้องทำงาน โทรหาเย่เฉิน
ในสายโทรศัพท์ ซ่งหวั่นถิงรายงานเรื่องที่อานโฉงชิวเสนอเมื่อครู่ ให้กับเย่เฉินอย่างละเอียด และหลังจากที่เย่เฉินฟังจบ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะพูด : “ดูเหมือนว่าน้าชายใหญ่ของฉันคนนี้มีความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ ถ้าเกิดซ่งซื่อกรุ๊ปกับตระกูลอานร่วมมือกันได้ล่ะก็ อนาคตในหนึ่งปี มูลค่าของซ่งซื่อกรุ๊ปอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหรือมากกว่านั้น”