ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5499 ใกล้แค่เอื้อม (1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5499 ใกล้แค่เอื้อม (1)
สามทุ่มตามเวลาของนครนิวยอร์ก เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวดัดแปลงรุ่นโบอิ้ง748 บินออกจากสนามบินเคนเนดี มุ่งหน้าไปยังเมืองจินหลิงแห่งหัวเซี่ยที่อยู่ห่างไกลเป็นหมื่นกิโลเมตร
หลังจากบินไป 12 ชั่วโมง เครื่องบินลำนี้ของตระกูลอานก็ลงจอดที่สนามบินนานาชาติจินหลิง เวลา 9 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นในเมืองจินหลิง
เหล่าผู้รับใช้ได้มาถึงเมืองจินหลิงก่อนเวลา จัดเตรียมขบวนรถไว้ให้ผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลอาน รวมถึงอานโฉงชิว หลี่ญ่าหลินและคนอื่น ๆ เพื่อรับพวกเขาไปยังบ้านพักบนภูเขาว่านหลิว
เมื่อขบวนรถมาถึงบ้านพักบนภูเขาว่านหลิวก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว เวลานี้บ้านพักบนภูเขาว่านหลิวเงียบสงบเป็นพิเศษ และพ่อบ้านของตระกูลอานก็นำทางพวกเขาเข้าไปด้านในของบ้านพักบนภูเขาหลังนั้น
หลังจากการเดินทางอันเหน็ดเหนื่อยในเวลาสิบกว่าชั่วโมง ทำให้ทั้งสี่คนรู้สึกอ่อนล้า หลังจากแบ่งห้องกันเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนในห้องของตนเอง
โฮมสเตย์ว่านหลิ่วเป็นอาคารสามชั้นขนาดใหญ่ และมีโครงสร้างของชั้นใต้ติด มีพื้นที่ใช้สอยอย่างน้อย 800 ถึง 900 ตารางเมตร เนื่องจากมีพื้นที่กว้างใหญ่มากเพียงพอ แต่ละห้องจึงได้รับการออกแบบให้มีอ่างอาบน้ำ คู่สามีภรรยาชราอาศัยอยู่ในห้องที่ใหญ่ที่สุดบนชั้นสาม อานโฉงชิวอาศัยอยู่ห้องข้างของพวกเขา ส่วนหลี่ญ่าหลินก็อาศัยอยู่ห้องตรงข้ามของอานโฉงชิวเป็นการชั่วคราว
กลับมาถึงห้อง หลี่ญ่าหลินไม่สนใจเรื่องการพักผ่อน ก่อนอื่นเขาส่งข้อความไปหาหลี่ญ่าหลิน บอกเขาว่าตนเองมาถึงบ้านพักบนภูเขาว่านหลิวแล้ว
เย่เฉินในตอนนี้ เขากำลังนอนรอการรายงานของหลี่ญ่าหลินอยู่ข้างของเซียวชูหรัน
เซียวชูหรันที่อยู่ข้างกายของเขาหลับไปแล้ว และในตอนที่เขาได้รับข้อความของหลี่ญ่าหลิน หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยอารมณ์อยู่ชั่วขณะ
การมาถึงของคุณปู่และคุณย่า ไม่ใช่กุญแจสำคัญที่ทำให้เขาสะเทือนอารมณ์
สิ่งที่ทำให้เขาสะเทือนอารมณ์และไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เป็นเวลานานก็คือ การมาถึงของคุณปู่และคุณย่า ทำให้เขานึกถึงเรื่องในอดีตในวันที่พ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตโดยไม่ตั้งใจ
ตั้งแต่คุณปู่และคุณย่าออกเดินทาง ในสมองของเย่เฉินก็คิดถึงแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น
ในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับพ่อและแม่ของเขา เย่เฉินยังเรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียน สภาพอากาศในช่วงกลางเดือนมิถุนายน วันหยุดฤดูร้อนกำลังจะเริ่มขึ้น และวันนั้น อากาศในเมืองจินหลิงร้อนอบอ้าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมฆดำทะมึนปกคลุมท้องฟ้าอยู่เป็นนิตย์ มืดฟ้ามัวดิน ครั้นถึงยามบ่าย เสียงฟ้าร้องดังสนั่น สายฝนซัดสาดลงมาจากท้องฟ้า
ฝนตกอย่างรุนแรง ใช้เวลาเพียงแค่สิบนาทีก็ทำให้สนามเด็กเล่นในโรงเรียนเต็มไปด้วยน้ำ เย่เฉินยังจำได้ดี เสียงฟ้าร้องและเสียงฝนตกอันรุนแรงทำให้เด็กในชั้นเรียนจำนวนมากกลัวจนตัวสั่น
และในตอนนั้นเองก็มีคนผลักประตูห้องเรียนเข้ามา ร่างกายของเขาเปียกโชก ใบหน้าของถังซื่อไห่เต็มไปด้วยน้ำฝน ไม่สนคุณครูที่เข้าไปขวาง บุกเข้ามาในห้องเรียน อุ้มเย่เฉินที่นั่งเรียนอยู่ออกไปจากห้องทันที
เย่เฉินยังจำได้ ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ ชายวัยกลางคนชุดดำมากกว่าสิบคนที่ใบหน้าและเสื้อผ้าเต็มไปด้วยเม็ดฝน วิ่งไล่ตามเขามาด้วยสภาพจนตรอก
และสิ่งที่ทำให้เย่เฉินประหลาดใจมากไปกว่านั้นก็คือ ในอ้อมแขนของชายเหล่านั้นอุ้มเด็กอยู่หนึ่งคน ซึ่งเด็กแต่ละคนมีรูปร่าง หน้าตา และแต่งตัวคล้ายกับเขาเป็นอย่างมาก จากนั้น ภายใต้คำสั่งของถังซื่อไห่ ชายวัยกลางคนเหล่านั้นอุ้มเด็กวิ่งแยกตัวออกไปทั่วทุกทิศทาง ส่วนตัวเขาอยู่ในอ้อมแขนของถังซื่อไห่ วิ่งอยู่ท่ามกลางสายฝนอย่างบ้าคลั่ง
จากนั้นเย่เฉินถูกส่งไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เขาเติบใหญ่ ก่อนจะจากไป ถังซื่อไห่บอกเรื่องที่พ่อแม่ถูกสังหารให้เย่เฉินได้รับรู้ และบอกกับเย่เฉินว่าอย่าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับใครในชีวิตนี้
เย่เฉินที่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดก็ไม่มีเวลาให้เสียใจ ถังซื่อไห่หายตัวไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างไร้ร่องรอย และตั้งแต่วันนั้นมา เย่เฉินก็อาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในฐานะเด็กกำพร้าเป็นเวลา 10 ปีเต็ม
ในช่วงสองสามปีแรกของสิบปี เขาใช้ชีวิตเหมือนกับคนที่แยกตัวออกจากโลกใบนี้
ในตอนนั้น พวกเขาได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่เคยจัดให้พวกเขาออกไปข้างนอก ไม่มีกิจกรรมภายนอกในฤดูใบไม้ผลิ ไม่มีการไหว้บรรพบุรุษ ไม่มีการเข้าร่วมงานแสดง เด็กเหล่านี้อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในทุกวัน ช่วยป้าในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำงานบ้าน ดูแลและเก็บผักในแปลงผักของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และช่วยกันดูแลรักษาสิ่งต่าง ๆ ในนั้นเป็นอย่างดี
เย่เฉินในตอนนั้นคิดมาโดยตลอดว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไร้ซึ่งคุณทรัพย์ แค่ให้พวกเขาได้เล่าเรียน มีอาหารให้กินจนอิ่มทุกมื้อ เท่านั้นก็เต็มกลืนแล้ว
แต่เมื่อเขาได้รู้จักกับกู้ชิวอี๋อีกครั้ง เขาไปถามถังซื่อไห่ถึงได้รู้ว่า ที่จริงทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ถังซื่อไห่จัดเตรียมเอาไว้ เหตุผลที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแยกพวกเขาออกมาจากโลกภายนอก ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องเขาเพียงคนเดียว