ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5447 เดินไปดูไป 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5447 เดินไปดูไป 1
ถูกลูกศิษย์เปิดโปงซึ่ง ๆ หน้า หงฉางชิงก็รู้ต้องรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
เข้าทอดถอนใจ กล่าวอย่างจนปัญญา: “ซือฉี ในเมื่อได้พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว งั้นอาจารย์ก็จะพูดความจริงกับเธอก็แล้วกัน เตายานั่น เพราะอาจารย์ได้มีแผนร้ายในใจอยู่ก่อน ขโมยไก่ไม่ได้ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ จะกล่าวโทษไปถึงอาจารย์เย่ไม่ได้……”
หลงซือฉีมองดูหงฉางชิงที่รู้สึกผิดเล็กน้อย จึงถามขึ้นมาด้วยความตกใจ: “อาจารย์ ที่จริงเรื่องมันเป็นมายังไงเหรอคะ?”
หงฉางชิงถอนหายใจยาว ๆ และได้เล่าเรื่องราวว่าทำไมตนเองถึงมาจินหลิง รวมทั้งหลังจากได้มาถึงจินหลิงแล้ว ตอนเองจงใจหลอกล่อซือเทียนฉีอย่างไร ให้หลงซือฉีฟังจนหมด
หลงซือฉีฟังจบ อดไม่ได้ที่จะกล่าวตำหนิ: ……ถ้าหากสืบเอาเรื่องขึ้นมา มันไม่เท่ากับการฉ้อโกงหรอกเหรอคะ?”
หงฉางชิงกุมใบหน้าด้วยมือข้างหนึ่ง กล่าวอย่างเศร้าใจกลัดกลุ้ม: “ตอนนั้นอาจารย์ค่อนข้างรีบร้อนอยากเห็นผลสำเร็จนี่นา……อาจารย์คิดว่า ถึงยังไงซือเทียนฉีก็เป็นหมอที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่มีเงิน หากอาจารย์ต้องการซื้อมัน เขาจะต้องไม่ขายอย่างแน่นอน ดังนั้นอาจารย์เลยคิด หลอกล่อให้เขาพนันกับอาจารย์……”
“อีกอย่าง อาจารย์คิดว่าคนแบบนี้ หากใช้เงินมาพนันกับเขา เขาคงไม่สนใจอาจารย์อย่างแน่นอน ดังนั้นอาจารย์เลยเอาเตายาออกมา คิดใช้มันเป็นตัวล่อ……”
“แต่คิดไม่ถึงว่า……สุดท้ายจะมีจุดจบแบบนี้……”
หลงซือฉีอดไม่ได้ที่จะกล่าวตำหนิ: “อาจารย์! ในเมื่อเตายานั่นเป็นสมบัติประจำสำนักของเต๋าไท่เจิน ไม่ว่ายังไงท่านก็ไม่ควรนำมันออกมา!”
หงฉางชิงแบมือทั้งสองข้างออก กล่าวด้วยใบหน้าหงุดหงิด: “เดิมทีฉันคิดว่า เรื่องแบบนี้ในเมื่อเป็นคนวางอุบาย ก็ต้องชนะอย่างแน่นอนอยู่แล้ว เอาเตายาออกมาก็เพื่อล่อให้เขาติดกับเท่านั้นเอง ไม่มีทางที่จะแพ้เตายาให้เขาอย่างแน่นอน แต่ที่ฉันคิดไม่ถึงก็คือ หลานสาวของเขาสนิทกับอาจารย์เย่มาก โทรไปหาอาจารย์เย่ เรื่องนี้เลยอยู่เหนือการควบคุมของอาจารย์
หลงซือฉีกล่าวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้: “อาจารย์ ท่านทำให้คนรู้สึกผิดหวังจริง ๆ”
หงฉางชิงรู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ยังคงกล่าวแก้ตัวด้วยท่าทางจริงจัง: “ซือฉี เรื่องนี้เป็นอาจารย์ที่เลอะเลือนไปชั่วขณะ ทำให้เกิดความผิดครั้งใหญ่……แต่พูดจากใจจริงนะ ก็เหมือนกับคำพูดที่ว่าการสูญเสียระยะสั้น อาจนำมาซึ่งความโชคดีระยะยาว? ถ้าอาจารย์ไม่ทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ก็คงไม่ได้รู้จักกับอาจารย์เย่เร็วแบบนี้! อีกอย่างอาจารย์เย่ก็ถือว่าปฏิบัติกับอาจารย์ไม่เลว ยอมให้อาจารย์อยู่ข้างกาย ทำงานรับใช้เขา”
หลงซือฉีขมวดคิ้วเอ่ยถาม: “อาจารย์คะยังไงท่านก็เป็นถึงเจ้าสำนักของเต๋าไท่เจิน ต่อให้อาจารย์เย่คนนั้นมีฝีมือสูงส่ง อาจารย์ก็ไม่ควรเอาตำแหน่งฐานะของเต๋าไท่เจินทิ้งไว้ข้างหลัง เพียงเพราะต้องการประจบสอพลอเขาหรอกมั้งคะ?”
หงฉางชิงโบกมือ กล่าวอย่างจริงจัง: “เธอจะเข้าใจอะไร? คนโบราณว่าเอาไว้ว่าตอนเช้าได้สัมผัสสัจธรรม ตอนกลางคืนแม้ต้องตายก็ยินดี แค่ตำแหน่งเจ้าสำนัก มันจะนับอะไรได้?”
กล่าวไป หงฉางชิงก็เอ่ยด้วยท่าทางเคร่งขรึม: “ซือฉี อาจารย์ขอพูดกับเธอจากใจจริงนะ เต๋าไท่เจินของเราพัฒนามาเป็นเวลาหลายปีเช่นนี้ คนที่สามารถเข้าสู่แดนมืดได้จริง ๆ กลับมีไม่กี่คน เธอรู้ไหมว่าเพราะอะไร?”
หลงซือฉีครุ่นคิด กล่าว: “อาจเป็นเพราะสติปัญญาของศิษย์รุ่นหลานอย่างพวกเราด้อยเกินไป ขาดคุณสมบัติที่จะกลายเป็นยอดฝีมือแดนมืด……”
“ใช่ที่ไหนล่ะ!” หงฉางชิงทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา กล่าว: “เมื่อก่อนอาจารย์ก็คิดเหมือนเธอนั่นแหละ แต่หลังจากอาจารย์โชคดีมีโอกาสรู้จักกับอาจารย์เย่ถึงได้รู้ว่า 《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》ที่สืบทอดกันมานับพันปีของเต๋าไท่เจินของพวกเรา ดูเหมือนว่าจะสมบูรณ์ แต่ความจริงแล้วเป็นเพียงหนึ่งในยี่สิบเจ็ดของ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》ทั้งหมด! พูดอีกนัยหนึ่ง ที่พวกเรามีอยู่ในมือนั้นเป็นเพียงเนื้อหาระดับอนุบาล K1 ในเส้นทางแห่งวิถีบู๊เท่านั้น! เธอหวังว่าจะอาศัยเนื้อหาพวกนี้ สามารถฝึกฝนได้ถึงระดับไหน?!”