ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5445 ตื่นจากความฝัน 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5445 ตื่นจากความฝัน 1
เดิมทีหลงซือฉีก็ยังไม่ทันรู้สึกตัวจากความจริงที่จู่ ๆ ก็บรรลุถึงแดนสว่างชั้นสูงสุด สมองยังอยู่ในอาจารย์งุนงง ดังนั้นก็ยิ่งคิดไม่เข้าใจว่า คำพูดในช่วงหลังของเย่เฉินนั้นหมายความว่าอย่างไร
ยังไม่รอให้เธอได้สติกลับคืนมา หงฉางชิงที่อยู่ด้านข้างพลันมองไปที่หลงซือฉี อุทานอย่างตกใจ: “ซือฉี ทำ……ทำไมเธอกลับมาเป็นนักบู๊ห้าดาวอีกแล้วล่ะ?!”
เสียงอุทาน เป็นเหมือนกับน้ำเย็น ๆ ที่ได้สาดจนหลงซือฉีตื่นขึ้น
ตอนนี้เธอถึงรู้สึกได้ว่า ผลการฝึกฝนของตนเอง ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นที่สุด จากแดนสว่างชั้นสูงสุด ได้กลับถึงนักบู๊ห้าดาวอีกครั้ง……
ภายในใจของเธอนั้นตกตะลึงอย่างสุดขีด คิดไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าแท้จริงแล้วเย่เฉินทำได้ยังไงกันแน่ ถึงกับสามารถเปลี่ยนผลการฝึกฝนของตนเองไปมาได้ตามอำเภอใจภายในพริบตาแบบนี้!
และในวินาทีนี้เอง เธอถึงรู้สึกได้ว่า ความสามารถของเย่เฉิน ได้แข็งแกร่งจนถึงขั้นอยู่เหนือจินตนาการของตนเองแล้ว!
และต่อจากนั้น ภายในใจของเธอก็เปลี่ยนเป็นผิดหวังถึงขีดสุด
ที่ผิดหวังก็เพราะว่า เมื่อสักครู่นั้นตนเองได้กลายเป็นยอดฝีมือแดนสว่างชั้นสูงสุดแล้วจริง ๆ!
นั่นเป็นความฝันในชาตินี้ของเธอเชียวนะ! มันสามารถเป็นจริงได้อย่างง่ายดายในชั่ววินาทีที่ยังไม่ทันตั้งตัว!
น่าเสียดาย ความฝันนี้เป็นเหมือนดั่งฝนดาวตกลูกหนึ่งเท่านั้น แม้จะแวววาวพร่างพราย แต่กลับหายวับไปอย่างรวดเร็ว
วินาทีนี้ หลงซือฉีเหมือนดั่งพึ่งตื่นจากความฝัน ภายในใจของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง
มองไปที่เย่เฉินอีกครั้ง ในสายตาของเธอไม่มีความโอ้อวดและเย่อหยิ่งเหลืออยู่อีกแล้ว ที่มีนั้น เป็นเพียงความอ้างว้างและความอัปยศที่พูดไม่ออก บอกไม่ถูกเท่านั้น
ตอนนี้เย่เฉินได้ปล่อยมือที่อ่อนนุ่มของหลงซือฉี มองไปยังหงฉางชิง แล้วเอ่ยขึ้น: “อาจารย์หง พวกคุณศิษย์อาจารย์หารือกันให้ดีว่าจะถ่ายทอดตำแหน่งกันยังไง ผมไม่รบกวนแล้วนะ”
กล่าวจบ เขาก็ก้าวเท้าเดินออกไปด้านนอก
หงฉางชิงรีบตามไปทันที กล่าวด้วยความเคารพนอบน้อม: “อาจารย์เย่ค่อย ๆ ไปนะครับ ผมต้องจัดการเรื่องทั้งหมดของการถ่ายทอดตำแหน่งให้ได้ภายในวันนี้อย่างแน่นอน!”
กล่าวจบ ก็ได้ชิงเปิดประตูห้องให้กับเย่เฉินก่อน
ได้ยินเสียงเปิดประตู หลงซือฉีก็หันไปมองโดยสัญชาตญาณ พบว่าเงาหลังของเย่เฉินได้หายไปที่ด้านนอกประตู ก็ยิ่งรู้สึกสิ้นหวังเข้าไปใหญ่
หงฉางชิงส่งเย่เฉินออกไป แล้วถึงได้วิ่งเหยาะ ๆ กลับมา ปิดประตูลง กล่าวกับหลงซือฉีด้วยความเสียดายอย่างสุดขีด: “ซือฉีเธอเลอะเลือนแล้ว!! อาจารย์ฝึกวิชาบู๊อย่างยากลำบากมาครึ่งค่อนชีวิต ก็ไม่เคยเห็นยอดฝีมือที่มีพลังวิเศษอย่างอาจารย์เย่มาก่อนเลย สามารถพบกับอาจารย์เย่ก็นับว่าเป็นโอกาสอันใหญ่หลวงแล้ว ได้รับคำชี้แนะจากอาจารย์เย่ ก็ยิ่งเป็นโอกาสในโอกาส ทำไมเธอกลับไปล่วงเกินอาจารย์เย่เข้าเสียแล้วล่ะ……”
หลงซือฉีเอ่ยถามด้วยท่าทางเหม่อลอยเล็กน้อย: “อาจารย์ค่ะ……คุณเย่ท่านนี้……เป็นใครมาจากไหนกันแน่เหรอคะ……ต่อให้เป็นนักบู๊ที่มีพรสวรรค์สูงส่งแค่ไหน ฝึกฝนจากนักบู๊ห้าดาวถึงแดนสว่างชั้นสูงสุด อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหลายปี หรือแม้กระทั่งสิบกว่าปี เอาสามารถเปิดเส้นลมปราณทั้งสามเส้นของศิษย์ภายในพริบตาได้ยังไงกันแน่?”
หงฉางชิงทอดถอนใจ กล่าว: “ซือฉี พลังวิเศษของอาจารย์เย่ ได้อยู่เหนือความรับรู้เข้าใจของพวกเราไปนานแล้ว ทำไมอาจารย์ถึงต้องถ่ายทอดตำแหน่งเจ้าสำนักให้เธอ ก็เพราะนับจากนี้ไปอยากติดตามอยู่ข้างกาย ทำงานให้อาจารย์เย่อย่างมั่นคง และถือโอกาสขอโอกาสเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปด้วย……”
ในสายตาของหลงซือฉีได้เต็มไปด้วยความเสียใจในภายหลัง อดไม่ได้ที่จะถามหงฉางชิง: “อาจารย์คะ ความสามารถของคุณเย่ คงจะอยู่เหนือแดนมืดไปนานแล้วสินะคะ?”
หงฉางชิงพยักหน้า: “ความสามารถของอาจารย์เย่ เกรงว่าคงอยู่เหนือขอบเขตวิถีบู๊แล้ว ฉันเคยได้ยินอาจารย์ปู่ของฉันพูดถึง เมื่อหลายปีก่อน เจ้าสำนักคนที่สิบของเต๋าไท่เจินได้ทิ้งบันทึกเอาไว้ ท่านบอกว่าบนโลกใบนี้ มีเส้นทางการฝึกฝนอย่างหนึ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าวิถีบู๊ ที่คนพวกนี้ฝึกฝนนั้น ไม่ใช่ชี่แท้ที่คนในวิถีบู๊ฝึกฝนแล้ว แท้เป็นปราณทิพย์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า”