ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5406 ขอให้คุณได้รับชัยชนะล่วงหน้า! 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5406 ขอให้คุณได้รับชัยชนะล่วงหน้า! 2
เวลา 3 ทุ่ม
เครื่องบินเจ็ตธุรกิจลำหนึ่งบินขึ้นจากสนามบินเนเปิลส์ มุ่งหน้าไปทางสนามบินลาร์นากาแห่งไซปรัส
บนเครื่องบินลำนั้น โอวป๋อจวินท่าทางดูผ่อนคลาย การเดินทางไปไซปรัสในครั้งนี้ สำหรับเขาแล้วไม่ต่างอันใดกับคนธรรมดาเดินทางไปโรงเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอันตราย
เครื่องบินบินไปได้ครึ่งทาง จู่ ๆ เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ใช้แอพพลิเคชันสื่อสารภายในขององค์กรพั่วชิง กดส่งคำเชิญวิดีโอคอลไปยังท่านเอิร์ลติ้งหยวน หยุนหรูเกอซึ่งอยู่หย่วนตง
หยุนหรูเกอไม่ได้รับสาย หลังจากที่กดปฏิเสธวิดีโอคอลของเขาแล้วก็ได้ส่งข้อความเสียงกลับมาว่า “ท่านเอิร์ลเจี้ยนกง โทรหาฉันมีธุระอะไร?”
โอวป๋อจวินหัวเราะออกมาเหอะ ๆ แล้วกล่าวว่า “หรูเกอ หย่วนตงสถานที่แห่งนั้นคงจะน่าเบื่อมากสินะ วันนี้ผมเดินทางไปที่เนเปิลส์ พบว่าทางยุโรปใต้ทั้งอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมไม่เลวทีเดียว ถ้ามีโอกาสละก็ พวกเราไปเที่ยวเล่นที่นั่นด้วยกันสักหน่อยไหม?”
หยุนหรูเกอกล่าวขึ้นเบา
โอวป๋อจวินตอบกลับว่า “หรูเกอ ทำไมถึงชอบปฏิเสธผมนัก เอาแต่เก็บตัวอยู่ที่ห่างไกลแบบนั้นคนเดียว หลายปีมานี้ผมจริงใจกับเธอแค่ไหน เธอก็น่าจะรู้ดี คุณลองเปิดใจมองไปรอบกายดูซิว่ามีใครที่เหมาะสมกับเธอมากกว่าผมอีก?”
หยุนหรูเกอเอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรนัก “ทำไมฉันต้องให้คนอื่นมาเหมาะสมกับฉันด้วย นายคงไม่ได้คิดว่าจวบจนกระทั่งบัดนี้ ฉันยังมีความต้องการในเรื่องอารมณ์ความรู้สึกอย่างนั้นอีกใช่ไหม? ความรู้สึกมันทำอะไรได้? ทำให้เลื่อนขั้นผลการฝึกฝนได้หรือ? ทำให้เป็นอมตะได้หรือไง?”
โอวป๋อจวินถอนหายใจออกมาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มเคอะเขินว่า “หรูเกอ ดูเธอเข้าสิ แม้ว่าความรู้สึกจะไม่สามารถช่วยอัพเกรดผลการฝึกฝนได้ และไม่สามารถทำให้เป็นอมตะได้ แต่มันช่วยเติมเต็มมนุษย์ได้ ทั้งเธอและผมไม่ว่าจะพยายามฝึกฝนมากเท่าไหร่ก็ไม่อาจเป็นอมตะได้อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วสักวันคงต้องตาย แล้วเหตุทำไมไม่ใช้เวลาที่มีอยู่มาสร้างความสุขให้ตัวเองเล่า?”
หยุนหรูเกอกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ขอโทษทีนะ แต่ฉันไม่สนใจเรื่องของความสุขเหล่านั้นหรอก”
โอวป๋อจวินรู้สึกเดือดร้อนขึ้นทันใด ถามกลับว่า “เธอจะเป็นผู้หญิงแก่ที่ไม่แต่งงานตลอดไปไม่ได้หรอกนะ หากว่าไม่อยากหาคู่ แต่อย่างน้อยก็ควรให้กำเนิดลูกชายลูกสาวเอาไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นถ้าเราตายไปแล้วใครจะจัดงานศพ คารวะหลุมศพ เผากระดาษเงินกระดาษทองให้เรา?”
หยุนหรูเกอพูดขึ้นอย่างไม่แยแส “คนเราตายไปแล้วก็เหมือนเทียนเล่มที่ดับไป เมื่อฉันตายไปจริงๆ จุดจบที่ดีก็คือตายไปอย่างไร้ห่วง ให้ร่างจอมปลอมนี้กลายเป็นผุยผง กลับคืนสู่ผืนดิน ส่วนเรื่องหลุมศพ คารวะศพ เผากระดาษเงินกระดาษทองอะไรนั่น ในตอนนั้นฉันตายไปแล้วจะต้องการสิ่งเหล่านี้ทำไมอีก?”
โอวป๋อจวินสังเกตได้ว่าหยุนหรูเกอกำลังกีดกันตนเองจากเขา จึงถอนหายใจแล้วส่ายหน้า พูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าจะได้มายังโลกใบนี้ ผมไม่อยากจะตายไปอย่างเงียบ ๆ ไร้คนรู้จัก ผมอยากจะให้มีคนยังคงจำชื่อผมได้อยู่หลังจากผมตายไปแล้ว ไม่อยากให้ทุกคนลืมผม”
หยุนหรูเกอหัวเราะออกมาหึ ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นนายก็รีบหาผู้หญิงสักคนแต่งงานด้วยสิ แล้วให้เธอมีลูกสัก 2 – 3 คน รอเมื่อนายตายไปก็จะได้มีลูกหลานคอยเผากระดาษเงินกระดาษทองให้”
โอวป๋อจวินพูดด้วยความหงุดหงิดใจว่า “ท่านเอิร์ลติ้งหยวน ไม่ว่าผมจะพยายามเสนอวิธีไหนก็ตาม แต่เธอก็หาเหตุผลต่าง ๆ นานามาขัดผม ผมโอวป๋อจวินมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? ไม่อาจเข้าตาท่านเอิร์ลติ้งหยวนได้เลย?”
หยุนหรูเกอยิ้มขึ้นเบาๆ “ท่านเอิร์ลเจี้ยนกงพูดตลกไป หรูเกอเป็นใครอย่างไรกัน ท่านจึงได้ให้ความสำคัญเช่นนี้? ไม่ใช่ว่าหรูเกอไม่เห็นท่านในสายตา เพียงแต่หรูเกอให้ความสำคัญกับการบำเพ็ญตน หากเราสามารถเป็นอมตะได้ ทุกสิ่งอย่างในโลกใบนี้ไม่ช้าก็เร็วเราล้วนได้มันมา แต่หากไม่สามารถเป็นอมตะได้ ทุกอย่างก็เหมือนกับปุยเมฆที่จางหายไปได้ต่อหน้าต่อตา หรูเกอไม่ชื่นชอบความรู้สึกเช่นนี้เลย”
โอวป๋อจวินชะงักลงเล็กน้อย ถอนหายใจกล่าวว่า “การเป็นอมตะจะได้มาอย่างง่ายดายได้อย่างไร ต่อให้เป็นท่านอาวุโสผู้มีพระคุณเองก็ยังไม่มีคุณสมบัตินั้น ผู้ที่เป็นอมตะต้องเก่งกาจเพียงไรกัน!”
หยุนหรูเกอกล่าวขึ้นเบา ๆ ว่า “เรื่องการแสวงหานั้นเป็นเรื่องของฉัน ส่วนเรื่องจะได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสวรรค์เบื้องบน ไม่มีสิ่งใดขัดแย้งกัน”
กล่าวจบ หยุนหรูเกอก็ส่งข้อความเสียงฉบับหนึ่งกลับมาว่า “ท่านเอิร์ลเจี้ยนกง แม้ว่านายกับฉันจะเป็นเพื่อนร่วมโลกกัน แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็เดินทางคนละสาย ฉันหวังว่าต่อจากนี้ท่านเอิร์ลเจี้ยนกงจะไม่ใช้เวลาสิ้นเปลืองอยู่กับหรูเกออีก”
ในใจของโอวป๋อจวินรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก ขณะเดียวกันก็ทั้งเศร้าโศกโมโห ไม่อยากยอมแพ้
แต่หยุนหรูเกอกล่าวมาถึงจุดนี้แล้ว เขาก็ไม่มีหน้าพอจะไปยื้อเธอไว้อีก ได้แต่ถอนหายใจออกมาพูดอย่างไร้หนทางว่า “เอาเถอะ ๆ ท่านเอิร์ลติ้งหยวนเฉลียวฉลาดสูงส่งยิ่งนัก ผมคงไม่อาจจะเอื้อมมือไปคว้าเธอมาได้ ในวันนี้ถือว่าผมขอโทษที่ทำให้เธอเสียเวลาก็แล้วกัน ต่อจากนี้ถ้าเราเจอกันอีก หวังว่าท่านเอิร์ลติ้งหยวนจะไม่ติดใจเอาความ”
หยุนหรูเกอยิ้มขึ้นกล่าวว่า “ฉันเป็นคนลืมง่าย เมื่อครู่ฉันลบข้อมูลที่ท่านเอิร์เจี้ยนกงเอ่ยถามมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านเอิร์ลเจี้ยนกงกล่าวสิ่งใดออกมาบ้าง ฉันเองก็จำไม่ได้เสียแล้ว”
โอวป๋อจวินรู้ว่าหยุนหรูเกอกำลังกลบเกลื่อนเรื่องเมื่อครู่ จึงได้ตอบกลับไปว่า “ในเมื่อท่านเอิร์ลติ้งหยวนเองก็ลืมไปแล้ว เช่นนั้นเรื่องนี้อย่าได้เอ่ยถึงมันอีก หวังว่าพวกเราทั้งสองจะสามารถปฏิบัติภารกิจที่ผู้มีพระคุณมอบหมายให้แก่เราได้ ขออวยพรให้โชคดี!”