ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5401 งั้นตกลงตามนี้เลย! 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5401 งั้นตกลงตามนี้เลย! 2
ทั้งสองคนชนแก้วไวน์เบาๆ และเงยหน้าขึ้นดื่มจนหมด
เมื่อวางแก้วไวน์ลง อู๋ซูถงก็แสดงความกลุ้มใจขึ้นมา ถอนหายใจและพูดว่า : “ท่านเอิร์ลเจี้ยนกง บอกตามตรงนะ ข้าน้อยรู้ดีว่าท่านมาที่หน่วยบัญชาการกองทัพขวาเพื่ออะไร คำสั่งลับเพื่อปฏิบัติการครั้งก่อนของผู้มีพระคุณ ข้าน้อยได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ ตลอดมาข้าน้อยทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และรู้ดีว่ามันยากที่จะหลุดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย ครั้งนี้ท่านเอิร์ลเจี้ยนกงได้โปรดสืบหาต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ด้วย เพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้แก่ข้าน้อย!”
โอวป๋อจวินคิดไม่ถึงว่า อู๋ซูถงจะเข้าสู่ประเด็นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ เขาจึงวางแก้วไวน์ลง และกล่าวอย่างจริงจังว่า : “ผู้บัญชาการอู๋ ฉันอยากจะทราบว่า คำสั่งลับของผู้มีพระคุณหลังจากที่อยู่ในมือของคุณแล้ว มันถูกถ่ายทอดออกไปได้อย่างไร?”
อู๋ซูถงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา : “คำสั่งของผู้มีพระคุณมาถึงมือข้าน้อยโดยตรง ตามหลักการแล้วยิ่งคนรู้น้อย ความเสี่ยงที่ความลับจะรั่วไหลออกไปก็เป็นไปได้น้อยเช่นกัน และไม่ได้บอกเรื่องนี้กับผู้รับผิดชอบภายในเลย และส่งคำสั่งลับนี้ให้กับหนี่เจิ้นหยูขุนพลหัวเมืองที่รับผิดชอบดูแลทหารหน่วยกล้าตาย ให้เขาเลือกสมาชิกที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทหารม้ากล้าเพื่อไปยังยุโรปเหนือ”
โอวป๋อจวินถามว่า : “งั้นคนเหล่านี้ที่ติดต่อกับคนที่ให้คำสั่งลับ รู้จักตัวตนของหลินหว่านเอ๋อร์หรือเปล่า?”
“ไม่ทราบเลยครับ” อู๋ซูถงพูดออกมาอย่างไม่ลังเล : “พูดตามตรงท่านเอิร์ลเจี้ยนกง ทั้งหน่วยบัญชาการกองทัพขวา ที่รู้จักตัวตนของหลินหว่านเอ๋อร์ ก็มีแค่ฉันเพียงคนเดียว ในวันนั้นที่ฉันส่งคำสั่งลับให้หนี่เจี้ยนหยู ก็เพียงแค่บอกเขาว่า ให้ขาไปจับตัวเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ยุโรปเหนือเท่านั้น แม้แต่เขาก็ไม่ได้รู้จักตัวตนของหลินหว่านเอ๋อร์ ส่วนทหารม้ากล้าเหล่านั้นที่ไปปฏิบัติภารกิจ ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทราบ พวกเขาทราบเพียงว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือสิ่งที่ผู้มีพระคุณต้องการ จับได้จะมีรางวัลอย่างหนัก”
โอวป๋อจวินพยักหน้า เขาคาดเดาสถานการณ์เช่นนี้เอาไว้ก่อนแล้ว นี่คือสไตล์การดำเนินการของผู้มีพระคุณ ผู้มีพระคุณปรารถนาให้คนที่ไปจับหลินหว่านเอ๋อร์ ไม่รู้ว่าตัวตนของหลินหว่านเอ๋อร์คืออะไร มีความพิเศษอะไร นี่จะสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นภายในได้
นึกถึงตรงนี้ เขาจึงเอ่ยถามอู๋ซูถงว่า : “ผู้บัญชาการอู๋ เรื่องนี้คุณได้ไปถามหนี่เจิ้นหยูในภายหลังหรือเปล่า? คนที่เขาส่งออกไป หากมีหนอนบ่อนไส้ในเรื่องนี้ เช่นนั้นหนอนบ่อนไส้จะต้องเป็นเขาหรือลูกน้องของเขาอย่างแน่นอน กระทั่งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะเป็นเขากับลูกน้องของเขาด้วยซ้ำ!”
อู๋ซูถงกล่าวว่า : “เรียนท่านเอิร์ลเจี้ยนกง ข้าน้อยเคยรายงานเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับผู้มีพระคุณแล้ว ฉันกับเขาต่างคิดว่า ในพวกเราไม่น่าจะมีหนอนบ่อนไส้ เนื่องจากหนี่เจิ้นหยูและคนอื่นๆ เดิมทีแล้วไม่รู้ว่าคนที่จะต้องไปจับคือใคร อีกอย่างหนึ่ง เพื่อไม่ให้สิ่งสำคัญของเป้าหมายเปิดเผยออกไปสู่สาธารณชน หนี่เจิ้นหยูจึงนำทีมไปด้วยตนเอง แต่ฉันไม่อนุญาต เพราะว่าตามข่าวกรองที่ฉันได้รับ ข้างๆ กายของหลินหว่านเอ๋อร์ไม่ได้มีปรมาจารย์ที่คอยบัญชาการอะไรเลย ทหารม้ากล้าไม่กี่นายก็เพียงพอแล้วที่จะจับเธอและนำตัวกลับมา”
“ดังนั้น ตรรกะของเรื่องทั้งหมดนี้จึงแปลกประหลาดเล็กน้อย คนที่รู้ว่าต้องไปจับหลินหว่านเอ๋อร์ ก็มีเพียงผู้มีพระคุณกับข้าน้อยเท่านั้น ข้าน้อยมีความจงรักภักดีต่อผู้มีพระคุณ เป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดเผยความลับสู่สาธารณชน ด้วยเหตุนี้ ข้าน้อยคิดว่า เป็นไปได้มากที่อีกฝ่ายจะเป็นสายลับสอดแทรกอยู่ในที่นี้ของเรา หรือมีวิธีผ่านทางใดทางหนึ่งทร่เราไม่รู้ เพื่อจับทิศทางการเคลื่อนไหวของเรา”
พูดถึงตรงนี้ อู๋ซูถงยังกล่าวอีกว่า : “ก่อนที่ท่านจะมาถึงเนเปิลส์ ผู้มีพระคุณเคยอธิบายกับข้าน้อยว่า เขาหวังว่าท่านจะสามารถค้นหาได้ว่าอีกฝ่ายจับชิ่งโหว่ของเราได้จากจุดไหน เป็นไปได้ไหมว่าอีกฝ่ายจะแฝงตัวเข้าไปในทหารหน่วยกล้าตายแล้ว หรือแอบควบคุมและสังเกตการณ์ทหารหน่วยกล้าตายอยู่ แต่เราไม่ทราบเอง?”
โอวป๋อจวินเงียบไปครู่หนึ่ง สมองทำงานอย่างรวดเร็ว
แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่ใช่หลี่ญ่าหลิน