ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5301 บททดสอบของเย่เฉิน 1t
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5301 บททดสอบของเย่เฉิน 1
เย่เฉินมองเขาและพูดเรียบๆ: “ดูเหมือนว่านายจะรู้ตัวและกลับตัวกลับใจแล้ว กลับมาครั้งนี้หากไม่เดินต่อไปบนเส้นทาง แสวงบุญก็พอเท่านี้”
เมื่อเย่เฉินพูดแบบนี้ซูจือเฟย ตู้ไห่ชิงและซูจือหยูสองแม่ลูกต่างก็ประหลาดใจ
ซูจือเฟยคิดว่าเขาหูฝาดคิดไม่ฝันว่าเย่เฉินจะให้เขาหยุดแสวงบุญ ตนเพิ่งเดินไปแค่หนึ่งในสามและเป็นหนึ่งในสามที่ง่ายที่สุด ที่เหลืออีกสองในสามเป็นความท้าทายที่รุนแรงที่สุดขฌ ไม่เกินจริงที่จะบอกว่าเมื่อระดับความสูงสูงขึ้นเรื่อยๆหนทางข้างหน้าก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ หากหยุดตอนนี้อย่างน้อยก็สามารถเลี่ยงความยากลำบากได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์
สิ่งที่เย่เฉินพูดไม่ได้ออกมาจากความตั้งใจทั้งหมดของเขา
เขาแค่ต้องการดูว่าซูจือเฟยกลับใจแล้วจริงๆหรือไม่
หากเขากลับใจได้จริงๆและตัดสินใจทิ้งทุกอย่างที่ผ่านมาหญ เขาก็จะเลือกเดินเส้นทางแสวงบุญให้สำเร็จอย่างแน่นอน
แต่หากใจเขาคิดได้ เขาก็จะคว้าโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ไว้อย่างแน่นอน
ที่เย่เฉินทดสอบเขาด้วยวิธีนี้ก็เพื่อตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้ซูจือเฟยกลับสู่ระบบของตระกูลซูในอนาคตหรือไม่
แม้ว่าหัวหน้าตระกูลซูคนปัจจุบันคือซูจือหยู แต่แค่ซูจือหยูคนเดียวไม่สามารถดูแลตระกูลซูทั้งหมดเพียงลำพังได้ ซูจือหยู เป็นเหมือนประธานของกลุ่มบริษัทมีอำนาจการตัดสินใจและอำนาจการยับยั้งสูงสุด เธอไม่สามารถทำเรื่องสำคัญทั้งหมดด้วยตัวเอง ดังนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอจึงต้องดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งเพื่อช่วยเธอบริหารงานของตระกูลซูทั้งหมด
บริษัทที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ ภายใต้ประธานอย่างน้อยต้องมีประธานบริหารอีกหลายคนและหัวหน้าบริหาร และในแต่ละสาขาก็ต้องมีทีมบริหารชุดหนึ่งดูแลจัดการ ซึ่งตำแหน่งสำคัญเหล่านี้ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจสูง ฉะนั้นต้องให้คนที่เชื่อถือได้มาทำหน้าที่นี้จึงจะสามารถหลีกเลี่ยงความล้มเหลวในการบริหารงานได้สูง
แต่ตอนนี้ซูจือหยูมีคนที่สามารถใช้งานได้ไม่มาก ก่อนหน้านั้นพ่อของเธอถูกตระกูลเหอกักบริเวณและไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของตระกูลซูได้และนายท่านซูเฉิงเฟิงก็ไปมาดากัสการ์ ส่วนตู้ไห่ชิงก็ได้หย่าร้างกับซูโสว่เต้าแล้วจึงไม่สะดวกที่จะมามีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับซูซื่อกรุ๊ป
ดังนั้นหากซูจือเฟยสามารถกลับตัวกลับใจได้อย่างสมบูรณ์ เย่เฉิน ยังหวังว่าเขาจะกลับไปที่ตระกูลซูและให้ซูจือหยูใช้งาน
ด้วยความคิดนี้เย่เฉินตัดสินใจให้บททดสอบที่แท้จริงครั้งหนึ่งแก่ซูจือเฟย
หากซูจือเฟยผ่านการทดสอบนี้ และแม้ว่าต่อไปเขาได้กลายเป็นสมาชิกหมายเลขสองของตระกูลซูญห ตัวเองก็จะไม่ขัดขวาง
แต่ถ้าซูจือไม่ผ่านการทดสอบนี้ ตั้งแต่นี้แม้ว่าเขาจะได้รับอิสรภาพกลับคืนมาแต่ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองทรัพย์สินของตระกูลซู
เนื่องจากเขาต้องการหาลูกน้องที่สามารถไว้ใจได้และจงรักภักดีต่อซูจือหยูจริงๆ ดังนั้ตัวเลือกในครั้งนี้ต้องไม่มีอันตรายใดๆแอบแฝงอยู่ แต่หากซูจือเฟยมีความคิดเพียงเล็กน้อยที่จะถอดใจจากแสวงบุญครั้งนี้ก็จะถูกตัดเขาออกจากตัวเลือก
ตู้ไห่ชิงและซูจือหยูไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของเย่เฉินบภ เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเย่เฉินยินดีให้โอกาสซูจือเฟย พวกเขาย่อมตื่นเต้นอย่างมากและหวังว่าซูจือเฟยจะตอบรับโดยดี
แต่ซูจือเฟยลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: “คุณเย่ ขอบคุณสำหรับความเมตตาของคุณ แต่ฉันต้องการเดินบนเส้นทางแสวงบุญให้จบ”