ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5295 มังกรคำรามสะท้านนภา 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5295 มังกรคำรามสะท้านนภา 1
เย่เฉินเจอนางาฮิโกะ อิโตะอีกครั้ง ก็พบว่าสภาวะของตัวเขาดีสุด ๆ
การกลับมามีขาสองข้างอีกครั้ง สำหรับนางาฮิโกะ อิโตะแล้ว เปรียบได้กับการเกิดใหม่ และยังทำให้เขาหวงแหนช่วงเวลาปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
เห็นเย่เฉิน นางาฮิโกะ อิโตะก็กระตือรือร้นและแสดงความเคารพ ออกมาต้อนรับเย่เฉินด้วยตัวเอง และรินน้ำชาให้เย่เฉินเป็นการส่วนตัว แม้จะยุ่งมาก แต่ใบหน้าก็ยากที่จะซ่อนความตื่นเต้น
ทานากะ โคอิจิที่อยู่ด้านข้าง ให้ความเคารพมากจนอยากจะรักษาท่าโค้งเก้าสิบองศาไว้ตลอด
เย่เฉินทักทายกับทั้งสอง สำรวยจบ้านหลังนี้อย่างแปลกใจ ในขณะเดียวกันก็ยิ้มไปพูดไปว่า:“ผมอยู่ Tomson Riviera มานานแล้ว เป็นครั้งแรกที่มาที่ตึกสูง”
พูดจบ เขาก็มองไปที่แม่น้ำที่เกลือกกลายอยู่ด้านนอก ผ่านหน้าต่างทรงสูงบานใหญ่ในห้องรับแขก และถอนหายใจ:“วิวที่นี่ดีมากจริง ๆ !คุณทานากะช่างมีสายตาแหลมคม”
ทานากะ โคอิจิที่อยู่ด้านข้างพูดด้วยความเคารพว่า:“คุณเย่ เดิมทีผมอยากซื้อชั้นบนสุดของอาคาร แต่น่าเสียดายที่ซื้อช้าผู้หญิงคนหนึ่งไป 2-3 นาที ถ้าผมซื้อชั้นบนสุดได้ วิวน่าจะดีกว่านี้!”
เย่เฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม และพูดว่า:“แบบนี้ก็ดีมากแล้ว ถ้ารู้ว่าทิวทัศน์ที่นี่สวยมาก ตอนนั้นผมก็น่าจะมาซื้อสักชุด”
อิโตะ นานาโกะพูดว่า:“ต่อไปเย่เฉินซังมาได้บ่อย ๆ เดี๋ยวให้ทานากะซังช่วยบันทึกนิ้วมือให้ ทำเป็นเหมือนบ้านตัวเองได้เลยค่ะ ถ้าพวกเราไม่อยู่ คุณอยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว ก็มาได้ตลอดเวลาเลย”
เย่เฉินตะลึงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรจะปฏิเสธหรือรับไว้ดี
ตอนนี้เอง ทานากะ โคอิจิเห็นเย่เฉินลังเลเล็กน้อย จึงรีบพูดว่า:“คุณเย่ ที่จริงไม่ต้องบันทึกลายนิ้วมือหรอกมันยุ่งยาก รหัสประตูคือวันเกิดของเธอ”
เย่เฉินมองไปที่นานาโกะ เขาจึงตระหนักได้ว่า รู้จักกันมานานแล้ว ตัวเองไม่รู้วันเกิดของนานาโกะเลย
สาเหตุหลักมาจากในช่วงเวลาที่พวกเขารู้จักกัน ไม่ได้พบกันมากนัก และเย่เฉินเองก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิด บางครั้งวันเกิดของตัวเองก็จำไม่ได้ว่าจะฉลอง ต้องให้คนอื่นเตือน
และนานาโกะก็ไม่เคยบอกเขาว่า วันเกิดของตัวเองคือเมื่อไหร่ หรือตัวเองจะฉลองวันเกิดเมื่อไหร่อะไรแบบนั้น
นานาโกะที่อยู่ด้านข้างก็รู้ เย่เฉินไม่รู้แน่ว่าตัวเองเกิดวันไหน จึงพูดอย่างเขินอายว่า:“เย่เฉินซัง วันเกิดของฉํนฉลองได้สี่ปีครั้งหนึ่งค่ะ……”
เย่เฉินเข้าใจทันที โพล่งออกไปว่า:“งั้นผมรู้แล้ว……29 กุมภาพันธ์……”
“อือ……”นานาโกะพยักหน้าอย่างเขินอาย มองเขาด้วยดวงตากลมโตอย่างเสน่หา แล้วถามว่า:“เย่เฉินซังน่าจะรู้ว่าฉันเกิดปีไหนใช่ไหมคะ?”
เย่เฉินรีบพูด:“รู้รู้……อันนี้รู้……”
ทานากะ โคอิจิยิ้มไปพูดไปว่า:“งั้นคุณเย่ก็รู้รหัสประตูแล้วค่ะ!”
เวลานี้ เอมิ อีโตะน้องสาวของนางาฮิโกะ อิโตะ ได้เตรียมอาหารญี่ปุ่นอันน่าหรูหราไว้แล้ว
เอมิ อีโตะสวมชุดกิโมโน เดินมาอยู่ด้านข้างเย่เฉิน วางมือสองข้างแนบลำตัวไว้ แล้วโค้งคำนับด้วยความเคารพ:“คุณเย่ ฉันได้เตรียมอาหารญี่ปุ่นที่ดีที่สุดเพื่อคุณแล้ว วัตถุดิบซื้อมาเมื่อตอนเช้านี้ และส่งตรงถึงสนามบิน มาเป็นอาหารทะเลระดับไฮเอนด์ของหัวเซี่ย ไม่ว่าจะเป็นหอยเม่น หอยนางรม ปลากะพงหรือปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พบเจอได้ในตลาดญี่ปุ่นปัจจุบัน เชิญรับประทานให้อร่อยค่ะ!”
นางาฮิโกะ อิโตะยิ้มไปพูดไปว่า:“คุณเย่ เอมิเก่งในการทำซาซิมิทุกชนิดที่สุด ความอ่อนไหวต่อวัตถุดิบของเธอนั้น แข็งแกร่งกว่าเชฟระดับสามดาวมิชลินหลายคน ส่วนผสมที่เธอสัมผัสในชีวิตประจำวัน เกรงว่าเชฟมิชลินสามดาวเหล่านั้นจะไม่มีโอกาสได้เห็นเลย”