ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5218 หาลับลมคมใน 3
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5218 หาลับลมคมใน 3
ต่อให้เขามีความสามารถหลบการลาดตระเวนของตำรวจได้ก็ตาม แต่ขอเพียงเขากล้าเข้าใกล้วิลล่าของมหาเศรษฐีที่เหนือชั้นพวกนั้น ก็จะมีปืนหลายสิบกระบอกเล็งไปที่เขาอย่างลับ ๆ ในทันที
สถานการณ์แบบนี้ยังอยากก่อคดีกราดยิง ช่างไร้สาระเหมือนความฝันเพ้อเจ้อของคนปัญญาอ่อน เขากลัวว่าไม่มีแม้กระทั่งโอกาสยิงปืนใส่ตัวเองด้วยซ้ำ
และความปลอดภัยของมหาเศรษฐีที่เหนือชั้นพวกนี้ เป็นสิ่งที่ประเทศอื่นให้ไม่ได้เลย เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้คนทั่วไปพกปืน คนมีสตางค์อยากหาบอดี้การ์ดถือปืนจำนวนหลายสิบกว่าคนมาปกป้องตัวเองอย่างใจป้ำ ช่างเป็นเหมือนคนปัญญาอ่อนที่เพ้อเจ้ออยู่เลยซะจริง ต่อให้ว่าจ้างบอดี้การ์ดในเวลาปกติ หากว่าพบเจอคนร้ายที่พกปืนก็เปล่าประโยชน์อยู่เหมือนกัน
ที่คุณชายตระกูลหลี่ถูกลักพาตัวที่เกาะฮ่องกางในตอนนั้น ก็เนื่องจากคนร้ายมีปืน แต่คุณชายตระกูลหลี่กับบอดี้การ์ดเขาไม่มี
หากว่าเรื่องแบบเดียวกันเกิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ขอเพียงให้งบประมาณที่เพียงพอกับบริษัทรักษาความปลอดภัย ระหว่างทางที่คุณชายกลับบ้าน พวกเขาก็สามารถคุ้มกันข้างกาย โดยมีคาดิลแลคกันกระสุนหลายคันที่พอที่จะเทียบได้กับรถหุ้มเกราะ รวมทั้งบอดี้การ์ดสิบกว่าคนที่ถือปืนไรเฟิลจู่โจม ก็คนร้ายอย่างอาเฉียง อะฮวนพวกนั้น เกรงว่ายังน้อยเกินไปสำหรับบอดี้การ์ดพวกนี้เลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น หากว่าคนธรรมดาบอกว่าชีวิตที่สหรัฐอเมริกาไม่ปลอดภัยพอ นั่นเป็นความคิดที่แท้จริงของเขาแปดสิบเปอร์เซ็นต์เลย
แต่หากว่ามหาเศรษฐีเหนือชั้นคนหนึ่งพูดคำพูดแบบเดียวออกมา นั่นเป็นข้ออ้างของเขาอย่างแน่นอน ไม่ใช่ความคิดที่แท้จริงของเขาหรอก
ด้วยเหตุนี้เอง หลินหว่านเอ๋อร์สรุปได้ว่า การที่หลิวม่านฉงมาเมืองจินหลิง จะต้องมีสาเหตุอื่นอย่างแน่นอน
ตรรกะความคิดของหลินหว่านเอ๋อร์คือ ทุกเรื่องต้องดูความมีเหตุผลก่อน หากว่าเรื่องนี้ขัดกันกับสามัญสำนึก นั่นต้องไม่พ้นประโยคนี้อย่างแน่นอน : หากว่าเรื่องราวมีความผิดปกติ จะต้องมีลับลมคมในอย่างแน่นอน
อีกทั้งก็เหมือนวิธีการคูณเลข เลขจำนวนนับกับผลคูณยิ่งมาก ผลลัพธ์ก็ยิ่งมากตาม แต่การใช้เหตุผลในทางกลับกันก็เหมือนกัน หากว่าผลลัพธ์ใหญ่มาก งั้นเลขจำนวนนับกับผลคูณก็จะไม่น้อยด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้น หลินหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะแอบครุ่นคิดอยู่ในใจ : “หลิวม่านฉงเป็นคุณหนูจากตระกูลร่ำรวยที่มีทรัพย์สินแสนล้าน สามารถทำให้คุณหนูจากตระกูลร่ำรวยที่มีทรัพย์สินแสนล้านคนหนึ่งอย่างเธอ ทำการกระทำที่ผิดปกติแบบนั้น งั้น “ความลับลมคมใน” นี้จะต้องเป็น “ความลับลมคมใน” ที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน จะต้องเป็นความลับลมคมในที่ใหญ่โตมาก……ตรรกะพื้นฐานนี้ก็ใช้กับตัวเองเหมือนกัน ที่ฉันมาที่นี่ได้ ไม่ใช่เพราะว่าฉันชอบที่นี่ หรือว่าบรรพบุรุษของฉันมีแหล่งที่มาอะไรกับที่นี่จริง ๆ หรอก แต่เนื่องจากที่นี่มีความลับลมคมในที่ใหญ่โตหนึ่งซ่อนไว้อยู่ ความลับลมคมในนั่นก็คือเย่เฉินนั่นเอง !”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลินหว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้วแล้วแอบพูด : “แต่เปลือกนอกของเมืองจินหลิง “ความลับลมคมใน”ที่สามารถเหมาะสมกับสถานะของหลิวม่านฉงแทบจะไม่มีเลย หรือว่า……หลิวม่านฉงนี่ก็มาเพื่อเย่เฉินเหมือนกัน ?”
เมื่อหลินหว่านเอ๋อร์คิดถึงตรงนี้ ตอนที่มองหลิวม่านฉงอีกครั้ง จู่ ๆ ก็พูดหยอกล้อพร้อมกับยิ้มระรื่น : “พี่ม่านฉงคะ ฉันว่าพี่จากเกาะฮ่องกางเผื่อถ่อมาเมืองจินหลิงที่ไกลขนาดนี้ ไม่เหมือนมาหางานเลยนะคะ !”
หลิวม่านฉงถามด้วยความประหลาดใจ : “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ?”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างซุกซน : “รู้สึกว่าเหมือนมาไล่ตามคนในใจโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นมากกว่าค่ะ”
ประโยคที่ดูเหมือนหยอกล้อของหลินหว่านเอ๋อร์นั่น ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ทิ่มโดนหัวใจข้างในของหลิวม่านฉง เธอตื่นตระหนกในทันที กลับพูดพร้อมกับรีบปิดบังเอาไว้ : “จะ……จะเป็นไปได้ยังไงกัน……ฉันไม่เคยมาเมืองจินหลิง และไม่มีคนคุ้นเคยอะไรที่นี่เลยด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนในใจเลย”
แม้ว่าหลิวม่านฉงรีบปิดบังเอาไว้ก็ตาม แต่เสี้ยวความลุกลี้ลุกลนนั่นที่อยู่ในสีหน้าของเธอ ก็ถูกหลินหว่านเอ๋อร์จับกุมเอาไว้อย่างแม่นยำแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ ก็ทำให้หลินหว่านเอ๋อร์ยิ่งมั่นใจ ว่าการคาดการณ์ของตัวเองถูกต้องอย่างแน่นอน
เชื่อมกับสถานะของหลิวม่านฉงดู ผู้ชายที่สามารถทำให้คุณหนูผู้ร่ำรวยขนาดนี้ละความสำรวม จากเกาะฮ่องกางเพื่อมาตามหาที่เมืองจินหลิงได้ นอกเหนือจากเย่เฉินแล้ว จะมีใครได้ ?