ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5198 ของขวัญ 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5198 ของขวัญ 2
เย่เฉินยิ้มและกล่าวว่า : “นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ฉันมีเวลาไม่มากนัก คุณรีบเก็บข้าวของเถอะ”
พูดจบ เย่เฉินก็กำชับว่า : “ท่านแค่นำของที่จำเป็นไปจะดีที่สุด และไม่จำเป็นต้องนำอาหารและเสื้อผ้าไป เพราะรถบรรทุกของเหล่านี้ไปได้ไม่มาก อีกทั้งฉันก็ให้คนจัดการที่ฉู่ตูเอาไว้พร้อมทุกอย่างแล้ว”
นายหญิงใหญ่เจียงรีบพยักหน้า และกล่าวอย่างจริงจังว่า : “ฉันเพียงแค่เอาป้ายชื่อบรรพบุรุษ และภาพวาดสามภาพนี้ไปด้วยเท่านั้น……”
พูดจบ จึงเริ่มเก็บข้าวของทันที
เนื่องจากป้ายชื่อกับภาพวาดล้วนเป็นของบรรพบุรุษตระกูลเจียงและบรรพบุรุษคนอื่นๆ มันมีความหมายต่อตระกูลเจียงอย่างมาก ดังนั้นเย่เฉินจึงไม่ได้เขาไปสอดแทรก
นายหญิงใหญ่เจียงนำป้ายชื่อทั้งหมดมาจัดเก็บอย่างระมัดระวัง วางใส่ไว้ในหีบห่อของตนเอง จากนั้นจึงนำภาพวาดทั้งสามภาพมาจัดเก็บเอาไว้ด้วยกัน และใส่ไปในม้วนภาพวาด
เพียงแต่ว่า มีเพียงภาพวาดสองภาพเท่านั้นที่ห่อเข้าไป แต่ภาพเหมือนของเมิ่งฉางเชิงที่วาดโดยบรรพบุรุษ เธอไม่ได้เก็บเข้าไปด้วย และนำมาวางไว้ตรงหน้าเย่เฉิน พร้อมกล่าวอย่างจริงจัง : “ผู้มีพระคุณ ท่านเป็นคนมีพลังวิเศษ หากบรรพอาจารย์เมิ่งค้นหาหนทางสู่การอายุยืนได้จริงๆ บางทีในอนาคตท่านอาจจะได้พบเจอกับเขา ภาพเหมือนของบรรพอาจารย์เมิ่งนี้ จึงขอมอบไว้ให้ท่าน!”
เย่เฉินตกใจเล็กน้อย จึงปฏิเสธอย่างรวดเร็ว : “คุณย่าเจียง นี่คือมรดกตกทอดที่บรรพบุรุษของท่านทิ้งเอาไว้ ฉันจะเอาไปได้อย่างไรล่ะ? ท่านเก็บเอาไว้เถอะครับ!”
จู่ๆ นายหญิงใหญ่เจียงก็คุกเข่าลง ถือม้วนภาพวาดไว้ในมือทั้งสองข้าง และกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า : “ผู้มีพระคุณ วันนี้ที่ฉันพาลูกชายตามท่านไปจากที่นี่ ในใจของฉัน ฉันได้ตัดสินใจแล้วเพื่อตัวฉัน ลูกชายของฉัน รวมถึงลูกหลานของเขาด้วย และล้มเลิกที่จะรอคอยโอกาสและโชคชะตาของบรรพอาจารย์เมิ่งแล้ว
“หลังจากออกจากที่นี่ไป จากนี้เป็นต้นไป คนตระกูลเมิ่งจะรู้เพียงแค่ว่าบรรพบุรุษเคยมีประสบการณ์ที่น่ามหัศจรรย์เช่นนั้นมาก่อน และไม่จำเป็นจะต้องรู้ว่าบรรพอาจารย์เมิ่งเคยให้คำมั่นสัญญากับบรรพบุรุษเอาไว้”
“ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เราจากที่นี่ไปแล้ว ถึงแม้ว่าบรรพอาจารย์เมิ่งจะยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะกลับมาตามหา ก็ไม่สามารถหาเราเจอแล้ว”
“แทนที่จะเป็นเช่นนี้ สู้เอาภาพนี้ทิ้งไว้ให้ท่านจะดีกว่า ในกรณีที่บรรพอาจารย์เมิ่งยังไม่ตายจริงๆ ไม่รู้อีกี่ปีท่านได้เจอเขา มีภาพนี้อยู่ บางทีอาจจะสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกันได้ หากท่านไม่รับภาพวาดนี้เอาไว้ ฉันก็จะไม่ลุกขึ้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่เฉินก็ถอนหายใจในใจ : “ความเป็นไปได้ที่บรรพอาจารย์เมิ่งคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ มันใกล้เคียงกับคำว่าศูนย์ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนเขียน《ตำราเก้าเสวียนเทียน》 เกรงว่าเขาก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้ได้ เวลา 1,400-1,500 ปี หากต้องการมีชีวิตอยู่ยาวนานขนาดนี้ จำเป็นจะต้องมีมากกว่าแค่ปราณทิพย์กับโอสถธรรมดาๆ เช่นนี้”
เพียงแต่ เย่เฉินเห็นว่านายหญิงใหญ่ยังคงยืนกราน จึงไม่พูดอะไรมากอีก สองมือรับม้วนภาพวาดมา และกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า : “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ภาพๆ นี้ ฉันก็จะรับมันเอาไว้ ท่านวางใจเถอะ ฉันจะดูแลเก็บรักษามันไปเป็นอย่างดี! ท่านรีบลุกขึ้นเถอะ!”
ท้ายที่สุดนายหญิงใหญ่เจียงก็โล่งอก จึงลุกขึ้นยืน
เวลานี้ เสียงของนายหญิงใหญ่เจียงดังมาจากนอกประตู : “นี่ แขกผู้มีเกียรติท่านนี้ ทำไมคุณมายืนอยู่ที่นอกประตู? ฉันล่าไก่ฟ้ามาสองตัว ตัวอ้วนพีเลย นี่ก็จะฆ่ามันสองตัว และผัดเผ็ดให้ท่านทั้งสองกิน!”
เมื่อเห็นลูกชายของนายหญิงใหญ่เจียงกลับมา ปฏิกิริยาของเฉินจื๋อข่ายคือคิดหาหนทางหยุดเขา เพื่อไม่ให้การพูดคุยของเย่เฉินกับนายหญิงใหญ่เจียงล่าช้า
เพียงแต่ว่า เวลานี้เย่เฉินได้พูดเกลี้ยกล่อมนายหญิงใหญ่เจียงได้แล้ว ให้เธอย้ายครอบครัวไปที่ฉู่ตู ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินออกมาที่ประตู และกล่าวว่า : “เหล่าเฉิน รีบเข้ามาเถอะ!”
เฉินจื๋อข่ายได้ยินคำพูดนี้ จึงรู้ว่าเย่เฉินคุยธุระเสร็จแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวกับลูกชายของนายหญิงใหญ่เจียงว่า : “ไป เราเข้าไปกันเถอะ!”