ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5192 เถ้าสู่เถ้า ธุลีสู่ธุลี 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5192 เถ้าสู่เถ้า ธุลีสู่ธุลี 1
นายหญิงใหญ่ได้ยินเย่เฉินพูดว่ายาอายุวัฒนะ ก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าตกตะลึง : “ผู้มีพระคุณ……ท่าน……ท่านก็รู้จักยาอายุวัฒนะด้วยเหรอ?!”
เย่เฉินพยักหน้า และกล่าวอย่างสงบ : “ฉันรู้จัก”
มีประโยคหนึ่ง ที่เย่เฉินไม่ได้พูดออกมา
นั่นก็คือ อันที่จริงแล้วตอนที่เขามา ก็ได้เตรียมยาอายุวัฒนะมาให้นายหญิงใหญ่เจียงเป็นพิเศษ
นายหญิงใหญ่เจียงอดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม : “ท่านเหมือนกันกับบรรพอาจารย์เมิ่งจริงๆ ล้วนเป็นคนที่มีพลังวิเศษ!”
เย่เฉินเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย แต่ในใจกลับหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
จวบจนถึงตอนนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับประโยชน์มากมายจาก《ตำราเก้าเสวียนเทียน》แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่า《ตำราเก้าเสวียนเทียน》ท้ายที่สุดแล้วใครเป็นคนเขียนมัน
ตอนนี้ เขาได้ทราบว่า เมิ่งฉางเชิงเมื่อพันกว่าปีก่อน ได้กลั่นยาอายุวัฒนะออกมา อีกทั้งยังมอบยาอายุวัฒนะสองเม็ดให้แก่บรรพบุรุษของตระกูลเจียงเขาอดที่จะถามตัวเองในใจไม่ได้ว่า : “หรือว่า 《ตำราเก้าเสวียนเทียน》ที่ฉันได้รับ เมิ่งฉางเชิงจะเป็นคนเขียนมัน? ในวันเดียวกันจี๋ชิ่งถังของตระกูลถัง พ่อตาได้ค้นหาของโบราณออกมา เป็นแจกันหยกสมัยราชวงศ์ถัง และเมิ่งฉางเชิง ก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์ถังด้วย ด้วยเหตุนี้ รัชสมัยโดยทั่วไปแล้วมีความสอดคล้องกัน บวกกับสิ่งที่ได้รู้จากปากของคุณย่าเจียง และข้อมูลเกี่ยวกับยาอายุวัฒนะ การคาดการณ์นี้ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้จริงๆ ……”
เพียงแต่ว่า เย่เฉินรู้ดีอยู่แก่ใจ ไม่สามารถอาศัยสองสิ่งนี้ มาตัดสินว่า《ตำราเก้าเสวียนเทียน》เขียนโดยเมิ่งฉางเชิง
หากต้องการพิสูจน์เรื่องนี้จริงๆ อย่างน้อยก็ต้องหาเบาะแสเพิ่มเติมให้มากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ เขาระงับข้อสงสัยนี้เอาไว้ในใจชั่วคราว และเอ่ยถามนายหญิงใหญ่เจียงว่า : “คุณย่าเจียง ขอถามได้ไหมว่าบรรพบุรุษท่านนั้นของท่าน มีชีวิตอยู่นานแค่ไหนก่อนที่จะเสียชีวิตไป?”
นายหญิงใหญ่กล่าวว่า : “บรรพบุรุษของฉันเสียชีวิตในปี ค.ศ. 863 ในเสียนทงปีที่สี่ มีอายุ 113 ปี เพราะภรรยาและลูกของบรรพบุรุษของฉันถูกฝังไว้ที่ครึ่งเขาด้านหลังภูเขา ดังนั้นเมื่อบรรพบุรุษของฉันเสียชีวิตจึงถูกฝังไว้ที่เชิงเขาของด้านหลังภูเขา ลูกหลานตระกูลเจียงของเราก็ถูกฝังไว้ที่เชิงเขาเช่นกัน”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ : “คุณท่านมีอายุถึง 113 ปี ลบกับอายุขัยของยาอายุวัฒนะสองเม็ดสี่สิบปี เขามีอายุ 73 ปีด้วยตนเอง ในสมัยนั้น มันหาได้ยากมากจริงๆ”
ตามสถิติของนักวิชาการที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือบางคน อายุขัยเฉลี่ยของคนในสมัยราชวงศ์ถังมีอายุประมาณ 40-50 กว่าปี
เพียงแต่ว่า สถิติและการค้นคว้าของพวกเขาเป็นเพียงด้านเดียว เพียงแค่เอามาจากตัวหนังสือที่จารึกประวัติศาสตร์เท่านั้น รวมถึงในบันทึกประวัติศาสตร์ที่บันทึกเอาไว้ ให้นับอายุในขณะที่ถึงแก่ความตายของผู้บันทึกไว้ จากนั้นค่อยมาคำนวณอายุเฉลี่ยอีกทีหนึ่ง
แต่พวกเขามองข้ามปัญหาใหญ่ไป ผู้ที่สามารถฝากชื่อไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ เป็นเจ้าของป้ายศิลาหน้าหลุมศพและให้ใครสักคนเขียนตำหนังสือจารึกได้ ก็คือพวกชนชั้นสูงในยุคนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น เด็กจำนวนมากที่ตายตั้งแต่วัยเยาว์ คนหนุ่มสาวที่นังไม่ได้แต่งงาน หลังจากตายแล้วก็ไม่ได้ทิ้งป้ายศิลาเอาไว้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลังจากความตายของประชาชนคนธรรมดาเหล่านั้น ที่ห่อด้วยเสื่อกกและฝังศพไปอย่างลวกๆ
ดังนั้น การใช้อายุขัยเฉลี่ยของชนชั้นสูงตามสถิติของชนชั้นสูง จึงไม่ได้มีความหมายอย่างแท้จริง
ประวัติศาสตร์ที่ตรวจสอบได้ แสดงให้เห็นว่าอายุขัยเฉลี่ยของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถัง มีอายุอยู่ที่ 44 ปี นี่คือชนชั้นที่สูงที่สุดของราชวงศ์ถัง รวบรวมข้อมูลการดำรงชีวิตและการผลิตที่ดีที่สุดของทั้งประเทศ ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 44 ปีเท่านั้น
นักวิชาการที่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงจำนวนมาก คิดว่า หากคำนึงถึงอายุขัยเฉลี่ยของอัตราการเสียชีวิตที่สูงของทารกรวมถึงประชาชนทั่วไป อายุขัยเฉลี่ยที่แท้จริงของราชวงศ์ถังควรอยู่ที่ราว 30 ปี