ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5184 เรื่องลึกลับซับซ้อน 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5184 เรื่องลึกลับซับซ้อน 2
เย่เฉินจึงกล่าวชื่นชมว่า: “ข้ออ้างนี้ดีมาก สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่อง ก็คือมีความสามารถในการโน้มน้าวที่ดีมาก”
“ใช่ครับ” ว่านพั่วจวินกล่าวว่า: “โดยพื้นฐานแล้วผู้ประสบภัยเหล่านี้สามารถยอมรับวิธีการพูดนี้ เพียงแต่นายหญิงใหญ่ท่านนั้นที่คุณให้ความสนใจ การแสดงออกของเธอก็ค่อนข้างแปลก”
เย่เฉินกล่าวถามว่า: “แปลกตรงไหนเหรอ?”
ว่านพั่วจวินกล่าวว่า: “ก่อนหน้านั้นที่พวกเรายังไม่ได้อธิบายสิ่งเหล่านี้ ทุกคนล้วนมีความกังวลต่อการความจำเสื่อมอย่างมาก แต่คล้ายกับว่านายหญิงใหญ่ไม่ได้เป็นกังวลแม่แต่น้อย และสงบนิ่งมาโดยตลอด”
เย่เฉินได้ฟังเช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
เขาจึงอดคิดไม่ได้ว่า: “ในตอนนั้นที่นายหญิงใหญ่ตื่นขึ้นมาบนรถบัส ไม่เพียงแต่สูญเสียความทรงจำไป แต่กำไลที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษก็หายไปด้วย ภายใต้สถานการณ์นี้ ไม่สามารถไม่ตึงเครียดเป็นกังวลได้ แต่เธอกลับเป็นคนเดียวที่สงบนิ่งตั้งแต่ต้นจนจบ หรือว่าจะเกิดปัญหาขึ้นตอนที่ฉันซ่อนความทรงจำของเธอ?”
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เย่เฉินก็ขมวดคิ้วแน่น
นับตั้งแต่ควบคุมปราณทิพย์ เขาก็ใช้ปราณทิพย์ซ่อนความทรงจำของคนอื่น และไม่เคยล้มเหลวในการสะกดจิตของอีกฝ่าย
เขาไม่อยากจะเชื่อว่านายหญิงใหญ่ผู้นี้จะสามารถต้านทานปราณทิพย์ของตนเองได้ แต่เมื่อได้ฟังการบรรยายของว่านพั่วจวินแล้ว ก็คล้ายกับว่าค่อนข้างไม่ปกติจริงๆ
ดูเหมือนว่า ปัญหาเหล่านี้ จะมีเพียงแค่รอหลังจากที่ได้พบนายท่านหญิงเท่านั้น จึงจะสามารถหาข้อสรุปได้
ด้วยเหตุนี้ เย่เฉินจึงกล่าวถามอีกว่า: “ในวันนั้นหลังจากเดินทางมาถึงสหรัฐแล้ว พวกคุณจัดการกับคนเหล่านี้อย่างไรเหรอ?”
ว่านพั่วจวินตอบกลับว่า: “คุณเย่ หลังจากที่พวกเขาตื่นขึ้นมา ฉันก็ได้สั่งให้คนไปบันทึกข้อมูลสถานะของพวกเขาแต่ละคน เนื่องจากพาสปอร์ตของพวกเขาถูกทำลาย ฉะนั้นฉันจึงให้คนช่วยติดต่อสถานทูตเพื่อออกเอกสารให้พวกเขาใหม่ หลังจากนั้นฉันก็ซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อให้พวกเขากลับบ้าน มอบเงินสดฉุกเฉินให้พวกเขาคนละสามพันดอลลาร์สหรัฐ และส่งพวกเขาขึ้นเครื่องบินทีละคน”
ว่านพั่วจวินพูดพลางกล่าวอีกว่า: “เพียงแต่ นายหญิงใหญ่และลูกชายของเธอเป็นข้อยกเว้น”
“คนทั้งสองนี้ ฉันได้ให้ทหารของสำนักว่านหลงคุ้มกันไปส่งกลับประเทศด้วยตัวเอง อีกทั้งคนทั้งสองยังถูกส่งกลับบ้านโดยตรง”
“ทหารที่รับหน้าที่คุ้มกัน ได้รับคำสั่งจากฉันก่อนออกเดินทางว่า ให้มอบเงินจำนวนหนึ่งแสนแก่นายหญิงใหญ่และลูกชายของเธอด้วย แต่นายหญิงใหญ่ยืนกรานที่จะไม่รับ ฉันจึงนึกถึงเรื่องที่คุณเคยบอกว่าจะไปเยี่ยมพวกเขาหลังจากที่กลับมา ฉะนั้นจึงไม่ให้ทหารยืนกรานที่จะนำเงินมอบให้แก้พวกเขา
“ฉันเข้าใจแล้ว” เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ภายในใจมีความกังวลอยู่ไม่น้อย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันลึกลับซับซ้อน ทำได้เพียงรอหลังจากได้พบนายหญิงใหญ่ จึงจะสามารถคลี่คลายได้
เมื่อบินผ่านไปสามชั่วโมง เครื่องบินก็ลงจอดที่มณฑลกุ้ยโจว
พอคนทั้งสองเดินทางมาถึง ผู้รับผิดชอบของตระกูลเย่ในมณฑลกุ้ยโจว ก็ได้ขับรถออฟโรดสมรรถนะสูงมารออยู่ด้านนอกของสนามบิน ตามข้อเรียกร้องของเฉินจื๋อข่าย
ครั้งนี้สถานที่ที่คนทั้งสองต้อฃการจะไป ตั้งอยู่ในเขตเขาหนานซาน เย่เฉินวางแผนที่จะขับรถไปที่นั่นกับเฉินจื๋อข่าย นอกจากคนทั้งสองแล้ว ก็ไม่พาลูกน้องคนไหนติดตามไปอีก
หลังจากที่ได้รถออฟโรดแล้ว เฉินจื๋อข่ายก็รับหน้าที่ขับรถ โดยเย่เฉินนั่งอยู่ข้างคนขับ คนทั้งสองเดินทางผ่านภูเขาที่คดเคี้ยวเป็นเวลาเกือบห้าชั่วโมง ในที่สุดก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านในเชิงเขาลึกแห่งหนึ่ง
แต่ทว่า หมู่บ้านนี้ ไม่ได้เป็นจุดมุ่งหมายของเย่เฉินกับเฉินจื๋อข่าย หมู่บ้านที่พวกเขาต้องการจะไปอยู่ริมหน้าผาที่สูงชันแนวสันเขา เนื่องจากสภาพพื้นที่ที่สูงชัน จึงมีถนนขึ้นภูเขาที่สูงชันเพียงสายเดียว นอกเสียจากรถมอเตอร์ไซค์แล้ว ก็ไม่มียานพาหนะใดสามารถปีนขึ้นไปได้
แต่โชคดีที่ว่า ถึงแม้เส้นทางบนภูเขาจะยากในการเดินทาง แต่ระยะห่างก็ไม่นับว่าไกลมากนัก ด้วยคนทั้งสองที่มีร่างกายแข็งแกร่ง จึงไม่มีปัญหาในการป่ายปีนเส้นทางภูเขานี้โดยสิ้นเชิง