ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5161 เตรียมตัวไปหัวเซี่ย 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5161 เตรียมตัวไปหัวเซี่ย 1
ในจินหลิง แทบจะไม่มีทรัพยากรอะไรที่เย่เฉินใช้งานไม่ได้
โรงแรม ชุดเจ้าสาวและขบวนรถ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในพิธีแต่งงาน เย่เฉินล้วนสามารถจัดเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ซูโสว่เต้ารวมไปถึงเหออิงซิ่ว
และเป็นเพราะมีการสนับสนุนจากเย่เฉิน ซูโสว่เต้าและเหออิงซิ่วจึงวางใจต่อวันพิธีแต่งงานในวันที่แปดเดือนแปด
ซูโสว่เต้าคุกเข่าอยู่บนพื้นพลางกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง เย่เฉินหยุดยั้งเขาเอาไว้แล้วเอ่ยปากพูด: “ตอนนี้พวกคุณสามารถกำหนดรายชื่อแขกที่จะมาเข้าร่วมงานได้แล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าพวกคุณจะเชื้อเชิญใคร ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ว่ามีข้อแม้อย่างหนึ่ง นั่นก็คือทุกคนที่พวกคุณเชื้อเชิญมาต้องเป็นผู้ที่สามารถควบคุมปากตัวเองได้”
เมื่อพูดจบ เย่เฉินก็มองไปทางเหออิงซิ่วแล้วพูดอย่างจริงจัง: “อย่างไรเสียแขนของคุณผู้หญิงเหอที่ขาดไปแล้วได้งอกกลับคืนมาใหม่ ทันทีที่เรื่องแบบนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าต้องทำให้ทั้งวงการแพทย์สั่นคลอนแน่นอน ในประวัติการแพทย์ แม้ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วหายขาดจะหาพบได้น้อยมาก ๆ แต่ก็เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ้าง ทว่าแขนที่หักไปแล้วแล้วงอกกลับคืนมาใหม่นั้น ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์การแพทย์ของมนุษย์เลย ดังนั้นผมหวังว่าแขกผู้มาเยือนที่พวกคุณจะเชื้อเชิญ จะสามารถปิดปากเงียบต่อเรื่องนี้ได้”
เหออิงซิ่วตอบกลับอย่างนอบน้อม: “คุณเย่ขฌ ตั้งแต่ดิฉันสูญเสียแขนข้างขวาเป็นต้นมา ก็กลับบ้านเกิดเมืองโม่เฉิงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว แอบคลอดรั่วหลีแล้วเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านตระกูลเหอตลอดทั้งวัน นอกจากคนในตระกูลเหอและตระกูลซูแล้ว แทบจะไม่มีใครทราบเรื่องแขนของดิฉันเลยค่ะ ยิ่งกว่านั้นคือแทบจะไม่มีคนนอกที่รู้จักดิฉันด้วย”
ซูโสว่เต้าก็พูดอย่างเคารพนอบน้อมเช่นกัน: “เชิญคุณเย่วางใจได้เลยครับ ผมจะไม่เชิญเพื่อนมาร่วมงานแต่งของผมกับอิงซิ่วมั่วซั่ว นอกจากคุณ รวมไปถึงเหล่าลูกน้องที่เชื่อถือได้ของคุณ ผมจะเชิญแค่คนในตระกูลซูมาเป็นพยานครับ”
“โอเค”เย่เฉินพยักหน้าแล้วเอ่ยปากพูด: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก่อนพิธีมงคลสมรสของคุณจะเริ่มต้นขึ้น ผมจะส่งคนไปรับนายท่านตระกูลซู รวมไปถึงลูกชายคุณซูจือเฟยมาจินหลิง”
เมื่อพูดจบ เย่เฉินก็พูดอีก: “แต่ว่าผมขอพูดอะไรที่มันไม่น่าฟังไว้ก่อน หลังจากที่พวกเขาทั้งสองคนร่วมงานแต่งของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่มาจากมาดากัสการ์ก็ต้องกลับไปที่มาดากัสการ์ ผู้ที่กราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์กลางถนนเพื่อจาริกแสวงบุญ ก็ต้องกลับไปยังเส้นทางแห่งการจาริกแสวงบุญของเขาต่อ”
ซูโสว่เต้าพยักหน้าแล้วพูดอย่างเคารพนับถือ: “ทุกอย่างปฏิบัติตามการจัดแจงขอบคุณเย่เลยครับ!”
เย่เฉินนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะพูดอีกว่า: “ใช่สิ พวกคุณวางแผนจะไปจดทะเบียนสมรสเมื่อไหร่? ก่อนพิธีสมรสหรือหลังพิธีสมรส?”
ซูโสว่เต้าพิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับ: “ถ้าเกิดเป็นไปได้ละก็ จดก่อนพิธีมงคลสมรสดีกว่าครับ หากคุณเย่อนุญาตให้ผมออกจากที่นี่ งั้นผมก็จะหาเวลาว่างครึ่งวัน กลับไปจดทะเบียนสมรสที่เย่นจิงกับอิงซิ่วครับ”
เมื่อพูดจบหญ ก็พูดเสริมขึ้นมาอีกคำหนึ่ง: “ถ้าเกิดคุณเย่รู้สึกว่าไม่เหมาะสมและไม่รีบด้วย เราสามารถไปจดหลังพิธีมงคลสมรสก็ได้ครับ”
เย่เฉินพูดอย่างเรียบนิ่ง: “ไปเถอะ คนส่วนมากล้วนจดทะเบียนสมรสก่อน ค่อยจัดพิธีแต่งงานทีหลัง ในเมื่อคุณมีความคิดแบบนี้ ผมจึงต้องสนับสนุนเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
ซูโสว่เต้าพูดขอบคุณ: “ขอบคุณมากครับคุณเย่ ผมจะไปจัดแจงเรื่องเที่ยวบินและเวลา จะรีบไปรีบกลับครับ”
เย่เฉินพยักหน้า ก่อนจะมองไปทางซูรั่วหลีอีกครั้งแล้วพูดกำชับ: “รั่วหลี เรื่องงานการเตรียมพิธีแต่งงานในช่วงนี้ เธอไปประสานกับเฉินจื๋อข่ายสิญท ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็สามารถไปหาเขาได้เลย ฝั่งคุณซ่ง ซ่งหวั่นถิงเดี๋ยวอีกสักพักฉันจะสร้างกลุ่มให้เธอหนึ่งกลุ่ม เรื่องชุดเจ้าสาวให้คุณซ่งช่วยเธอจัดการ หากต้องการให้ฉันช่วยเหลืออะไรหภ ก็ติดต่อมาหาฉันได้ตลอดเวลาเลย”
ซูรั่วหลีรีบตอบกลับ: “ขอบคุณค่ะคุณเย่!”
เย่เฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจ: “ระหว่างเธอและฉัน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันหรอก”