ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5133 เคล็ดลับในการค้าขาย 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5133 เคล็ดลับในการค้าขาย 1
เมื่อเผชิญหน้ากับคำหลอกลวงของเฉียนหงเย่น ครั้งนี้หม่าหลันไม่ได้คล้อยไปตามเธอ แต่เป็นการพูดพึมพำคนเดียว: “ฉันไม่เข้าใจเรื่องหุ้นและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ความเสี่ยงสูงเกินไป แถมยังต้องการเงินจำนวนมากด้วย ฉันรู้สึกว่าการไลฟ์สดขายของน่าจะง่ายกว่าหน่อย สร้างตัวจากสองมือเปล่า มีโทรศัพท์แค่เครื่องเดียวก็สามารถทำงานนี้ได้แล้ว ถ้าทำสำเร็จก็จะได้กำไรเยอะมาก ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่เสียหายอะไรเช่นกัน”
เฉียนหงเย่นขับรถพลางพูดแทงใจดำเธอ: “ถ้าแกอยากไลฟ์สดขายของ ลำดับแรกคือแกต้องมีจุดที่น่าสนใจ แกคิดดูสิใครเขาจะมาสนใจอีแก่อย่างเราสองคนล่ะ?”
หม่าหลันพูดบ่นพึมพำอย่างเรื่อยเปื่อย: “ถ้าไม่ไหวก็ขายความน่าสงสารสิ เดี๋ยวฉันจะบอกว่าผัวฉันป่วยเป็นมะเร็งปอด แล้วขอความช่วยเหลือจากทุกคน”
เฉียนหงเย่นเหมือนโดนเหยียบหาง แล้วรีบพูด: “จะทำแบบนั้นได้ยังไง! ตอนนี้เย่เฉินของแกก็ถือเป็นคนที่มีหน้ามีตาบ้างแล้ว แกพาเซียวฉางควนหลอกเงินชาวบ้านบนอินเตอร์เน็ต ถ้าพวกลูกค้าของเย่เฉินรู้เข้ามันจะน่าเกลียดมากแค่ไหน!”
หม่าหลันเบ้ปาก: “ก็หาเงินไง ไม่น่าเกลียดหรอก”
เมื่อพูดจบ ก็พูดกับเฉียนหงเย่นอีกว่า: “ใช่สิ ช่วงนี้อีแก่นั่นทำอะไรอยู่? แกยืมนางให้ฉันใช้สักวันสองวันสิ ฉันจะพานางและเซียวฉางควนไปสร้างบ้านไลฟ์สดที่หมู่บ้านแถบชานเมืองจินหลิง”
เฉียนหงเย่นนึกไม่ถึงเลยว่าหม่าหลันจะคิดหาเคล็ดลับในการไลฟ์สดได้เร็วขนาดนี้
ที่ตัวเองคิดเรื่องไลฟ์สดขายของได้นั้นขฌ ก็เพราะเห็นไลฟ์สดและคลิปวิดีโอสั้นที่คนอื่นขายความน่าสงสารเหมือนกันนี่แหละ
เมื่อลองสังเกตดูมาช่วงหนึ่ง เธอก็ค้นพบว่าพวกผู้ไลฟ์สดที่ขายความน่าสงสารนั้น แม่งยังไม่น่าสงสารกว่าตัวเองเลย
คนเหล่านั้นบ้างก็บอกว่าลูกป่วย หรือบ้างก็บอกว่าสามี ภรรยาและพ่อแม่ป่วย ส่วนสถานการณ์ในบ้านตัวเองนั้น เสาหลักของบ้านและลูกชายนอนเป็นผักอยู่บนเตียง แล้วยังมียายแก่ที่ก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปในโลงศพแล้วจท ตัวเองถูกแม่ยายรังแกมานานขนาดนี้ ถูกส่งไปใช้แรงงานที่เหมืองถ่านหินดำแล้วยังตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจอีก กว่าจะถูกช่วยกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สรุปก็โดนสามีทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ถูกคนในครอบครัวกีดกัน ถ้าจะแข่งเรื่องความน่าเวทนาจริง ๆ มีใครที่น่าเวทนากว่าตัวเองบ้าง?
เมื่อเห็นว่ากลุ่มคนที่ชีวิตดีกว่าตัวเองยังสามารถหาเงินได้ เฉียนหงเย่นจึงปิ๊งไอเดีย จัดแจงห้องนอนทีเดียวซะเลย ตัวเองก็เริ่มไลฟ์สดขายของด้วย
ถ้าเกิดพูดถึงการไฟล์สดขายความน่าสงสารของเฉียนหงเย่น ผลงานที่ทำให้ดูสมจริงได้นั้น นั่นก็คือลูกผู้ชายอย่างเซียวฉางเฉียนและเซียวไห่หลงที่แทบจะกลายเป็นคนพิการไปแล้ว แค่นอนอยู่บนเตียง ไม่ต้องแสดงอะไรเลยด้วยซ้ำ
แถมทั้งสองยังมีหนังสือรับรองการวินิจฉัยของทางโรงพยาบาลด้วย แค่หนังสือรับรองการได้รับบาดเจ็บต่าง ๆ ก็หนาเป็นปึกแล้ว ถ้าเกิดอ้างอิงจากหนังสือรับรองการวินิจฉัย ทั้งสองคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่ใช่คนมีชีวิตเลยด้วยซ้ำ แต่เป็นโศกนาฏกรรมสองเรื่อง
ดังนั้นทันทีที่เฉียนหงเย่นเริ่มไลฟ์สด ก็จับจุดความขี้สงสารทางจิตวิทยาของชาวเน็ตและอัลกอริทึมของระบบได้ทันที จำนวนแฟนคลับยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ แถมยังรักษาฐานแฟนคลับได้ดีมาก ๆญท ด้วย
และเงินทั้งหมดที่เฉียนหงเย่นหามาได้จริง ๆ นั้น มากกว่าการคาดเดาของหม่าหลันและเย่เฉินเสียอีก
เนื่องจากเธอขายความน่าสงสารได้ดูน่าอนาถมากจริง ๆ ดังนั้นสินค้าที่เธอขายจึงแตกต่างจากผู้ไลฟ์สดคนอื่น ๆ ไม่มีหน้าม้ามาแกล้งสั่งของของเธอจริง ๆ อีกอย่างมีน้อยคนมากที่จะคืนสินค้า
ผลิตภัณฑ์แบบเดียวกัน อัตราการคืนสินค้าของผู้ขายคนอื่น ๆ อาจจะสูงถึงบท 50% แต่เมื่อเธอลงมือบวกกับการขายความน่าสงสารของครอบครัว และขอบคุณลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แถมยังร้องเพลงเศร้าอย่างหยุดหย่อนด้วย อีกทั้งกล่าวขอบคุณเพื่อน ๆ แฟนคลับที่ช่วยเหลือเย่นจื่อตลอดเวลา ทำให้ระดับความอดทนของแฟนคลับที่มีต่อเธอมีมากกว่าผู้ไลฟ์สดคนอื่น ๆ เกือบครึ่ง
คนจำนวนมากที่ซื้อของในห้องไลฟ์สดของเธอรู้สึกไม่พอใจต่อสินค้าที่ซื้อไป แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าชีวิตของผู้หญิงคนนี้ยากลำบากขนาดนี้ ลูกชายและสามีนอนเป็นผักอยู่บนเตียง แถมเธอยังต้องเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้พวกเขาอีก แล้วยังต้องดูแลแม่ยายที่อายุมากด้วย ผู้ซื้อจึงรู้สึกว่าถือซะว่าเป็นการนำเงินนั้นไปทำความดี