ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5122 หน้าด้านไร้ยางอาย! 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5122 หน้าด้านไร้ยางอาย! 2
“แก……”หม่าหลันหัวเสียมากจนหายใจหอบ ก่อนจะตะคอกเสียงดังลั่น : “ฉันว่าพวกแกจงใจปกป้องมัน! รู้ทั้งรู้ว่ามันทำผิดกฎหมายแต่กลับไม่จับกุมตัวมัน พวกแกมีเจตนาแฝงอะไรกันแน่?”
ดูเหมือนกับว่าฝ่ายตรงข้ามก็ไม่อยากฟังเธออธิบายอีกต่อไปแล้วเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยปากพูดว่า: “คุณผู้หญิงครับ ทางเราไม่สามารถตั้งเรื่องตรวจสอบปัญหาที่คุณรายงานได้จริง ๆ เพราะฉะนั้นขอความกรุณาคุณอย่ายึดใช้ทรัพยากรสาธารณะเพราะเรื่องนี้อีกเลย หากคุณสามารถตามหาหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าเธอฝ่าฝืนกฎหมายกระทำความผิดจริง ๆ อย่างนั้นทางเราก็ยินดีที่คุณจะมาแจ้งในหน่วยงานความปลอดภัยสาธารณะกับเราได้อีกครั้ง ขอแค่มีหลักฐานแน่นอนที่แสดงให้เห็นว่าเธอผิดปกติจริง ๆ งั้นทางเราก็จะตั้งคดีเพื่อตรวจสอบอย่างแน่นอน!”
“มิเช่นนั้นหากทุกคนโทรมาคนละสาย แล้วบอกว่าอีกคนหนึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนกฎหมายโดยที่ไม่มีหลักฐานใด ๆ แล้วให้ทางเราจับกุมตัวฝ่ายตรงข้ามไป งั้นในทุก ๆ วันเราต้องจับกุมตัวคนมากเท่าไหร่ถึงจะจัดการปัญหาประเภทนี้ได้? มิหนำซ้ำหากตั้งคดีตรวจสอบแล้วพบว่าฝ่ายตรงข้ามถูกเข้าใจผิดจริง ๆ ทางเราก็จะไม่ปล่อยผู้แจ้งความเท็จไปเช่นกัน ถึงตอนนั้นฝ่ายตรงข้ามต้องได้รับการดำเนินการตามกฎหมาย”
เมื่อหม่าหลันได้ยินว่าอาจจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย จึงปอดแหกขึ้นมาในทันที
เธอเคยเข้าคุกมาสองสามครั้งอยู่ ตอนอยู่อเมริกายังเคยเข้าคุกเลย หากวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีความอคติ แม้ช่วงเวลาอันดุร้ายและโหดร้ายที่อยู่ในกรมราชทัณฑ์เบดฟอร์ดฮิลส์จะเหมือนดั่งเทพเจ้า แต่ถ้าเกิดให้เธอเข้าคุกอีกครั้งจริง ๆ เธอต้องไม่กล้าอย่างแน่นอน
ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแขวะด้วยความแค้นใจ: “ฉันว่าพวกแกตั้งใจปกป้องอีนังเฉียนนั่น! รอฉันมีหลักฐานเมื่อไหร่ ฉันจะไปรายงานต่อองค์กรที่เป็นเบื้องบนของพวกแกแน่นอน และรวดรายงานแกด้วย!”
เมื่อพูดจบ เธอก็ตัดสายทันที
เซียวชูหรันเคาะประตูห้องน้ำแล้วเอ่ยปากสอบถาม: “แม่ แม่เป็นอะไรน่ะ?”
หม่าหลันที่อยู่ด้านในตอบกลับอย่างโกรธเคือง: “ฉันแม่งหัวเสียจนใกล้จะตายแล้ว!”
เซียวชูหรันบอกใบ้ให้เย่เฉินหลบหลีกไปแป๊บหนึ่ง ส่วนตัวเธอนั้นก็เดินเข้าไปในห้องนอน แล้วประคองตัวหม่าหลันออกมา
ทันทีที่หม่าหลันเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็มองเห็นเย่เฉินที่ยืนรออยู่นอกประตู จึงด่ากราดอย่างกระหือกระหอบทันที: “ไอ้ลูกเขยที่รัก! ฉันแม่งรู้สักทีว่าไอ้ชาติหมาเฉียนหงเย่นนั่นมันพลิกตัวได้ยังไงกันแน่! ไม่นึกเลยว่าอีนังหน้าด้านไร้ยางอายนั่นจะไลฟ์สดขายของบนโลกโซเชียล!”
เมื่อพูดจบ เธอก็พูดต่อด้วยอารมณ์ที่ฮึกเหิมกว่ามาก: “แกรู้หรือเปล่าว่ามันหน้าด้านไร้ยางอายมากแค่ไหน? มันตั้งโทรศัพท์ไว้ในห้องนอนของเซียวฉางเฉียนและเซียวไห่หลง ให้เซียวฉางเฉียนและเซียวไห่หลงนอนอยู่บนเตียงเหมือนเป็นอัมพาต แล้วยังให้ไอ้แก่นั่นนั่งหลังค่อมแล้วป้อนข้าวให้พวกมันสองพ่อลูกพร้อมกับมัน!”
“มันป้อนข้าวไปด้วย แล้วมองกล้องบอกว่าตัวเองน่าเวทนาน่าสงสารมากแค่ไหน บอกว่าผัวกับลูกชายโดนรถชน คนขับรถหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย มันกับแม่ยายอายุ 80 กว่าทำได้แค่ไปใบเก็บผักกาดที่คนอื่นทิ้งในตลาด กลับมาป้อนข้าวให้พวกมันสองคน”
“แถมยังบอกอีกว่าตัวเองแต่งงานกับชายประเภทใดก็ยินยอมที่จะเป็นไปตามเขาทุกอย่าง ไม่ว่าจะยากลำบากมากแค่ไหนก็จะไม่ทอดทิ้งพวกมันพ่อลูก สร้างเรื่องตอแหลมาเยอะขนาดนี้ ก็เพื่อนหลอกลวงผู้ใช้บนโซเชียล แล้วขายของในไลฟ์สดของมัน!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของหม่าหลันก็เขียวช้ำพลางตำหนิด้วยร่างกายที่สั่นเทา: “แม่งเอ๊ย ประเด็นคือนังชั้นต่ำนั่นยังค่อนข้างดังเลย มีคนเข้ามาดูในไลฟ์สดหมื่นกว่าคน! หมื่นกว่าคนนั่นก็แม่งเหมือนคนโง่เลย มันพูดอะไรก็เชื่อไปหมด ไม่ว่ามันจะขายอะไร คนพวกนั้นก็แย่งกันซื้อหมด ทำอย่างกับไม่เคยเห็นของพวกนั้นมาก่อนอย่างนั้นแหละ! แกว่ามันน่าโมโหไหมล่ะ!”
เย่เฉินถามอย่างรู้สึกสงสัย: “แม่ แล้วแม่รู้ได้ยังไงครับ?”