ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5082 ปรับความเข้าใจ3
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5082 ปรับความเข้าใจ3
แมทธิว ปีเตอร์สันได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทั้งคนก็ทรุดตัวนั่งลงไปที่พื้นอย่างพังทลายปล่อยโฮออกมาร้องไห้เสียงดัง ดึงดูดความสงสัยและความสนใจจากคนจำนวนไม่น้อยขึ้นมาทันที
เวลานี้ในใจแมทธิว ปีเตอร์สันรู้สึกเหมือนเจอกับวันสิ้นโลก ย้อนกลับไปนึกถึงท่าทางที่กระฉับกระเฉงของตัวเองเมื่อสิบนาทีก่อน แต่ตอนนี้จะไม่เหลืออะไรแล้วแม้กระทั่งจะต้องเข้าคุกด้วยแล้ว แมทธิว ปีเตอร์สันก็แทบอยากจะเอาหัวกระแทกให้ตายๆไปเสียตรงนี้เลย
เอมิลี่เองก็ทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังเช่นกัน เธอรู้ เฟ่ยเข่อซินให้FBIเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ จุดอ่อนของแมทธิว ปีเตอร์สันที่อยู่ในมือของตัวเอง ก็เสียมูลค่าไปด้วยเช่นกัน ตัวเองไม่เพียงแค่จะเสียงานไปเท่านั้น ยังเสียไพ่ใบใหญ่ที่สุดในการพัฒนากิจการให้ร่ำรวยไปด้วย ตัวเองก็เปลี่ยนไปจนไม่เหลืออะไรเลยด้วยเช่นกัน
เวลานี้เฟ่ยเข่อซินเองก็ไม่อยากจะพัวพันกับทั้งสองคนนี้อีกแล้ว จึงเอ่ยพูดขึ้นกับเย่เฉิน : “อาจารย์เย่ ตรงนี้ส่งต่อให้อาจารย์หยวนแล้วกันค่ะ พวกเราไปหาที่นั่งเงียบๆข้างในกันดีกว่าคุณว่าเป็นอย่างไรคะ?”
เย่เฉินพยักหน้าลงเล็กน้อย ในเมื่อเฟ่ยเข่อซินแจ้งกับFBIแล้ว และจากความสามารถอย่างFBI ประกอบกับอิทธิพลของเฟ่ยเข่อซิน แมทธิว ปีเตอร์สันจะต้องหนีจากการพิจารณาตัดสินคดีของกฎหมายได้ยากอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาเองก็ขี้เกียจมองดูสองคนนี้แล้วเช่นกัน จึงมองไปยังหยวนจื่อซูพลางเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ : “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลำบากอาจารย์หยวนด้วยนะคะครับ”
หยวนจื่อซูโค้งคำนับด้วยความเคารพ พลางเอ่ยขึ้น : “อาจารย์เย่เกรงใจกันเกินไปแล้ว นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว”
เฟ่ยเข่อซินกำชับกับหยวนจื่อซู : “อาจารย์หยวนคอยมองแมทธิว ปีเตอร์สันนี่เอาไว้ จะต้องส่งตัวเขาให้ถึงมือFBIนะคะ”
เวลานี้เซียวชูหรันมองไปยังเอมิลี่นั่น อยากจะพูดอะไรออกมา แต่ลังเลอยู่นาน สุดท้ายก็ไม่ได้ออกปากขึ้น
เย่เฉินมองเห็นอาการที่แสดงออกมาของเซียวชูหรัน รู้ว่าเธอดูเหมือนกับจะเห็นใจเอมิลี่
แต่เขาเห็นว่าสุดท้ายแล้วเซียวชูหรันก็ไม่ได้พูดอะไร จึงทำเป็นไม่เห็น
ทั้งสามคนมายังโถงจัดงานเลี้ยง เฟ่ยเข่อซินดึงดูดสายตาคนจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้นมาได้ทันที ทั้งสามคนหามุมที่ไม่มีคนแล้วก็นั่งลง
หลังจากที่นั่งลงแล้วเฟ่ยเข่อซินก็มองสบตากับเซียวชูหรันที่อยู่ข้างๆเย่เฉิน อดที่จะเอ่ยพูดด้วยความละอายใจไม่ได้ : “ชูหรัน…ยินดีด้วยนะที่คุณจบการศึกษาแล้ว….เรื่องก่อนหน้านี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ฉันเองมีความลำบากใจไม่สะดวกที่จะพูดออกมามากมาย หวังว่าคุณจะเข้าใจ…..”
ในใจของเซียวชูหรัน ถึงแม้ว่าเรื่องที่เฟ่ยเข่อซินจะใช้สถานะปลอมๆมาคบหาสมาคมกับตัวเองจะเป็นเรื่องที่ลำบากใจอยู่บ้าง แต่ความจริงแล้วเธอก็สามารถเข้าใจเฟ่ยเข่อซินได้
แม้จะพูดว่าเธอไม่รู้ว่าเฟ่ยเข่อซินผ่านเรื่องราวอะไรมากันแน่ แต่เธอรู้ว่าตระกูลที่ร่ำรวยแบบนี้ จะต้องมีความลำบากใจมากที่จะบอกกับคนนอกอย่างแน่นอน
เธอรู้สึกว่าถึงแม้ว่าเฟ่ยเข่อซินจะใช้เชื่อปลอมในตอนนั้น แต่เธอกลับไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่เป็นการทำร้ายตัวเอง ในทางกลับกัน ยังให้ใบสั่งสินค้าของการตกแต่งกับตัวเอง แม้กระทั่งช่วยตัวเองได้มีชื่อในMaster class สรุปแล้ว เป็นตัวเองที่ติดค้างเธออยู่ไม่น้อยเสียมากกว่า
ดังนั้น เวลานี้เซียวชูหรันเองก็เอ่ยพูดขึ้นด้วยความเกรงใจมากเช่นกัน : “คุณหนูเฟ่ย เราเป็นเพื่อนกัน คุณพูดแบบนี้ดูเหมือนจะเป็นคนนอกกันมากเกินไปแล้ว หลายๆเรื่องถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชัดเจนในเหตุผลนัก แต่ก็สามารถเข้าใจได้ค่ะ”
เฟ่ยเข่อซินได้ยินเซียวชูหรันพูดแบบนี้ อาการที่แสดงออกมาก็ดูผ่อนคลายขึ้นมาในทันที จึงรีบเอ่ยขึ้น : “ชูหรันพูดถูก! วันหลังถ้าหากคุณมีเวลา ฉันจะต้องมาคุยกับคุณอย่างแน่นอน บอกกับคุณว่าตอนนั้นสรุปแล้วเรื่องราวเป็นอย่างไร…..”
เซียวชูหรันยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “ฉันมีเวลาอยู่แล้วค่ะ เดี๋ยวเสร็จพิธีจบการศึกษาแล้ว พวกเราสองคนก็มาคุยกันตามลำพังที่คลับของโรงแรมก็ได้ค่ะ ให้เย่เฉินกลับห้องไปก่อน”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้าลงโดยไม่คิด : “ได้ค่ะ! ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้แล้วกัน!”