ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5020 กลอุบายของเย่เฉิน2
ชายคนนั้นแสดงความตกใจ แต่ไม่นานก็ถูกแทนที่ ด้วยความตื่นเต้นและดีใจอย่างควบคุมไม่ได้
เขายากที่จะเก็บซ่อนความดีใจเอาไว้ได้ จึงพูดโพล่งออกมา : “เมื่อครู่นี้ยังสงสัยอยู่ว่า ผู้ทรงปรีชาญาณอย่างผู้มีพระคุณ จะปรุงยาแก้พิษที่สวนทางกับเป้าหมายเช่นนี้ได้อย่างไร คาดไม่ถึงว่าผู้มีพระคุณจะมีปรีชาญาณเช่นนี้!”
เย่เฉินพยักหน้า และกล่าวอย่างเย็นชาว่า : “ฉันก็จะไม่ปิดบังคุณเช่นกัน ผู้มีพระคุณทราบมาตลอดว่าทหารม้ากล้าและทหารหน่วยกล้าตายอย่างพวกคุณนี้ ส่วนใหญ่ขาดความจงรักภักดีต่อผู้มีพระคุณ กระทั่งเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาจึงมีความคิดนี้ และไม่ได้ต้องการค้นหาเอาคนทรยศออกมาหรอก แต่ต้องการใช้วิธีการนี้ เพื่อขุดเอาคนมีพรสวรรค์ประเภทคุณนี้ออกมา!”
พูดจบ เย่เฉินยังกล่าวว่า : “คุณวางใจเถอะ ฉันจะต้องนำการแสดงออกของคุณในวันนี้ ไปรายงานกับผู้มีพระคุณตั้งแต่ต้นจนจบ เชื่อว่าผู้มีพระคุณจะต้องให้บำเหน็จคุณตามความชอบ ไม่แน่ว่า อาจจะเลื่อนตำแหน่งให้คุณเป็นผู้สั่งการของทหารม้ากล้าก็เป็นได้!”
ชายคนนั้นดีใจจนแทบบ้า คุกเข่าลงบนพื้น และคำนับพร้อมกล่าวว่า : “ขอบคุณท่านทูตพิเศษที่ให้การสนับสนุน!”
เย่เฉินยื่นมือออกไปเพื่อบ่งบอกให้เขาลุกขึ้น จากนั้นจึงเริ่มกลอุบายแก่เขาต่อ ยิ้มและเอ่ยถามว่า : “ตามความเข้าใจของคุณ ในทหารม้ากล้า คนที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อองค์กรแท้จริงอย่างคุณ ยังมีอีกเท่าไหร่?”
ชายคนนั้นคิดๆ ดูแล้ว เอ่ยถามว่า : “ยืนยันได้ว่ามีไม่กี่คน แต่ก็มีอย่างน้อยสิบกว่าคน! พวกเขามีความภักดีต่อองค์กร แล้วก็หวังว่าด้วยความทุ่มเทพยายามของตนเอง จะทำให้ตนเองและครอบครัวได้รับความสำคัญต่อองค์กรเพิ่มมากขึ้น”
“โอเค!” เย่เฉินพยักหน้า และสั่งกำชับว่า : “หลังจากที่คุณออกไปจากที่นี่ อย่าทำให้อีกสิบเอ็ดคนระแคะระคายอะไร จากนั้นคุณก็ไปหาคนที่ไม่มีวันทรยศหักหลังองค์กร และบอกความจริงเกี่ยวกับยาแก้พิษแก่พวกเขาอย่างเงียบๆ หลังจากที่ให้พวกเขากินยาแล้ว ให้จับผ้าขนหนูไว้ที่มือซ้าย เพื่อที่ฉันจะได้เห็นมัน และจำไว้ว่าอย่าให้ข่าวแพร่งพรายออกไปได้”
ชายคนนั้นพูดออกมาอย่างไม่ต้องคิด : “ท่านทูตวางใจเถอะครับ ฉันจะไปจัดการเอง!”
คนที่สามที่เข้าไปในห้องทำงาน ก็คือชายผมสั้นที่ระดมกำลังทหารม้ากล้าเพื่อใช้โอกาสในการต่อต้าน
เมื่อเขากล่าวว่า “ผู้นำธงซ้ายทหารม้ากล้าขอเข้าพบท่านทูตพิเศษครับ” เย่เฉินก็จำเสียงเขาได้ทันที
ดังนั้น ตั้งแต่ที่เขาเดินเข้าประตูไป เย่เฉินก็เฝ้าสังเกตทุกการเคลื่อนไหว
ผู้ชายคนนี้อายุประมาณสี่สิบปี ถึงแม้ว่าหน้าตาจะธรรมดาทั่วไป แต่ระหว่างหน้าผากกลับมีความองอาจผึ่งผายที่ไม่อาจซ่อนได้
เมื่อเห็นเย่เฉิน เขาก็โค้งคำนับเล็กน้อย และกล่าวอย่างเป็นกิจวัตรประจำวัน : “ท่านทูตพิเศษ ฉันได้ทดลองยาแก้พิษชนิดใหม่ที่ท่านให้แล้ว ไม่มีความผิดปกติใดๆ เลยครับ”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย และถามว่า : “คุณชื่ออะไร?”
ชายผมสั้นไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเย่เฉินจึงถามชื่อของตนเอง ในความสงสัย ก็ทำได้เพียงตอบกลับไปตามความเป็นจริงเท่านั้น : “เรียนท่านทูตพิเศษ ฉันชื่อหลี่เนี่ยนจง”
เย่เฉินถามอีกว่า : “ฉันจำได้ว่าทหารหน่วยกล้าตายจะตั้งชื่อตามหมายเลข แน่นอนว่าคุณก็เป็นทหารหน่วยกล้าตายที่เลื่อนขั้นมาตลอด ทำไมถึงได้มีชื่อล่ะ?”
ชายผมสั้นกล่าวอย่างไม่ดูแข็งกร้าวและไม่ต้อยต่ำว่า : “ฉันอยู่ในค่ายทหารหน่วยกล้าตาย อันที่จริงก็ได้รับการตั้งชื่อตามหมายเลข แต่บรรพบุรุษของฉันได้นำชื่อและนามสกุล มาส่งต่อรุ่นสู่รุ่นในค่ายทหารหน่วยกล้าตาย อยู่ในค่ายทหารหน่วยกล้าตายนี้ ก็เลยถูกอนุญาตเช่นกัน”
เย่เฉินพยักหน้า และทันใดนั้นก็ถอดหมวกใบใหญ่ของเสื้อคลุมสีดำออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของตนเอง
หลี่เนี่ยนจงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่า เพราะอะไรท่านทูตพิเศษจึงเผยใบหน้าที่แท้จริงออกมา อย่างไรเสียก็ไม่เคยพบเจอสิ่งนี้มาก่อน