ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4974 ค่อยไปตะวันออกกลาง 3
จากนั้น ทั้งกรงเหล็กลงเข้าไปในใต้ดินอีกครั้งหนึ่ง
เย่เฉินเห็นขั้นตอนทั้งหมดนี้ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพูด : “พั่วจวิน ทั้งหมดนี้อาศัยกรงที่ขึ้นลงพวกนี้ขนส่งพนักงานกับของ ประสิทธิภาพการโยกย้ายต่ำเกินไปแล้วไหม ? หนึ่งครั้งมากสุดก็ขึ้นลงได้ไม่กี่สิบคน ของไม่กี่ตัน ต่อให้เที่ยวหนึ่งไม่กี่นาทีก็ตาม พอถึงเวลาคับขันจริง ๆ ประสิทธิภาพนี้จะเป็นน้ำน้อยแพ้ไฟเอาน่ะสิ”
ว่านพั่วจวินรีบบอก : “คุณเย่คุณพูดได้ถูกต้อง ตอนนี้บ่อตั้งสองแห่งนี้ อันที่จริงเป็นการจัดสรรขั้นตอนการก่อสร้าง งานก่อสร้างใต้ดินตอนนี้เป็นเพียงขั้นตอนระดับขั้นตอนอยู่ ดังนั้นเลยจัดให้บ่อตั้งสองแห่งนี้มาดำเนินการก่อสร้างใต้ดิน”
“แต่ว่า ขั้นตอนถัดไป เราจะสร้างตึกระฟ้าศูนย์กลางซึ่งครอบคลุมพื้นที่เกินกว่าหนึ่งแสนตารางเมตร ทางด้านตะวันตกของลานวิ่งสนามบิน จากนั้นขุดเนินลาดทางคู่ให้ยานพาหนะเข้าออกเส้นหนึ่ง จากชั้นภายในตึกระฟ้าศูนย์กลางครับ”
“เนินลาดจะผ่านงานก่อสร้างใต้ดินจากตึกระฟ้า เหมือนกับอุโมงค์ที่มีความลาดชันสูง พอหลังจากสร้างเสร็จ พนักงาน ยานพาหนะ และอุปกรณ์ทั้งหมดจะขับรถขึ้นลงจากที่นี่ครับ ระดับความเร็วในการโยกย้ายทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าได้ครับ ความสะดวกไม่มีความแตกต่างใด ๆ กับบนพื้นเลยครับ”
เย่เฉินพยักหน้า : “ที่ใต้บ่อตอนนี้มีคนงานกี่คนที่ทำงานในขณะเดียวกันนี้ ?”
ว่านพั่วจวินบอก : “ตอนนี้เราเร่งความคืบหน้าโดยไม่ได้ขึ้นกับการคำนวณต้นทุนแล้ว ดังนั้นเลยนับประเภทงานทั้งหมดที่ใต้บ่อ ที่ทำงานในขณะเดียวกันนี้มีห้าหกร้อยคนล่ะมั้งครับ”
เย่เฉินถามอีก : “จริงสิ มะเฟียซิซิลีที่กลับมาจากแคนาดาก่อนหน้าพวกนั้น ตอนนี้ทำอะไรกันอยู่ ?”
ว่านพั่วจวินยิ้มแล้วบอก : “มะเฟียที่มีฐานเหง้าอยู่ที่ซิซิลีกลุ่มนั้น ตอนนี้ถูกจัดเข้าไปในทีมขุดเปิดบ่อเหมืองหมดแล้วครับ มุ่งก่อสร้างงานก่อสร้างใต้ดิน ทีมก่อสร้างปกติของเราเป็นระบบทำงานสามกะ แปดชั่วโมงต่อวัน แต่ว่าทีมมะเฟียพวกนี้เป็นระบบทำงานสองกะ สิบสองชั่วโมงต่อวัน อย่างไรซะต่างเป็นกลุ่มไอ้ระยำที่ก่อกรรมทำชั่ว กระทำผิดกฎหมายนับไม่ถ้วน เราเลยไม่พิถีพิถันกฎหมายแรงงานอะไรกับพวกเขา ขอเพียงไม่ทำให้พวกเขาเหนื่อยตายก็พอแล้วครับ”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วพูด : “อย่างไรซะเรื่องที่ยอดฝีมือซิซิลีแปดร้อยกว่าคน ใช้อำนาจป่าเถื่อนอย่างกำเริบเสิบสาน รังแกข่มเหงตลาด ทำงานติดต่อกัน24ชั่วโมง พวกเขาก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย การทำงานที่ใต้บ่อ12ชั่วโมงไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน”
พูดจบ เย่เฉินก็ถามอีก : “จริงสิ ศิษย์สำนักฮงเหมินพวกนั้นล่ะ ?”
ว่านพั่วจวินแย้มยิ้มแล้วบอก : “คุณเย่ครับ เรื่องที่ศิษย์สำนักฮงเหมินนั่งยังไม่ถึงเลยครับ”
เย่เฉินเผลอหัวเราะออกมาเงียบ ๆ
มาจากเกาะฮ่องกางเป็นระยะทางที่ไกลมากจริง ๆ อย่างน้อยยี่สิบวัน มาไม่ถึงอย่างแน่นอน
ในจังหวะนี้เอง กรงสองชั้นถูกหิ้วขึ้นมาอีกครั้ง ราวกั้นเหล็กด้านบนเปิดออก คามมิตที่สวมหมวกนิรภัยสีแดงก็เดินออกมาจากด้านใน ภายใต้การติดตามของเหล่านายทหารสำนักว่านหลงหลายคน
เย่เฉินจำเขาได้ในปราดเดียว ตะโกนจากไกล ๆ : “จอมพลคาม !”
คามมิตยื่นช่วงท้องที่เป็นพุงพลุ้ย หันตามเสียงไปมองเย่เฉิน
พอเห็นว่าเป็นเย่เฉินที่กำลังเรียกตัวเอง เขาก็ดีใจเหมือนบ้าคลั่งไปเลย ตะโกนเสียงสูง : “อัยหยา คุณเย่ ศิษย์น้องเย่ !”
พูดจบ ก็เดินสาวฝีเท้า วิ่งไปหาเย่เฉิน
สาวเท้าไปเบื้องหน้าเย่เฉินอย่างรวดเร็ว คามมิตกระหืดกระหอบไปด้วย จับมือของเย่เฉินเอาไว้ด้วยความดีใจไปด้วย ถามด้วยความตื่นเต้น : “ศิษย์น้องเย่ นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?”
“เพิ่งมาถึงครับ” เย่เฉินยิ้มให้เล็กน้อย มองท้องน้อยของเขาที่นูนขึ้น เลยพูดหยอกล้อ : “ช่วงนี้พี่อ้วนท้วมสมบูรณ์ไม่น้อยเลยนะ ดูท่าใช้ชีวิตอย่างสบายอกสบายใจมาก”
คามมิตยิ้มแหะ ๆ ประสานสองมือเอาไว้แล้วพูด : “พึ่งบุญวาสนาของศิษย์น้อง ! ตอนนี้ไม่ต่อสู้แล้ว นอกจากนอนแล้วก็กินอยู่ทุกวัน กินดีอยู่ดี นอนหลับได้อย่างสบายใจด้วย น้ำหนักเลยย่อมขึ้นมาเป็นธรรมดา”