ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4969 ท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง2
บทที่ 4968 ท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง1
บทที่ 4970 ท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง3
“นี่ก็ไม่มีทางเช่นเดียวกัน” ผู้มีพระคุณพูดราบเรียบ : “หลินหว่านเอ๋อร์เจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าที่นายจินตนาการเอาไว้ และเก่งด้านการวางแผนด้วย สิ่งที่นายสามารถคิดได้ เธอคิดได้ไปตั้งนานแล้ว ตู้เซฟธนาคารดูเหมือนจะปกปิดและไม่เตะตา แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ปลอดภัยเลยสักนิด หากว่าฉันอยากให้องครักษ์เสื้อแพรของฉันเปิดดูตู้เซฟธนาคารของยุโรปเหนือทั้งหมดระหว่างกลางดึกเพื่อดูให้แน่ชัด เธอจะเสี่ยงกับความเสี่ยงพวกนี้ได้ยังไงกัน”
ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยความงงงวย : “ผู้มีพระคุณ หากว่าตามที่ท่านว่ามา แหวนวงนี้ไม่ได้อยู่ในมือเธอจริง ๆ แต่เธอก็ไม่ได้ทิ้งไปตามใจชอบ งั้นต้องมีวิธีการเก็บรักษาที่ดีมาก ๆ อย่างแน่นอน ท่านคิดว่า แหวนวงนี้อยู่ที่ไหนกันแน่เหรอครับ ? หรือว่าถูกเธอเก็บรักษาในระยะไกลด้วยวิธีบางอย่างแล้ว ?”
ผู้มีพระคุณนิ่งเงียบไปสองสามวินาที พูดราบเรียบ : “เรื่องนี้ที่นายว่ามา ฉันเองก็ไม่รู้ สิ่งเดียวที่ฉันสามารถมั่นใจเพียงอย่างเดียวในตอนนี้ ก็คือแม้ว่าแหวนไม่ได้อยู่ในมือของหลินหว่านเอ๋อร์แล้ว แต่หลินหว่านเอ๋อร์เป็นเบาะแสเดียวของเราในตอนนี้ ดังนั้น จำเป็นต้องพยายามหาเธอให้เจอให้ได้ !”
พูดจบ เขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วพูดต่อ : “ครั้งนี้ ให้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งออกเขาด้วยตัวเอง นายเรียกเขามาพบฉันเลยเดี๋ยวนี้ !”
ผู้ชายสะดุ้งตกใจ ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งจากปากของผู้มีพระคุณ เป็นผู้นำแห่งสี่ท่านเอิร์ลผู้ยิ่งใหญ่
สี่ท่านเอิร์ลผู้ยิ่งใหญ่นี้ ผู้มีพระคุณเป็นผู้ประทานการแต่งตั้งตำแหน่งให้แต่ละคน โดยแยกออกเป็นท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง ท่านเอิร์ลติ้งหยวนท่านเอิร์ลเจี้ยนกงและท่านเอิร์ลจงหย่ง
สี่คนนี้ติดตามผู้มีพระคุณมาหลายปี สร้างความดีความชอบในการต่อสู้ชนะ เพื่อการพัฒนากำลังกองกำลังในบังคับบัญชาของผู้มีพระคุณ
นอกเหนือจากจัดอยู่ในลำดับที่หนึ่งของสี่ท่านเอิร์ลผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเป็นคนที่มีกำลังแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสี่ท่านเอิร์ลผู้ยิ่งใหญ่ เป็นบุคคลหมายเลขสองที่คู่ควรกับชื่อเสียงของทั้งองค์กร
และชื่อของผู้ชายคนนี้เองนั้น คือท่านเอิร์ลจงหย่งซึ่งอยู่ลำดับคนสุดท้ายของสี่ท่านเอิร์ลผู้ยิ่งใหญ่
ความดีความชอบที่อยู่ภายในองค์กรนี้ของเขานั้น ไม่สามารถเทียบกับท่านเอิร์ลสามอันดับแรกได้ แต่เนื่องจากความจงรักภักดีที่มีต่อผู้มีพระคุณ ดังนั้นเลยแต่งตั้งให้เป็นท่านเอิร์ลจงหย่ง มอบหมายให้เขาอยู่ข้างกายผู้มีพระคุณอยู่บ่อย ๆ
จากมุมมองของท่านเอิร์ลจงหย่ง สั่งให้ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งไปตามหาหลินหว่านเอ๋อร์ มีความรู้สึกว่าเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนอยู่หน่อยจริง ๆ
แต่ว่าเขาย่อมไม่กล้ามีข้อสงสัยใด ๆ กับการตัดสินใจของผู้มีพระคุณหรอก ครั้นแล้วเลยพูดโดยไม่ต้องคิด : “ผู้มีพระคุณครับ กระผมจะไปเรียกท่านเอิร์ลฉางเซิ่งให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”
ไม่กี่นาทีต่อมา
ผู้ชายวัยกลางคนราศีไม่ธรรมดา สวมเสื้อคลุมศาสนาเต๋า สาวฝีเท้าสง่างาม ก้าวเดินเข้าไปในห้องโถง
พอเข้ามา เขาก็คุกเข่าอยู่บนพื้นข้างหนึ่ง หลังจากทำความเคารพให้บัลลังก์ที่ว่างเปล่าแล้ว ก็พูดด้วยความนอบน้อม : “ผู้มีพระคุณครับ ท่านเอิร์ลจงหย่งบอกว่า ท่านมีเรื่องเลยเรียกหากระผม ไม่ทราบว่าท่านมีคำสั่งใดครับ ?”
เสียงทุ้มต่ำของผู้มีพระคุณนั่นดังขึ้น : “ท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง ฉันให้เวลานายห้าปีในการตามหาที่อยู่ของหลินหว่านเอ๋อร์ ห้าปีนี้ ฉันไม่สนว่านายไปที่ไหน ไม่สนว่านายใช้วิธีอะไร นายต้องการอะไร ฉันก็จะให้สิ่งนั้นกับนาย นายทำการตัดสินใจใด ๆ ก็ตามไม่จำเป็นต้องผ่านความยินยอมจากฉัน ฉันขอเพียงให้นายพาหลินหว่านเอ๋อร์มาพบฉันภายในระยะเวลาห้าปี นายสามารถทำได้ไหม ? !”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นกำหมัดสองข้าง พูดเสียงสูง : “ในเมื่อผู้มีพระคุณยินดีมอบภารกิจนี้ให้กระผม งั้นกระผมจะพยายามสุดความสามารถ เพื่อนำตัวหลินหว่านเอ๋อร์กลับมาในเร็ววันครับ !”
ผู้มีพระคุณส่งเสียงอืม แล้วเอ่ยปากพูด : “ห้าปีนี้ ให้ห้าร้อยล้านดอลลาร์เป็นค่าใช้จ่าย หลังจากภารกิจสำเร็จ ฉันจะให้ยาเสริมชี่ปราณห้าเม็ดเล็กเป็นค่าตอบแทนให้นาย !”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งได้ยินยาเสริมชี่ปราณเม็ดเล็กสี่ตัวอักษรนี้ ก็พูดด้วยความตื่นตระหนกปนด้วยความดีใจขั้นสุดทันที : “กระผม ขอขอบพระคุณผู้มีพระคุณครับ !”
พูดจบ เขาก้มตัว แสดงความขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าทันที