ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4962 ไล่ตามไปต่อก็ไร้ประโยชน์ 2
ไวเคานต์คนนั้นยังไม่ได้พูด จู่ ๆ เสียงที่ทุ้มต่ำจนน่ากลัวที่ผ่านเครื่องดัดเสียงดังขึ้นในหูฟัง : “กลับห้องหนังสือ ! ไปดูบนโต๊ะหนังสือ !”
ผู้ชายคนนั้นถูกเสียงนี้ทำให้ตกใจกลัว
เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้ยินเสียงเย็นยะเยือกแบบนี้ เสียงนั่นชวนให้ตกใจกลัวหน่อย ๆ
แต่ว่า วินาทีถัดไปเขาก็ตระหนักได้ว่า เสียงนี้ มีความเป็นไปได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณลึกลับอันยากจะคาดเดานั่น !
เขาตึงเครียดไปทั้งตัวเลยทันที พูดติดอ่าง : “ได้……ได้ครับ……ผม……ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ……”
พูดจบ ก็รีบวิ่งโซซัดโซเซกลับไปที่ห้องหนังสือ
ตอนที่เขามาถึงข้างหน้าโต๊ะหนังสือโบราณนั่น พบว่าบนโต๊ะหนังสือมีอักษรวิจิตรที่เขียนด้วยพู่กันอยู่แผ่นหนึ่ง
เขาก้มมอง พบว่าผลงานอักษรวิจิตรแผ่นนี้มีเพียงแปดตัวอักษร : “ทิ้งแหวนไปแล้ว ไล่ตามไปต่อก็ไร้ประโยชน์”
เขาไม่รู้ว่าอักษรแปดตัวนี้กำลังถ่ายทอดข้อมูลแบบไหนเอาไว้อยู่กันแน่ และไม่รู้ว่าแหวนที่เอ่ยถึงในนี้ มีความหมายแฝงอะไร แต่เขาเป็นผู้ที่ชื่นชอบอักษรวิจิตรคนหนึ่งอยู่พอดี เขาเลยมองออก ที่พู่กันนี้ใช้เขียนอักษรเป็นอักษรสิงซูที่เลียนแบบหวางซีจือผู้เป็นปราชญ์แห่งอักขระ อีกทั้งเขียนได้อิ่มเอิบงดงาม และดูมีพลังด้วยในขณะเดียวกัน ทุกขีดทุกเส้นเรียกได้ว่าไม่มีที่ติเลย
อักษรแปดตัวนี้ หากว่าเป็นเอาไปที่วงการอักษรวิจิตรในตอนนี้ จะต้อง“อยู่บนยอดสุดของภูเขา และมองดูกลุ่มภูเขาที่เล็กกระจ้อยร่อย” อย่างแน่นอน !
มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่ค่อยสอดคล้องกับภาพ ท้ายสุดของอักษรแปดตัวนี้ ยังมีใบหน้ายิ้มที่ใช้พู่กันวาดออกมา
แม้ว่าเส้นของใบหน้ายิ้มนี้จะง่ายดาย แต่กลับมีชีวิตชีวามาก ถึงขนาดที่ว่าสามารถมองออกอย่างเห็นได้ชัดว่า รอยยิ้มนั่นยังเจือด้วยความเหยียดหยามอยู่หน่อย ๆ ด้วย
ในตอนที่เขากำลังตกอยู่ในความไม่มีที่ติของอักษรแปดตัวนี้ จู่ ๆ เสียงทุ้มต่ำที่ผ่านการเปลี่ยนเสียงนั่นก็ดังขึ้นจากในหูฟัง เขาตวาดเสียงต่ำเหมือนโกรธเอามาก ๆ : “หลินหว่านเอ๋อร์นังตัวดี ! สมควรตาย ! สมควรตายจริง ๆ !”
พูดจบ เขาตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว : “ระเบิดมันซะ !”
ผู้ชายคนนั้นประหลาดใจเล็กน้อย ถามตามจิตใต้สำนึก : “ระเบิดมัน ? ระเบิดอะไร ?”
เพิ่งพูดจบ จู่ ๆ กล้องพกพาที่แขวนอยู่หน้าอกทางซ้ายของเขาก็เกิดระเบิดอย่างรุนแรง !
เสียงตูม แรงปะทะระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้โต๊ะหนังสือแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทั้งหมด ส่วนอักษรพู่กันที่เขียนอยู่บนกระดาษซวนจื่อนั่น ก็ถูกเผาเป็นผุยผงจากอุณหภูมิสูงที่เกิดจากการระเบิดภายในชั่วพริบตาด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนผู้ชายที่มาตรวจสอบคนนั้น ยังไม่ทันได้เข้าใจสถานการณ์อะไร จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านมาจากตรงหน้าอก ตัวเองก็กระเด็นออกไปจนถึงแก่ความตาย !
การตายของเขานั้นช่างน่ากลัวมาก ระเบิดนั่นระเบิดตรงหน้าอกเขาเป็นรูใหญ่ ส่วนใบหน้าของเขา ก็ยังคงสีหน้าหวาดกลัวจนถึงขีดสุดไว้อยู่ด้วย
จนตายแล้วเขาก็ยังคงไม่รู้ว่า ตัวเองถึงกับจะตายอยู่ในเงื้อมมือของกล้องพกพาที่ห้อยไว้ติดตัวนั่น
โครงสร้างในกล้องพกพาพวกนี้ฉลาดมาก มีพื้นที่ด้านในอย่างน้อยครึ่งหนึ่งที่ถูกใช้บรรจุระเบิดรุนแรงเอาไว้อยู่ และในระเบิดยังติดตั้งที่จุดระเบิดขนาดเล็กเอาไว้ด้วย ผู้ที่ควบคุมโดยระยะไกลสามารถควบคุมให้ที่จุดระเบิดระเบิดได้ทุกเมื่อ ขอเพียงใช้เครือข่ายสื่อสารดั้งเดิม รวมทั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อยู่ภายในกล้อง
สาเหตุที่ค้นคว้าและวิจัยอุปกรณ์พวกนี้ และติดมันให้สมาชิกองค์กร ก็เพื่อสามารถฆ่าปิดปาก และกำจัดหลักฐานที่กระทำผิดไว้ได้ในตอนที่จำเป็นนั่นเอง
และในตอนนี้เอง กล้องที่ระเบิดไปแล้วนั้น ถึงกับจุดชนวนเปลวไฟที่หลายจุดของห้องเลย
ภายในกล้องทั้งหมดนั้นทำโดยใช้วัสดุที่ไวไฟ หลังจากกล่องพลาสติกพิเศษลุกไหม้ในอุณหภูมิสูง ก็จะกลายเป็นสสารที่มีสภาพเหนียวที่มีความหนืดสูงอย่างหนึ่งเหมือนยางมะตอยอย่างไรอย่างนั้น เปลวไฟของมันสามารถคงอยู่ได้นานโดยที่ไม่ดับเลย
ในตอนนี้ โต๊ะหนังสือที่ได้รับความเสียหาย พื้นไม้ ผ้าม่านที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ ล้วนถูกสสารเหนียวที่เกิดจากตอนระเบิดติดเข้า สสารเหนียวนั้นนำเปลวไฟไปด้วย ดังนั้นไม่นานนัก สถานการณ์ไฟมอดก็ยิ่งทวีความรุนแรง