ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4911 ระหว่างวงแหวนที่สิบและเก้า2
“ใช่!”ห้าสี่เจ็ดพยักหน้าอย่างหนักแน่นโดยไม่ต้องคิด พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง“ ความฝันสูงสุดของผมในตอนนี้ คือการได้พบหน้าลูกเมียอีกครั้งที่ข้างนอกนี้ เกรงว่าความฝันนี้ คงมีเพียงคุณเย่ที่จะทำให้มันเป็นจริงได้……”
พูดจบ เขาถามหลี่ญ่าหลิน “พล.ต.ท.หลี่ คุณยังมีวิธีที่จะระบุสถานที่ตั้งของเราให้ชัดเจนได้มากกว่านี้อีกไหม? หากต้องการเบาะแสอะไรจากผม ผมจะพูดในสิ่งที่รู้ทุกอย่าง!”
หลี่ญ่าหลินมองห้าสี่เจ็ด แล้วเอ่ยถาม“การทำภารกิจของพวกคุณทุกครั้งต้องเข้าออกโดยเครื่องบินเหรอ?”
ห้าสี่เจ็ดพยักหน้าแล้วกล่าว“ใช่!ต้องนั่งเครื่องทุกครั้ง”
หลี่ญ่าหลินถาม“ระหว่างเดินทางคุณอยู่ในสภาพยังไง ?”
“ไม่รู้สึกตัว”ห้าสี่เจ็ดพูดตามความจริง“ ในตอนที่พวกเราจะออกไปปฏิบัติภารกิจ จะต้องกินยาที่ทำให้หมดสติ ในตอนที่ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ถึงที่หมายแล้ว”
หลี่ญ่าหลินถามต่อ“แล้วพวกคุณแน่ใจได้ยังไงว่าทุกครั้งที่ออกไปจะต้องขึ้นเครื่องทุกครั้ง?”
ห้าสี่เจ็ดอธิบาย“ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติภารกิจ ผมจะให้ภรรยาของผมช่วยคำนวณเวลา ถึงเวลาของเราจะไม่ค่อยแม่นยำนัก แต่ในช่วงเวลาอันสั้น ก็ไม่ได้คลาดเคลื่อนมากมายนัก”
“ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติภารกิจ เวลาที่ผมกะเกณฑ์ไม่ได้นั้นก็คือระยะทางไปกลับ เวลาในช่วงของการปฏิบัติภารกิจ ตัวผมเองบันทึกเวลาตามจริงได้ ดังนั้นทุกครั้งที่ผมกลับไป แล้วเทียบเคียงเวลากับของภรรยาผม ใช้เวลาที่เธอบันทึกไว้ ลบกับช่วงเวลาที่ผมปฏิบัติภารกิจ ก็คือเวลาการเดินทางไปกลับของผม ในสถานการณ์ปกติ ไม่ว่าจะไปทำภารกิจที่ไหนบนโลกใบนี้ ระยะเวลาในการเดินทางของพวกเราก็ไม่เกินหก ถึงเจ็ดวัน ความเร็วนี้ มีเพียงเครื่องบินเท่านั้นที่ทำได้”
หลี่ญ่าหลินพยักหน้าให้เบาๆ แล้วกล่าว“ไม่เกินหก ถึงเจ็ดวัน ซึ่งก็หมายความว่า ประสิทธิภาพการหมุนเวียนของพวกคุณนั้นสูงมาก หรือแม้แต่สนามบินที่พวกคุณใช้เดินทาง ก็อาจจะอยู่ใกล้ๆกับสถานีที่ตั้งของพวกคุณเอง”
ขณะที่พูด หลี่ญ่าหลินก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ พูดโพล่งออกมา“ขั้นตอนต่อไปสามารถแยกออกได้เป็นสองทาง ทางที่หนึ่งหาแผนที่ที่สมบูรณ์ รวมถึงภาพถ่ายจากดาวเทียม ค้นหาเกาะต่างๆ และสนามบินจากในรัศมีวงแหวน จากนั้นให้แต่ละสนามบินในพื้นที่รัศมีสิบกิโลเมตรเป็นเป้าหมายหลักในการตรวจสอบ”
“อีกทางหนึ่ง ก็เริ่มมันจากที่ยานพาหนะของพวกคุณเอง!”
ห้าสี่เจ็ดรีบถามกลับในทันที“ จะเริ่มจากยานพาหนะยังไง?”
หลี่ญ่าหลินกล่าว“แม้พวกคุณจะเดินทางไปทำภารกิจด้วยเครื่องบิน แต่ตอนที่พวกคุณมาที่สหรัฐอเมริกานั้นไม่ได้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาใช่ไหม เพราะตอนที่คุณฟื้นขึ้นมา ก็ได้เข้ามาอยู่ในสหรัฐอเมริกาโดยไม่ต้องผ่านการตรวจอะไร”
“ใช่” ห้าสี่เจ็ดพยักหน้าแล้วกล่าว“ทุกครั้งที่เราต้องทำภารกิจ ไม่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเลยสักครั้ง ลืมตาตื่นขึ้นมาก็ถึงที่หมายแล้ว ”
หลี่ญ่าหลินพูดต่อ“ประเทศอื่นผมไม่รู้ แต่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่วินาศกรรม11กันยา ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางเครื่องบินมากขึ้น ดังนั้นเครื่องบินที่พวกคุณโดยสารมา จะเข้ามาที่สหรัฐอเมริกาโดยตรงไม่ได้ จะเข้าสหรัฐอเมริกาต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องเลือกประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นสะพาน ร่อนเครื่องลงจอดในประเทศนั้นๆ จากนั้นก็จัดการให้พวกคุณลักลอบข้ามพรมแดนมาทางบกแล้วเข้ามาในประเทศได้สำเร็จ ”
นิ่งไปสักพัก หลี่ญ่าหลินก็ถามต่อ“คุณเคยไปสหรัฐอเมริกาไหม?”
ห้าสี่เจ็ดพยักหน้าแล้วกล่าว“เคยไปครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นไปที่ลอสแอนเจลิส”
หลี่ญ่าหลินถามต่อ“ ตอนคุณไปลอสแอนเจลิส เป็นเหมือนกับตอนไปนครนิวยอร์กหรือเปล่า ตื่นมาก็ถึงที่หมายแล้ว อีกทั้งระยะเวลาในการเดินทางก็ไม่เกิดหกถึงเจ็ดวัน ใช่ไหม?”