บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน - ตอนที่ 281.2 เคราะห์สวรรค์คือปีศาจโอหัง (2)
บทที่ 281 เคราะห์สวรรค์คือปีศาจโอหัง (2)
แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนกลับไม่รู้สึกถึงจิตต่อสู้ของฉีเซ่าเสวียน
เดิมทีเขากำลังอาบน้ำสบายไปทั้งตัว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกระแสจิตของเอ๋าปิงบอกว่านางจะออกจากไข่แล้ว
เอ๋าปิงนิพพานเป็นไข่ก็เพื่อบ่มเพาะต้นกำเนิดพลังที่เสียไป ใช้วิชาลับเผ่ามังกรกำเนิดชีวิตที่สอง ตอนนี้อึดอัดมานานในที่สุดก็จะได้ออกมาสักที
เสิ่นเทียนเป็นสหายทำสัญญากับเอ๋าปิง เขาย่อมให้ความร่วมมือกับนางเต็มที่
ถึงอย่างไรหากเจ้านี่ฝ่าด่านเคราะห์ล้มเหลวตายบนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ หากแพร่งพรายไปถึงเกาะมังกรดำล่ะจะทำอย่างไร!
ดังนั้น เสิ่นเทียนจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดถอนค่ายกลพิทักษ์บนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์และคิดหาทางช่วยเอ๋าปิงให้ฝ่าเคราะห์สวรรค์ออกไข่ไปได้
แต่สิ่งที่ควรค่ายินดีคือ ตอนนี้เคราะห์สวรรค์ของเอ๋าปิงเป็นเพียงเคราะห์นิพพานที่นางเกิดใหม่เท่านั้น ไม่ใช่เคราะห์สวรรค์เป็นผู้อริยะ ดังนั้นจึงไม่ได้มีอานุภาพแข็งแกร่งเป็นพิเศษ
อานุภาพของสายฟ้าเคราะห์สวรรค์หนึ่งก็พอจะสังหารผู้ฝึกบำเพ็ญจุดสูงสุดดวงจิตดรุณตายได้กระมัง!
แน่นอนว่าไม่ใช่จุดสูงสุดดวงจิตดรุณจากสำนักทุกซอกทุกมุมขนาดนั้น แต่ดวงจิตดรุณนั้นก็ถือว่าเป็นดวงจิตดรุณไม่ใช่รึ
พูดแบบนี้แล้วกัน!
ถ้าสุ่มจุดสูงสุดดวงจิตดรุณสิบคนจากในศิษย์สายตรงเทพสวรรค์ ให้เคราะห์สวรรค์ผ่าลงมา ก็คงจะมีตายเจ็ดรอดสาม
“ผู้อาวุโสปิง ท่านต้านเคราะห์สวรรค์นี่ไหวหรือไม่”
เสิ่นเทียนยืนอยู่หน้าวิหารบุตรศักดิ์สิทธิ์ มองไข่มังกรสีดำตรงกลางเคราะห์อัสนีพลางเอ่ยถาม
ไข่มังกรเปล่งแสงมืดหม่น เสียงของเอ๋าปิงดังในความคิดเสิ่นเทียน “ยังเรียกข้าว่าผู้อาวุโสอีกรึ บอกแล้วว่าให้เรียกข้าว่าพี่สาว
กับอีแค่เคราะห์สวรรค์ระดับนี้ ทำอะไรพี่สาวไม่ได้หรอก ตอนนี้ข้ายังอยู่ในไข่ จึงใช้โอสถฟื้นพลังฤทธิ์ไม่ได้”
เปลือกไข่มังกรขยับแสงหม่น รวมขึ้นเป็นกรงเล็บสีดำฉีกเคราะห์อัสนี “เจ้ายังมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานอยู่หรือไม่ เทให้ข้าหน่อย”
ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานฟื้นพลังฤทธิ์ให้เอ๋าปิงได้หรือ
เสิ่นเทียนครุ่นคิดก่อนจะหยิบขวดกองหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ส่วนใหญ่ในนั้นเป็นสีขาว
เขาเลือกขวดสีแดงออกมาขวดหนึ่งก่อนเดินไปทางไข่มังกรสีดำ “พี่เอ๋าปิง ท่านหาหลุมลงเถอะ ข้าจะให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์”
เอ่ยจบแล้ว เสิ่นเทียนก็เดินไปยังส่วนลึกของเคราะห์อัสนีที่มีสายฟ้าตัดสลับกัน
ใช่ว่าเขาจะไม่เคยคิดจะโยนขวดเข้าไป แต่ก็กลัวว่าจะโดนสายฟ้าผ่าขวดแตกขึ้นมาจะสิ้นเปลือง เอาให้มั่นใจดีกว่า
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนเข้าไปในเขตสายฟ้าช้าๆ สายตาของผู้คนกลางอากาศก็เร่าร้อนขึ้นมา นี่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กำลังจะแสดงพลังแล้วรึ
เสียงประหลาดใจของเอ๋าอูดังมาจากกลางไอม่วงเข้มข้น “พี่เซ่าเสวียน เคราะห์สวรรค์ระดับนี้ พี่ต้านไหวหรือไม่”
ฉีเซ่าเสวียนหัวเราะเยาะ “ขอแค่มีง้าวมังกรสวรรค์ในมือ สายฟ้าระดับนี้มาเท่าไรแซ่ฉีจะทำลายให้หมด ทำลายมันได้หลายสิบครั้ง ไม่กดดันแม้แต่นิด”
ฉีเซ่าเสวียนไม่ได้โม้ ถึงเขาจะอยู่เพียงแก่นพลังทอง แต่กำลังรบแท้จริงมากพอจะกำราบจุดสูงสุดดวงจิตดรุณ ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับหลอมรวมเทพที่ค่อนข้างอ่อนแอออกมือ ฉีเซ่าเสวียนก็ระเบิดพลังปะทะกับเขาได้สองกระบวนท่า
แน่นอนได้แค่สองกระบวนท่า กระบวนท่าที่สามวิ่งไม่ออกอีกก็คงต้องตัวเย็น
เมื่อเห็นการโจมตีระดับนี้จากเคราะห์นิพพานของเอ๋าปิง ฉีเซ่าเสวียนในสภาพสมบูรณ์ผนวกกับโอสถเยียวยาก็ต้านได้ยี่สิบสามสิบครั้งไม่ยาก
ฉีเซ่าเสวียนมองเสิ่นเทียนด้วยความสนใจ เขาอยากอาศัยโอกาสนี้ดูว่าเสิ่นเทียนจะต้านสายฟ้าได้กี่ครั้ง
ในบางด้าน นี่ยังเป็นโอกาสดีงามที่ได้หยั่งเชิงตื้นลึกหนาบางของเสิ่นเทียน
………..
เสิ่นเทียนก้าวเข้าไปในเขตใจกลางเคราะห์อัสนีท่ามกลางสายตาของทุกคน
ตรงนี้หลังจากโดนฟ้าผ่าแล้ว พืชไม้แทบจะเหี่ยวเฉา ทว่าเมื่อเสิ่นเทียนก้าวออกมา พืชที่เดิมทีแห้งและไหม้พลันแตกหน่ออีกครั้ง ดอกไม้วิญญาณเบ่งบาน
หากบอกว่าเคราะห์สวรรค์ยิ่งใหญ่นี้เหมือนกับอำนาจเทพทำลายล้างโลก เช่นนั้นแสงสีเขียวที่วนเวียนรอบตัวเสิ่นเทียนก็เหมือนกับการสรรเสริญของชีวิต
เขาผ่านไปที่ใด ทุกสรรพสิ่งคืนชีพอีกครั้ง
ครืน~
สายฟ้าบนฟ้าเหมือนจะถูกเสิ่นเทียนยั่วโมโห
ข้าผ่าไม้ดอก แต่เจ้ากล้าช่วยกลับมา คิดว่าหล่อแล้วเจ๋งนักรึ!
ได้ ข้าจะไม่ผ่าไม้ดอกแล้ว แต่จะผ่าเจ้าแทน!
อัสนีเทพสว่างจ้าสายหนึ่งพุ่งลงมาจากฟ้า ผ่าลงกลางศีรษะเสิ่นเทียน สายฟ้าผ่านไปที่ใด แม้แต่อากาศยังบิดเบี้ยว
มาแล้ว!
ต่อไปจะได้เห็นว่าเสิ่นเทียนต้านเคราะห์สวรรค์นี่อย่างไร
ฉีเซ่าเสวียนเบิกตาโต ตอนนี้เขามองเสิ่นเทียนเป็นศัตรูเก่าในชีวิตไปแล้ว
เขาอยากเข้าใจกำลังรบของเสิ่นเทียนให้เร็วที่สุดว่าเป็นอย่างไรกันแน่ จะเทียบเท่ากับเขาและตัดสินสูงต่ำกันได้หรือไม่!
เคราะห์สวรรค์เข้าใกล้เสิ่นเทียนมาทุกที ใกล้มาเรื่อยๆ ใกล้มาเรื่อยๆ…
ในที่สุดเคราะห์สวรรค์นั้นก็กลายเป็นดาบเทพเล่มหนึ่งฟันลงมา
แต่สิ่งที่เหนือความคาดคิดของทุกคนคือ เมื่อเผชิญหน้ากับดาบเทพจากเคราะห์สวรรค์นั้น เสิ่นเทียนกลับไม่ได้จู่โจมก่อน ไม่ได้สำแดงวิชาต่อต้าน แต่กางสองแขนช้าๆ
ใช่แล้ว เขากำลังโอบกอดเคราะห์สวรรค์
คนมากมายพลันตกใจจนคางร่วง แบบนี้ก็ได้หรือ
นั่นคือเคราะห์สวรรค์ ต่อให้เป็นเคราะห์นิพพานฉบับอ่อนแอก็สังหารโอรสสวรรค์จุดสูงสุดดวงจิตดรุณได้
ต่อให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างเจ้าจะมีปรีชาสามารถจริงๆ องอาจห้าวหาญ แต่ตายไปเช่นนี้จะดีจริงๆ หรือ เจ้าคิดว่าเคราะห์สวรรค์จะเอ็นดูเพราะใบหน้าเจ้าหรือ
บึ้ม~!
ดาบเทพผ่าลงเหนือศีรษะเสิ่นเทียน กลับเกิดเพียงเสียงดังแก๊ง
จากนั้น ดาบเทพสายฟ้านั้นแตกกระจายเป็นพลังงานสายฟ้าที่เปี่ยมล้นอย่างยิ่งหลั่งไหลเข้าไปในกายเสิ่นเทียน และศีรษะของเขาไม่มีเส้นผมขาดสักเส้น
ทันใดนั้นเองก็เกิดเสียงสูดลมหายใจเย็นๆ ดังขึ้นโดยรอบทั้งยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์
ซี้ด~ ซี้ด~ ซี้ด~
น่ากลัวมาก
ง้าวมังกรสวรรค์ในมือฉีเซ่าเสวียนตกลงพื้นดังปึก ไอม่วงเข้มข้นหมุนม้วนอย่างรุนแรง
มองผ่านรูสองรูบนกลุ่มไอม่วงนั้นจะเห็นดวงตาคู่หนึ่งเต็มไปด้วยความตกตะลึง
นี่มันบ้าอะไรกัน
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นี่ไม่ได้ฝึกคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์รึ
คัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ผนวกกับวิชาหลอมกายจักรพรรดิอัสนี ฝึกออกมาศีรษะแข็งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร
ต่อให้ฝึกพระสูตรหัวใจสุดยอดวิชาของแดนศักดิ์สิทธิ์เสียงอัสนีถึงขั้นสูงหรือขั้นสมบูรณ์ ก็อาจจะทำถึงขนาดนี้ไม่ได้!
ศีรษะของเจ้านี่ทำจากทองคำรึ
สารภาพตามตรง ฉีเซ่าเสวียนสงสัยในชีวิตนิดๆ แล้ว และคนที่สงสัยในชีวิตไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว
ตอนนี้ผู้ฝึกบำเพ็ญทุกคนที่ดูเคราะห์อัสนีบนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ต่างมีความคิดเดียวกับฉีเซ่าเสวียน
นั่นคือ เจ้าเด็กนี่ใช้กลโกงกระมัง!
…….
ในกลุ่มศิษย์เทพสวรรค์ พวกศิษย์จากกลุ่มสวรรค์พิทักษ์ก็ไม่ได้ว่างเช่นกัน
อัสนีเทพหลากสีที่ฉินอวิ๋นตี๋ตั้งใจผลิตขึ้นระเบิดบนฟ้าดังเปรี้ยงปร้าง กระบี่ยาวบินตัดสลับกันบนฟ้า รวมเป็นคำว่า ‘เทียน’
“จุดสูงสุดแห่งเซียน โอหังต่อโลก พยายามฝึกฝนทุกวัน ติดตามศิษย์พี่จักต้องเป็นเซียน!”
เสียงดังปานฟ้าผ่า อานุภาพดั่งสายรุ้ง ปณิธานของทุกคนรวมเป็นปึกแผ่น ทำให้คนตื่นตกใจ
เวลานี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์และศิษย์พี่ใหญ่จากแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นที่แอบดูอยู่ลับๆ พกวนั้นต่างรู้สึกถึงกลิ่นเปรี้ยวไปทั้งตัว
เหมือนกับกินของเหลวศักดิ์สิทธิ์จากปีศาจมะนาวหมื่นปีบรรลุนิพพาน กลิ่นเปรี้ยวอันน่าคับอกคับใจแผ่ออกมาจากในไขกระดูก
นี่คือศิษย์น้องของบุตรศักดิ์สิทธิ์คนอื่นเขารึ เหตุใดศิษย์น้องฝั่งข้าถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ น่าริษยายิ่งนัก!
………
เสิ่นเทียนไม่รู้ความคิดในใจโอรสสวรรค์ฝ่ายอื่นเลย
ตอนนี้ความคิดในใจเขาง่ายมาก นั่นคือ…ตีให้ตายก็ไม่ยอมสู้กับเคราะห์สวรรค์
ตลก คิดจริงๆ หรือว่าเสิ่นเทียนจะไม่เคยเห็นเคราะห์สวรรค์
ข้าเห็นผู้อริยะฝ่าด่านเคราะห์มาไม่ต่ำกว่าสามครั้ง มีประสบการณ์โชกโชนมากเลยล่ะ!
ทุกคนรู้ว่าเคราะห์สวรรค์คือปีศาจโอหัง
ยิ่งเจ้าไม่ไว้หน้ามันมากเท่าไร มันก็ยิ่งกำเริบเสิบสาน ยิ่งจะถูกฟ้าผ่าโหดขึ้นและอนาถขึ้นไปอีก
ก็เหมือนกับมารดาเถาลวี่จี เถากลืนกินเซียนอันดับเก้าในรายนามไม้วิญญาณมีกายเนื้อ แทบจะไร้พ่ายในระดับต่ำกว่าผู้อริยะ
คิดว่าเจ๋งรึ
เจ๋งแล้วอย่างไร กล้าโอหังต่อหน้าเคราะห์สวรรค์ ทั้งยังกล้าฟาดแส้ของตนใส่เมฆเคราะห์สวรรค์ นี่ต่างอะไรกับการฟาดแส้ใส่หน้าเคราะห์สวรรค์
นี่ถึงได้โดนเคราะห์สวรรค์ผ่าจนแทบจะดับสูญไป
และยังมีเจ้าผู้คุ้มกฎอู๋เซิงกับสามผู้อริยะซาโพ่หลาง ไม่อยากเชื่อว่าจะกล้ารวมเป็นพุทธโลหิตต้านเคราะห์สวรรค์ ทั้งยังตบใส่เคราะห์สวรรค์
ผลเป็นอย่างไร!
ถูกเคราะห์สวรรค์โจมตีทำลายยอดค่ายกลทุกสรรพสัตว์เท่าเทียม โดนฟ้าผ่ากรอบนอกนุ่มใน
จากตรงนี้จะเห็นได้ว่าหากสู้กับเคราะห์สวรรค์ จะไม่มีจุดจบที่ดีเลย
แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำฉลาดมาก ก่อนฝ่าด่านเคราะห์ได้อธิษฐานต่อเมฆเคราะห์ก่อน ‘จินเหลียนศิษย์เทพสวรรค์ขอฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะ หวังว่าสวรรค์จะเมตตา’
ผลเป็นอย่างไรเจ้าดูสิ ฝ่าด่านเคราะห์สำเร็จ จัดการทุกอย่างเรียบร้อย แรงกดดันลดลงไปมาก
จากตรงนี้จะเห็นได้ว่ายิ่งอ่อนน้อมต่อหน้าเคราะห์สวรรค์มากเท่าไรก็ยิ่งดี เคราะห์สวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่จะผ่าข้า ก็ให้เขาผ่าให้มีความสุขไปเลย
ถึงอย่างไรอานุภาพแค่นี้ก็ทำอะไรข้าไม่ได้ แต่ทำให้ข้าได้ดูดซับสายฟ้าจากเคราะห์ภัยอีก
เสิ่นเทียนเดินไปใต้เมฆเคราะห์ เผยรอยยิ้มที่ทำให้หญิงนับพันนับหมื่นคลุ้มคลั่ง
เขาประสานมุทราแบบลัทธิเต๋า “บุญคุณสายฟ้ามีบุญคุณยิ่งใหญ่ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนขอขอบคุณสายฟ้าจากสวรรค์”
ตอนที่เอ่ยประโยคนี้ เสิ่นเทียนเผยรอยยิ้มที่จริงใจอย่างยิ่ง
เขาเชื่อว่าสวรรค์จะรู้สึกถึงความว่านอนสอนง่ายของเขา…
ถุยๆๆ หัวใจที่จริงใจต่างหาก
……
อีกด้านหนึ่ง เสิ่นเทียนเพิ่งพูดจบ ทั้งโลกเล็กเทพสวรรค์ก็ระเบิดออก
“บ้าแล้ว โดนเคราะห์สวรรค์แข็งแกร่งเช่นนี้ผ่ากลางหัว บุตรศักดิ์สิทธิ์กลับไม่เป็นอะไรเลย ทั้งยังขอบคุณสายฟ้าจากสวรรค์อีกรึ”
“บุญคุณสายฟ้าคือบุญคุณยิ่งใหญ่ ลึกซึ้งมาก สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ระดับสูงจริงๆ”
“สูงน้องเขยเจ้าสิ เจ้าฟังไม่ออกหรือว่าภายนอกบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ขอบคุณสวรรค์ก็จริง แต่ความจริงกำลังยั่วยุว่าเคราะห์สวรรค์ยังไม่แกร่งพอไม่ใช่รึ”
“ใช่เลยๆ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สมกับเป็นโอรสสวรรค์อันดับหนึ่งของดินแดนบูรพาเรา ไม่อยากเชื่อว่าจะดวลกับสวรรค์!”
“ใช้กายเนื้อต้านเคราะห์สวรรค์ ทั้งยังเย้ยเยาะสวรรค์ต่อหน้าเคราะห์สวรรค์ บ้าอำนาจ บ้าอำนาจมาก โอ้ ทำข้าหลงเลย”
“ยืนกลางฟ้าอย่างโอหัง วางอำนาจกลางใต้หล้า เคราะห์สวรรค์เจ้าผ่ามาเถอะ หากหลบถือว่าข้าแพ้! นี่สิผู้สูงส่งหนุ่มที่แท้จริง!”
“ใครที่เรียกตัวเองว่าไร้พ่าย มีใครบ้างกล้าบอกว่าจะไม่พ่าย ไม่เห็นใครสักคนใต้เคราะห์สวรรค์ บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงอยู่ที่ใดแล้ว”
…….
โอรสสวรรค์ ผู้อาวุโสจากฝ่ายเซียนใหญ่ๆ ต่างสนทนากัน
เหล่าผู้อาวุโสในกลุ่มสวรรค์พิทักษ์เองก็ไม่ได้ว่าง ตอนนี้กำลังเฝ้ามองเสิ่นเทียน
ซ่งฟู้กุ้ยลูบเคราพลางพูดพึมพำกับตัวเอง “ท่านปรมาจารย์สวรรค์สมกับเป็นท่านปรมาจารย์สวรรค์ ไม่อยากเชื่อว่าจะไม่เห็นเคราะห์สวรรค์อยู่ในสายตาเลย ความบ้าอำนาจเช่นนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งแห่งยุคนับตั้งแต่โบราณจวบจนปัจจุบัน”
“จะให้ลอกแบบท่วงท่าอันยิ่งใหญ่ที่ท่านปรมาจารย์สวรรค์ชำเลืองตามองเคราะห์สวรรค์ตอนนี้ไว้หรือไม่ แบบนี้จะได้ผลิตเป็น ‘ยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยาง’ ฉบับจำกัด เดาว่าคงขายได้ราคาเป็นเท่าตัว”
“อืม จะได้ผลิต ‘ปืนหยินหยางพิฆาตอสูร’ ฉบับจำกัดได้ด้วย ประทับท่วงท่าอันยิ่งใหญ่ของท่านปรมาจารย์สวรรค์ลงไป มอบเป็นรางวัลให้สมาชิกในกลุ่ม”
ซ่งฟู้กุ้ยเหมือนจะคว้าโอกาสทำการค้าใหม่ได้แล้ว
หลิวไท่อี่ถือม้วนหยก เขียนหนังสือด้วยดวงตาเร่าร้อน ‘บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงมาเยือนเทพสวรรค์ หยิ่งยโสโอหังไม่เห็นใครในสายตา กวาดล้างสี่ทิศยากจะพบคู่ต่อกร
ชั่วพริบตานั้นเคราะห์อัสนีมาเยือนจากสวรรค์ บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงตัวสั่นซ่อนอยู่ในไอม่วง ขายผ้าเอาหน้ารอดต่อฟ้าดิน ไม่กล้าโอหังต่อเคราะห์สวรรค์
ท่านปรมาจารย์สวรรค์บุตรศักดิ์สิทธิ์วางอำนาจบาตรใหญ่ ยืนใต้เคราะห์สวรรค์อย่างโอหัง ดาบขวานฟันใส่กายแต่กลับไม่มีสีหน้าเปลี่ยนไป จ้องถมึงทึงชี้นิ้วใส่เมฆเคราะห์ เป็นอิสระไม่ยำเกรงสวรรค์!’
กุ้ยกงกงสวมชุดคลุมแดง เงยหน้ามองเสิ่นเทียนที่ทุกคนจับตามองและมีประกายแสงไม่มีสิ้นสุดปกคลุม แววตาเขาเต็มไปด้วยความปลื้มใจ
เวลาผ่านไปนานมาก พริบตาเดียวก็ผ่านไปสิบหกปี ในที่สุดองค์ชายก็เติบใหญ่แล้ว
วันนั้นที่องค์ชายประสูติ ฟ้าดินเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง พลังประหลาดรุกรานเข้ามา
พระสนมหลานเอาชีวิตเข้าแลกถึงได้ช่วยองค์ชายกลับมาได้ แต่ตัวเองกลับต้องสิ้นชีพลงดั่งดอกไม้โรยรา
ตอนนี้ในที่สุดองค์ชายก็เติบใหญ่ อีกทั้งยังเป็นโอรสสวรรค์ที่โดดเด่นมากที่สุดในดินแดนบูรพา หญิงเซียนมากมายต่างคลุ้มคลั่งเพราะเขา
หากพระสนามหลานมีดวงจิตบนฟ้า เห็นภาพนี้เข้าจะต้องยิ้มร่าไปทั่วแดนปรโลกอย่างแน่นอน
……
เสิ่นเทียนไม่ได้สนใจเสียงพูดคุยของคนอื่น แต่เพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่เคราะห์สวรรค์
ความจริงพิสูจน์แล้ว เขาเดาไว้ไม่ผิด
ขอแค่ไม่รนหาที่ตายโจมตีใส่เคราะห์สวรรค์กับเมฆเคราะห์ก่อน เคราะห์สวรรค์ก็จะไม่เพ่งเล็งเจ้าเป็นพิเศษ
แน่นอน เคราะห์สวรรค์ที่ไม่เพ่งเล็งเป็นพิเศษจะถูกบิดเบือนเป็นแบบใดในสายตาพวกผู้ชมพวกนั้น เสิ่นเทียนก็ไม่รู้แล้ว
เพราะอย่างไรภายในใจเขาก็เคารพเคราะห์สวรรค์มาก เดินหนึ่งก้าวพูด ‘สวรรค์สูงส่งยิ่ง’ ร้อยรอบ
ถึงอย่างไรการประจบที่ดีและเกรงใจต่อเคราะห์สวรรค์จะต้องไม่มีข้อเสียแน่ๆ
ดังนั้น จึงเกิดภาพที่ประหลาดมากขึ้นในสายตาทุกคน
นั่นคือหลังจากเสิ่นเทียน ‘ยั่วยุ’ เคราะห์สวรรค์แล้วก็ยังเดินต่อไปอย่างสบายๆ ใต้เมฆเคราะห์
และที่แปลกกว่านั้นคือเคราะห์สวรรค์พวกนั้นไม่ได้ผ่าใส่เสิ่นเทียนต่อ แต่มองข้ามเขาไปผ่าใส่ไข่มังกร
นี่คืออะไร เคราะห์สวรรค์กลัวหรือ
เสิ่นเทียนถือขวดเล็กสีแดงเดินมาถึงหน้าไข่มังกรจนได้
ตอนนี้เคราะห์นิพพานของเอ๋าปิงผ่านไปมากกว่าครึ่งแล้ว เห็นได้ชัดว่าเสียพลังฤทธิ์ไปไม่น้อย
เคราะห์สายฟ้าจะยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นในช่วงหลังๆ หากไม่มีพลังฤทธิ์เสริม เกรงว่าเอ๋าปิงคงต้องบาดเจ็บจากการฝ่าด่านเคราะห์ครั้งนี้เล็กน้อย
“เร็ว รีบเอาของเหลวศักดิ์สิทธิ์ให้ข้า ข้าอยากได้…ข้าต้องฟื้นพลังปราณ กำเนิดชีวิตที่สองด้วยสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด”
เสียงของเอ๋าปิงดูเหนื่อยนิดๆ เสิ่นเทียนรีบเทของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานในขวดสีแดงลงหลุม
ของเหลวศักดิ์สิทธิ์สีขาวเงินอ่อนๆ แช่ไข่มังกรไว้ตรงกลาง พลังวิญญาณเข้มข้นทำให้พืชวิญญาณในระยะหลายร้อยจั้งเติบโตอย่างรวดเร็ว
ส่วนไข่มังกรดำที่เดิมทีเปล่งแสงหม่นอ่อนๆ เริ่มฟื้นพลังปราณเดิมกลับมาอย่างรวดเร็ว มีชีวิตชีวาขึ้นมาเต็มสิบ
“อืม เหตุใดถึงรู้สึกว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานครั้งอ่อนกว่าครั้งก่อนไม่น้อยเลย แต่ปริมาณตรงนี้ ถือว่าเจ้าใจกว้างกับข้ามาก วางใจเถอะ รอข้าสร้างร่างไร้พ่ายขึ้นมาใหม่ก่อน จะไม่ปฏิบัติกับเจ้าอย่างไม่ยุติธรรมแน่”
เป็นเสียงเด็กน้อยเยาว์วัยแท้ๆ แต่คำพูดกลับวางอำนาจยิ่ง ทำให้เสิ่นเทียนถึงกับยิ้มแห้งๆ
แม้จะรู้ดีว่าคนที่แช่น้ำอยู่ตรงหน้าตนเป็นปีศาจแก่อายุหมื่นปีขึ้นไป แต่เสียงเด็กหญิงนี่ก็ยังให้ความรู้สึกว่าน่าแกล้งมาก
ไม่รู้ว่าเอ๋าปิงที่ฟักออกมาจากไข่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
จะเติบใหญ่เป็นสนมจักรพรรดิ หรือเป็นสาวน้อยชุดคลุมดำชั่วร้ายที่สร้างภาพจำตราตรึงใจ
ว่าแต่จะขี่ได้จริงๆ รึ
…………………………….