บทที่ 2 ตอนที่ 56
「อา ให้ตายสิ… ผมร้องออกมาเยอะจริงๆ มันก็นานแล้วนะที่ไม่ได้ร้องไห้ออกมาแบบนี้」
ขณะที่ผมผ่าน “เขตศักดิ์สิทธิ์ที่ 3” ในที่สุดอารมณ์ของผมก็สงบลงซะที เมื่อผมเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเพื่อเช็ดน้ำตา ผมก็รู้ตัวว่าผมเช็ดน้ำตาของคุณหนูด้วยผ้าผืนนี้… แล้วความรู้สึกก็เริ่มพรั่งพรูกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นผมจึงรีบเก็บมันไปทันที
เมื่อผมเข้าไปยัง “บล็อก 4” โดยใช้ตราสัญลักษณ์ของตระกูลซิวลิซส์
「เซอรี่ซัง อยู่ตรงนั้นใช่ไหมครับ?」
「อุ๊ป รู้ตัวแล้วงั้นหรอ? ไม่ดีเลยนะ หนุ่มน้อย」
คนที่เดินออกมาจากเงามืดของอาคารก็คือเซอรี่ซัง มนุษย์สัตว์เผ่าแมวผู้ชื่นชอบการผนันที่เป็นผู้ร่วมเดินทางกับผม
ดูเหมือนว่าเซอรี่ซังจะยังคอยเฝ้าระวังหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อวานอยู่ ถึงเธอนั้นไม่ใช่คนประเภทที่จะะมาคอยดูแลผมตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็เถอะ ดังนั้นผมคิดว่ามันคงเป็นข้อยกเว้นเฉพาะวันนี้ละนะ
「เซอรี่ซังแย่ยิ่งกว่าผมอีกที่มาแอบดูแบบนี้… ช่างเป็นนิสัยที่แย่จริงๆเลยครับ ยิ่งไปกว่านั้น ผมประหลาดใจมากเลยนะครับที่คุณสามารถลอบเข้าไปในเขตศักดิ์สิทธิ์ที่ 3 ได้แบบนั้น」
「มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเลยละ แต่ก็แน่นอนว่าที่เขตศักดิ์สิทธิ์ที่ 2 นั้นอันตรายกว่ามาก ดังนั้นชั้นจึงไม่ได้เข้าไปที่นั่นหรอกนะ」
「ระบบรักษาความปลอดภัยมันอันตรายอย่างนั้นหรอครับ?」
「ชั้นหมายถึงมันอันตรายถ้าถูกจับได้หน่ะ ลอบเข้าไปหน่ะง่ายมากๆเลย」
「…………」
นี้ระบบรักษาความปลอดภัยของประเทศนี้มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ? หรือว่าเซอรี่ซังสุดยอดมากกันแน่นะ?
「มีอะไรหรือ หนุ่มน้อย?」เซอรี่ซังถามขึ้นพร้อมกับสีหน้าสงสัย
…หืมมม ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นไปได้มากกว่าที่ระบบรักษาความปลอดภัยของประเทศนี้มันห่วยก็ได้
「คิดอะไรที่มันเสียมารยาทกับชั้นอยู่ใช่ไหมหน่ะ?」
「ทุกครั้งที่ผมคิดเกี่ยวกับคุณเซอรี่ซัง แทบทั้งหมดมันก็เสียมารยาทหมดนั่นแหล่ะครับ」
「หว่า!? ชั้นจะไม่เมินเฉยนั่นหรอกนะ! ถึงเธอจะอกหักก็ตามนะ หนุ่มน้อย!」
「หะ-หา!? อกหักอะไรกัน!?」
「ก็นั่นไงหล่ะหนุ่มน้อย! ที่มักจะปรากฏในเรื่องราวความรักดังๆ ที่สองคู่รักจะต้องแยกจากกันด้วยความต่างทางฐานะทางสังคมนั่นหน่ะ!」
「ฮ่าาา… มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ตัวคุณหนูก็เหมือนกับ… ผมแค่อยากจะเธอเติบโตมาด้วยความรัก… เป็นอิสระโดยไม่ถูกขัดขวางจากใคร ผมแค่อยากจะปกป้องเธอ… อย่างเงียบๆ, ภูมิใจ…」
「…………」
ทำไมเซอรี่ซังถึงมองผมเหมือนกับผมพูดอะไรผิดไปกันละ!?
คิดว่าคงเป็นความผิดของผมที่พยายามจะนำ “*อร่อยเดียวดาย” มาใช้ในโลกนี้ละนะ
「อะ-อะแฮ่ม แค่ล้อเล่นหน่ะครับ ยังไงก็เถอะ ระหว่างผมกับคุณหนูไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกครับ และผมมั่นใจว่าพวกเราจะต้องได้พบกันอีกแน่ในสักวันนึง」
「อย่างงั้นหรอ? งั้น หนุ่มน้อย ทำไมเธอถึงทำตัวเองจนมุมอย่างนั้นซะละ?」
「รู้ได้ยังไงกันครับ เซอรี่ซัง?」
「ชั้นมั่นใจเลยว่าเธอหนีออกมาเพราะแค่เรื่องผมสีดำกับตาสีดำของเธอมันแดงแล้วใช่ไหมละ?」
「…………」
ทำไมถึงรู้ละ?! สังหรณ์ของผู้หญิงงั้นหรอ?!
「…สถานการณ์มันเสี่ยงกว่าที่คุณคิดไว้ครับ เซอรี่ซัง ดยุคเอเบนส่งทหารกว่า 100 นายมาจับผมเลยนะครับ」
「หยึย จริงดิ? งั้นที่ชั้นอยู่กับเธอก็อันตรายไม่ใช่หรอเนี้ย!?」
「หืมมม แต่ถ้าคุณไปคนเดียว คุณก็จะได้ติดหนี้ไปตลอดกาลใช่ไหมละครับ?」
「ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกหน่า! ครั้งหน้าชั้นจะต้องชนะแน่ๆ!」
สมกับเป็นความคิดของพวกเสพติด คนๆนี้เกินเยียวยาไปซะแล้ว
ถึงผมจะยังเหนื่อยๆอยู่ แต่ผมก็อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฟังอย่างง่ายๆ
「หืมมม แต่ว่านะ หนุ่มน้อย…」
「ครับ?」
「ชั้นสงสัยจริงๆนะว่า… ถ้าเธอคิดจะส่งคุณหนูกลับตั้งแต่แรกแล้ว แล้วทำไมเธอถึงพาเธอมาตั้งแต่แรกด้วยละ?」
「อา อืม เรื่องนั้นก็…」
「ชั้นหล่ะรู้สึกสงสารเอิร์ลจริงๆหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมดมานี้」
「จริงๆแล้ว ผมคิดแค่ว่าผมจะทำให้เขารู้สึกขมขื่นสักครั้งในชีวิตเพื่อตัวเขาเองหน่ะครับ เพราะงั้น…」
「หยึย หนุ่มน้อย เธอนี้มันปีศาจชัดๆ…」
เซอรี่ซังทำหน้าบูดบึ้งสุดๆ
「ผมเองก็กังวลนะว่าผมอาจจะไปทำให้คุณหนูเจ็บปวดในตอนที่ทำก็ได้…」
「ถ้าเธอสนใจเอิร์ลขนาดละก็ เธอก็ควรจะอยู่กับเขานะ」
「ก็อย่างที่ผมบอกก่อนหน้านี้ครับ เอิร์ลนั้นไม่สามารถเอาชนะดยุคได้หรอกครับ ดูเหมือนตอนนี้ฝ่าบาทราชันศักดิ์สิทธิ์จะหนุนหลังผมอยู่ก็จริง แต่ “ผมสีดำตาสีดำ” ที่ถือว่าเป็นของ “เด็กแห่งหายนะ” เนี้ยดูจะเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างมากสำหรับสังคมชนชั้นสูงยิ่งกว่าที่ผมคิดเอาไว้ซะอีกครับ เอิร์ลนั้นเป็นคนประเภทที่คิดถึงแต่คุณหนู ดังนั้นเขาดูจะไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเก็บผมเอาไว้ครับ ดูจากสิ่งที่ตระกูลเอเบนทำในวันนี้ ผมมั่นใจเลยว่าตระกูลดยุคอื่นๆเองก็จะต้องทำตามแน่ๆครับ」
ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นตัวเซอรี่ซังเองที่พูดว่า — “ใครที่ถือครองอำนาจนั้นน่ากลัวที่สุด”
สิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง 100%
「ถ้าอย่างนั้น〜 ออกไปจากประเทศนี้กันดีกว่า」เซอรี่ซังพูด
「ครับ มาทำแบบนั้นกันดีกว่าครับ」
น้ำเสียงของเซอรี่ซังนั้นมักจะเอื่อยๆ บางทีเธอคงจะตรัสรู้แล้วว่ามันง่ายกว่าที่จะใช้ชีวิตในโลกนี้โดยที่ไม่คิดอะไรให้มากความ
ในตอนที่พวกเรามาถึงบล็อก 6 ท้องฟ้ายามค่ำคืนก็เริ่มจะเรือนรางและรุ่งสางก็ใกล้เข้ามาแล้ว เมื่อผมเข้าไปยังโรงแรมของเซอรี่ซัง มันโคตรจะรกรุงรังสุดๆไปเลย ดังนั้นผมจึงขอให้พนักงานโรงแรมทำความสะอาดมันแล้วมอบเงินจำนวนนึงแทนค่าเสียเวลาของเขา ของส่วนตัวของผมนั้นไม่ได้เก็บเอาไว้ที่คฤหาสน์ของเอิร์ลแต่เป็นที่ห้องนี้ – ทั้งหมดของผมก็มีเพียงแค่กระเป๋าใบเดียวเท่านั้นเอง สัมภาระที่อยู่ที่คฤหาสน์ของเอิร์ลนั้นมีเพียงแค่เงินเดือนของผมที่ไม่ได้แตะต้องใดๆเลย ผมบอกว่าจะ “คืน” มัน ดังนั้นผมก็เลยปล่อยเอาไว้ที่นั่นแบบนั้น
ส่วนเสื้อผ้าที่ผมได้รับมาในฐานะคนคุ้มกันนั้น… ผมควรจะทิ้งไปดีไหมนะ? มันหลุดลุ่ยเล็กน้อยจากการต่อสู้ครั้งที่แล้วด้วย
「แล้ว เธอมีเงินสำหรับการเดินทางของเราใช่ไหม้?」
「…ครับ」
เมื่อผมเปิดถุงหนังที่ได้รับมาจากเบอร์เซิร์กเกอร์ – ผมหมายถึงเอิร์ลชายแดน ผมก็พบกับ 4 เหรียญทองใหญ่ กับ 10 เหรียญทอง พวกขุนนางมักจะพกเงินมากขนาดนี้ไปไหนมาไหนงั้นหรอ? ผมหมายถึง ตัวถุงหนังเองก็เรียบเนียนมาก แถมยังดูหรูหรามากๆเลยด้วย
4 เหรียญทองใหญ่ และ 5 เหรียญทองนั้นมีค่าเท่ากับ 1 เหรียญทองศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นผมจึงได้มามากกว่าที่ตกลงกันไว้
เสื้อผ้าที่ผมสวมในตอนที่ผมมาถึงราชอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เป็นครั้งแรกนั้นค่อนข้างเล็กไปแล้ว แต่ผมก็ยังเปลี่ยนไปใส่มันอยู่ดี คิดว่าผมคงต้องหาซื้อชุดใหม่เร็วๆนี้แล้วสิ
ผมส่วมผ้าคลุมทับแล้วสะพายกระเป๋าของผม มีดสั้นที่ผมได้รับมาจากเอิร์ลชายแดนนั้นฝักมันฉูดฉาด ดังนั้นผมเลยเก็บมันเอาไว้ในกระเป๋า
「รู้สึกเหมือนกับพวกเราได้กลับไปเป็นเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อนเลย」
ผมพูดขณะที่ออกมาจากโรงแรม เซอรี่ซังก็เหล่ตาจากแสงอาทิตย์แล้วหันมายิ้มให้กับผม
「พูดอะไรของเธอกัน? เธอกลายเป็นหนุ่มหล่อแล้วนะตอนนี้ หนุ่มน้อย!」
「…ถ้างั้น ได้โปรดหยุดเรียกผมว่า “หนุ่มน้อย” ซะทีสิครับ?」
「แต่เธอยังเป็นหนุ่มน้อยสำหรับชั้นตลอดไปอยู่ดี~」
เซอรี่ซังเอื้อมมือมาลูบหัวของผม
…คอยก่อนเถอะ ผมจะต้องตัวสูงกว่าคุณให้ได้ในสักวัน
「ถ้างั้น หนุ่มน้อย พวกเราจะออกไปจากเมืองศักดิ์สิทธิ์กันเลยไหม?」
「ไม่ครับ ถ้าพวกเราทำแบบนั้น ผมจะต้องถูกดุแน่นอนเลยครับ」
ผมยิ้มแล้วบอกจุดหมายปลายทางของพวกเรากับเซอรี่ซัง
โรงแรมที่มีชื่อว่า “กระบอกเพชรสีเงิน”
ซิวเวอร์บาลานซ์น่าจะยังนอนหลับกันอยู่ในเวลานี้ แต่ผมรู้สึกว่า ต่อให้จะยังมีควันลอยออกมาจากตรงโน้นตรงนี้ แต่เช้าวันใหม่สำหรับเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์แห่งครูวานยูก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
========================================================
*อร่อยเดียวดาย (Solitary Gourmet หรือ Kodoku no Gourmet) เป็นreference มังงะและซีรีส์ของญี่ปุ่น
TL: อะแถมๆๆ
MANGA DISCUSSION