[นิยายแปล] ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้ - ตอนที่ 33 เพราะไม่ใช่ทุกเหตุการณ์จะมีเหตุผล
- Home
- [นิยายแปล] ฉันได้สกิลใหม่ทุกครั้งหลังจากถูกขับไล่ และหลังจากผ่านมา 100 โลก ก็ไม่มีใครสามารถเทียบฉันได้
- ตอนที่ 33 เพราะไม่ใช่ทุกเหตุการณ์จะมีเหตุผล
“มีคามากุโมะสองตัวข้างหน้า!”
“ให้ข้าจัดการมันเอง!”
ฉันพบลูกบอลสีดำยาวฟุตหนึ่งลูกหนึ่งซุ่มซ่อนอยู่ในเงามืดของป่าทึบ และตามคำพูดของฉัน วาฟเฟอร์ก็วิ่งไปหามัน โดยธรรมชาติแล้วดามากุโมะจะใช้ขาที่ยาวของมันแทงใส่ศัตรู แต่การโจมตีระดับนั้นใช้ไม่ได้กับวาฟเฟอร์ ที่ซึ่งมั่นใจว่าจะกลายเป็นกล้าในที่สุด
“สวย!”
วาฟเฟอร์อ่านการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ หลบแรงผลักแบบสุ่มจากขา เคลื่อนผ่านพวกมันโดยเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าไปที่หน้าอกและฟาดไปที่ร่างเล็กๆ ของดามากุโมะ ด้วยฝ่ามือขวา
“วาฟเฟอร์!”
ทันใดนั้น ดามากุโมะอีกตัวก็โผล่ออกมา แรงกระแทกถูกส่งไปยังร่างกายของมันและถูกระเบิดขึ้นจากภายใน
“แกเป็นตัวต่อไป! วูฟ!”
ต้องใช้สองตัวเพื่อต่อสู้กับเรา แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้และหากหนึ่งในนั้นล้มลงอีกตัวหนึ่งก็ทำอะไรไม่ถูก ร่างของดามากุโมะที่เหลือปลิวออกไป และการต่อสู้ก็…ยังไม่จบ
ฉันรู้สึกเสียวซ่าที่คอ ดามากุโมะตัวที่สามเคลื่อนไหวอย่างเงียบ ๆ ผ่านต้นไม้ด้วยขาที่ยาวและว่องไวของมัน แทงขาของมันจากเหนือหัวมาที่ฉัน ซึ่งเป็นจุดบอด แต่ฉันก็เตรียมพร้อมสำหรับมัน
“ฮึบ!”
เมื่อเปิดใช้งาน [คงกระพัน] ฉันจะไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนไม่ว่าจะโดนอะไร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันอยากโดนเช่นกัน ฉันหันศีรษะเล็กน้อยและขาของดามากุโมะ ก็เลยหน้าฉันไป และฉันก็จับมันด้วยมือทั้งสองข้างแล้วกระแทกมันลงกับพื้น
“ขอโทษทีนะ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ฉันจะทิ้งแกไว้อย่างนั้นก็แล้วกัน”
ผลกระทบของการจับทุ่มทำให้ดามากุโมะชะงักไปชั่วขณะ ฉันใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้กระทืบมันด้วยเท้าซ้ายและแทงดาบเข้าไป ด้วยเหตุนี้ ทั้งสามจึงถูกสังหาร และคราวนี้การต่อสู้ก็จบลงอย่างแท้จริง
“เจ้าน่าทึ่งมาก เอ็ด!”
“ไม่ ไม่ ไม่เท่าวาฟเฟอร์ซัง ท้ายที่สุดคุณก็แข็งแกร่งมาก”
“วาฟุฟุ! ก็ไม่เท่าไหร่หรอก!”
วาฟเฟอร์ยิ้มอย่างเขินอายขณะกระดิกหางเมื่อฉันชมเขา เขาดูภูมิใจกับร่างกายที่โค้งงอเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วเขาเก่งในสิ่งที่เขาทำ เพราะเขาเป็นผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งฮีโร่
“อ๊า น่ารักจัง… ฉันอยากกอดและฟัดเขา…” เทียพูด
“อึก! นั่นไม่ดี ถ้าใครรู้ว่าข้าถูกคนไม่มีขนลูบไล้ พวกเขาได้ดูถูกข้าแน่”
“เทีย อดทนไว้ ให้มันเป็นแค่สัญชาตญาณ โอเคนะ?”
“ฉันรู้น่า! โอ้ แต่ฉันต้องการใช้ “ใบรับรองการล่าสัตว์” นั่น! ฉันขอใช้มันได้ไหม?” เทียถาม
“วูฟ? ได้อยู่แล้ว อะนี่”
วาฟเฟอร์ผงะเล็กน้อยเพราะสายตาที่เหมือนสัตว์กำลังล่าเหยื่อของเทีย แต่ถึงกระนั้นก็ทนเทียที่ร้องขอไม่ได้ เขาถอดใบรับรองการล่าสัตว์ออกจากคอแล้วยื่นให้เธอ เทียรีบเข้าไปหาดามากุโมะที่เธอทำล้ม ซึ่งทำมาจากวัสดุแวววาวแปลกๆ เหมือนเปลือกแมลง และมีขนาดใหญ่พอที่จะใส่ฝ่ามือได้
“เฮ้ เอ็ด ฉันจะทำยังไงกับมันดี? ฉันต้องแปะการ์ดไว้บนตัวมันเหรอ?” เทียถาม
“ไม่ต้องแปะตรงๆ ก็ได้ แค่ขยับเข้ามาใกล้อีกนิดแล้ว… ดูสิ”
“โอ้!”
เทียนำใบรับรองการล่าสัตว์ไปไว้ใกล้กับศพของดามากุโมะ และหลังจากนั้นไม่นาน สารที่มีลักษณะคล้ายหมอกดำก็ถูกดูดเข้าไปในใบรับรองการล่าสัตว์จากร่างของดามากุโมะ หลังจากนั้นประมาณห้าวินาที การดูดซึมก็หยุดลง และร่างของดามากุโมะก็สลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและหายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ
“มันแปลก นี่เป็นสิ่งมีชีวิตจริงๆ เหรอ?”
“เอ่อ ฉันไม่รู้ ในแต่มันดูเหมือนว่าจะถูกกำหนดให้เป็นสิ่งมีชีวิตเพราะมันเคลื่อนไหวได้ใช่ไหม? ถึงเธอจะไม่ใช้ใบล่าสัตว์กับมัน อีกเดี๋ยวมันก็จะหายไปเองหลังจากผ่านไป 10 นาทีนั่นแหละ เพราะข้างในมันดำสนิท และไม่มีอวัยวะภายในหรือกล้ามเนื้อใดๆ”
“คุโรนูริไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เกิดตามธรรมชาติ แต่เป็นการดำรงอยู่ที่จอมมารสร้างขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันไม่ทำอย่างอื่นนอกจากโจมตีผู้คน” วาฟเฟอร์บอกเธอ
“อย่างนั้นเหรอ? แล้วเรื่องกินกับนอนล่ะ”
“อืม? สิ่งเดียวที่คุโรนูริ ทำเมื่อพวกเขาพบเจ้าคือทำให้เจ้าล้มลงหรือวิ่งหนี ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจที่จะตรวจสอบสิ่งเหล่านี้” วาฟเฟอร์กล่าวว่า
“อืมมม… อา ขอบคุณสำหรับสิ่งนี้ด้วย”
เทียผู้อยากรู้อยากเห็น คืนใบรับรองการล่าสัตว์ให้วาฟเฟอร์ พลางส่ายหัวนึกถึงคุโรนูริ หลังจากดูดซับหมอกดำแล้ว เราสามารถนำใบรับรองการล่าสัตว์กลับไปที่กระท่อมล่าสัตว์และรู้ทันทีว่าเราฆ่าสัตว์อะไรและจำนวนเท่าใด มันสะดวกมาก
แต่เราจะไม่ได้รับเนื้อหรือวัสดุใดๆ จาก คุโรนูริ ดังนั้นจึงไม่มีกำไรใดๆ … ถึงกระนั้น มันก็ได้เปรียบอย่างท่วมท้นเนื่องจากไม่จำเป็นต้องรื้อและขนส่ง
นั่นเป็นเพราะฉันเคยไปมาหลายโลกแล้ว ในโลกนี้ นี่คือสามัญสำนึก ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องแปลกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
“เอาล่ะ ไปที่อันต่อไปกันเถอะ! เมื่อเราทำเสร็จ เจ้าจะได้รับรางวัลเป็นเนื้อติดกระดูกแสนอร่อย!” วาฟเฟอร์กล่าว
“เนื้อติดกระดูก! ลุยกันเลย เย้!” ฉันพูด
“เอ่อ … แต่ถ้าเอากระดูกออกจะไม่ง่ายกว่าที่จะกินเหรอ?”
เทียซึ่งไม่เข้าใจที่พวกเราพูด เอียงศีรษะของเธอเบา ๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การล่าก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นหลังจากนั้น หลังจากเสร็จงาน ฉันสวาปามเนื้อ และวันต่อมา เราจัดปาร์ตี้อย่างเป็นทางการกับวาฟเฟอร์…
สามวันหลังจากนั้น
“อืม ถึงเวลาแล้วที่จำนวนของคุโรนุริเริ่มลดน้อยลง …”
ต่างจากรอบแรก ฉันแข็งแกร่งและเทียเข้าร่วมกับฉัน และด้วยการใช้ [สร้างแผนที่อัตโนมัติ] เราสามารถตามล่าคุโรนุริทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในวันที่สาม เราล่าคุโรนุริในพื้นที่ได้เกือบหมด
แน่นอน คุโรนูริไม่เหมือนสัตว์ทั่วไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดพวกมันทั้งหมด และถ้าปล่อยไว้โดยไม่มีการควบคุม พวกมันก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นเองจากที่ไหนสักแห่ง แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้ทวีคูณเป็นร้อยทุกวัน ถ้าพวกมันทำอย่างนั้นจริง โลกคงตกอยู่ในเงื้อมมือของจอมมารไปนานแล้ว
“นี่ไม่ใช่การฝึก เราต้องเร็วกว่านี้ คงได้เวลาที่ต้องหาวิธีไปยังเมืองต่อไปแล้วสิ” วาฟเฟอร์กล่าว
“คุณวาฟเฟอร์ ฉันขอพูดอะไรหน่อยได้ไหม”
ฉันเรียกเวฟเฟอร์ที่กำลังพึมพำกับตัวเอง ตามความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์นี้ถูกสร้างขึ้นโดยฉัน และจุดประสงค์ของมันคือการสร้างข้อเสนอนี้
“ที่จริง ฉันรู้จักสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฝึกฝน … ถ้าคุณต้องการ เราไปที่นั่นได้นะ”
“วูฟ?! มีสถานที่แบบนั้นด้วยเหรอ?”
“ใช่ มันเป็นที่ที่คนมักจะไม่มา ดังนั้นการทำเงิน… เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเหมือนที่เราทำอยู่ตอนนี้ แต่ถ้าคุณใช้ค่าเดินทางที่ได้รับจากที่นี่เพื่อซื้ออาหารและสิ่งของอื่นๆ และฝึกที่นั่น ฉันแน่ใจว่าคุณจะแข็งแกร่งขึ้นมาก”
“วูฟ! เยี่ยมมาก! ข้าอยากจะไป!”
“เข้าใจแล้ว! ให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ออกเดินทางกัน… ”
“พรุ่งนี้! พรุ่งนี้เลยก็ดี! ข้าต้องการฝึกให้เร็วที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด!”
“ฉันเข้าใจแล้วเราจะออกเดินทางพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง”
“ไว้จะรอนะ!”
ตามคำเชิญของฉัน วาฟเฟอร์กระดิกหางและหัวเราะฟุฟุฟุ ไม่เหมือนกับเจ้าชายบางคน วาฟเฟอร์ยังคงเรียบง่าย … ไม่ ไม่ เขาเป็นผู้กล้าที่ตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ ตอนนี้ขั้นตอนที่สองสำเร็จแล้ว ตอนนี้ หากเราสามารถปรับปรุงความสามารถของเราได้ เราก็จะสามารถไปถึงเป้าหมายสุดท้ายได้เช่นกัน …
“…… ฉันรู้สึกว่าเอ็ดกำลังจะทำอะไรชั่วร้าย”
“อะไร? อย่ามาพูดกับฉันแบบนั้นนะ เทีย! ฉันแค่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือคุณวาฟเฟอร์!”
“หืม? แน่นอนว่าฉันไม่คิดว่าเอ็ด จะทำอะไรเพื่อหลอกลวงและวางกับดักผู้คน แต่นายควรทำอะไรสักอย่างกับรอยยิ้มนั้นของนายนะ ว่าไหม”
“หะ!?”
ปลายนิ้วเรียวขาวของเทีย สะกิดปลายจมูกของฉัน และฉันก็เอามือไปตบแก้มโดยไม่ได้ตั้งใจ ดูเหมือนว่ามุมปากของฉันจะยกขึ้นโดยที่ฉันไม่รู้ตัว แต่――
“ฉันทำอะไรกับมันไม่ได้หรอกนะ? ถ้าการทำงานหนักของฉันนำไปสู่จุดจบที่มีความสุข แน่นอนว่ามันก็ทำให้ฉันยิ้มได้”
“ฟุฟุฟุ~ ตามที่คาดไว้ เอ็ดก็ยังคงเป็นเอ็ด”
“เฮ้ พวกเจ้าสองคนทำอะไรกันอยู่! วันนี้รีบออกไปจากที่นี่เร็วและเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ได้แล้ว!” วาฟเฟอร์เรียกหาเรา
นอกเหนือจากรอยยิ้มอันอ่อนโยนของเทีย แล้ววาฟเฟอร์ซึ่งเริ่มมุ่งหน้ากลับเมืองโดยที่ฉันไม่ทันรู้ตัว โบกมือเรียกเราทั้งคู่
“ค่า พวกเรากำลังไป! ไปกันเถอะ เอ็ด!” เทีย กล่าว
“ครับๆ ไปกันเถอะ” ฉันพูด
ฉันจับมือของเทียที่ยื่นออกมาแล้วเราก็เริ่มเดินกันอีกครั้ง เป้าหมายครั้งนี้คือ…เพื่อเริ่มต้นอีกครั้งใช่ไหม?
(T/N: ขอโทษที่หายไปนานนะครับ พอดีติดCOVID-19ต้องพักยาว ตอนนี้ก็เป็นLong COVIDจนไม่มีเวลาแปลเลย หลังจากนี้อาจจะลงได้แค่วันตอนนะครับ)