[นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ - ตอนที่ 8 เราเเลกเปลียนข้อมูลติดต่อกันเเล้วนะ
- Home
- [นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ
- ตอนที่ 8 เราเเลกเปลียนข้อมูลติดต่อกันเเล้วนะ
“…อืมม”
ขณะอยู่บ้านหลังเลิกเรียนนั้น
ริวอิจิได้มองไปที่หน้าจอสมาร์ทโฟนของเขา มันก็ได้มีชื่อของชิซึนะเพิ่มขึ้นมาในรายชื่อติดต่อ
ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ล่ะ
“ข้อมูลติดต่อหรอ? “
“ฉันอยากจะแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกับชิชิโดะคุงนี่นา…จะได้รึเปล่า? “
มันไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เลยสักทีเดียว แต่เขาไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าจะถูกขอแบบนี้
ก็จริงอยู่ที่เธอเคยมาบ้านของริวอิจิแล้วครั้งหนึ่ง เเต่ริวอิจิก็ยังคิดอยู่ว่าแบบนี้มันจะสนิทกันเกินไปหรือเปล่า
“…ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปละก็-“
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของริวอิจิก็ดังขึ้นและชื่อของคนที่โทรมาก็คือ “รินโด ชิซึนะ”
“…”
แค่คิดถึงก็โทรมาเลย เขากังวลอยู่พักนึงว่าควรจะรับหรือไม่แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจจะรับสาย เพราะถ้าไม่เดี๋ยวที่โรงเรียนคงจะได้มีข่าวลือเเปลกๆ เพิ่มขึ้นมาอีกเเน่
“ฮัลโหล? “
“อะ ฮัลโหลชิชิโดะคุง? ไม่นึกเลยว่าเธอจะรับสายน่ะ”
“ทำไมละ”
“…ฉันก็แค่รู้สึกแบบนั้น”
ถึงแม้ว่าเธอจะตอบกลับมาแบบลังเล ริวอิจิถึงกับยิ้มเจื่อนถึงการคาดเดาอันเฉียบคมของเธอ ถึงแม้จะรับสายจริงๆ ก็เถอะแต่เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดเป็นพิเศษ ชิซึนะที่เหมือนจะคาดเดาได้แบบนั้นก็เลยหยิบหัวข้อพูดคุยนี้ขึ้นมา
“ชิชิโดะคุงกินข้าวเย็นแล้วหรือยัง? “
“เอิ่ม…”
“เธอกินอะไรแล้วหรือยัง? “
“………………..”
จริงๆ แล้วในวันที่ชิซึนะมาทำอาหารที่บ้านของเขา เธอบอกให้เขาลองฝึกทำอาหารสักหน่อยเพื่อสุขภาพ ถึงแม้สุดท้ายจะลงเอยด้วยการต้มมาม่าเป็นมื้อเย็นก็ตาม ชิซึนะที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสายดูเหมือนจะคาดเดาได้และได้ถอนหายใจออกมา
“…ชิชิโดะคุง”
“ยังเลย พอดีฉันไม่มีเวลาทำน่ะ”
“………….”
เรื่องที่ไม่มีเวลาแน่นอนนั่นคือเรื่องโกหก เขาก็แค่ไม่อยากจะบอกว่าขี้เกียจ และเช่นเคยชิซึนะนั้นรู้ทันเเต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก บางทีเธออาจจะคิดว่ามันคงจะสร้างความน่ารำคาญให้กับคนอื่นถ้าบังคับเขาทำอาหารแบบนี้
“…อย่าลืมกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วยล่ะ โอเคนะ? “
“รู้แล้ว ให้ตายสินี่เธอเป็นแม่ฉันหรือไง”
“โอ๊ะ หรือว่าแบบนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเเม่ของชิชิโดะคุงงั้นหรอ? “
“ไม่หรอก มันก็แค่คำพูดพล่อยๆนั่นแหละก็แม่ของฉันน่ะ…ช่างมันเถอะลืมๆ ที่ฉันพูดไปซะ”
เมื่อถึงจุดนี้เขาก็บังคับจบบทสนทนา
ชิซึนะเองก็เหมือนจะรู้สึกถึงอะไรได้เช่นกัน เเต่ริวอิจิก็ขอบคุณที่เธอไม่ถามอะไปมากกว่านี้อีก ทุกวันนี้ริวอิจินั้นใช้ชีวิตอยู่ลำพัง หลังจากที่ได้ความทรงจำคืนมาเขาก็เลิกนิสัยชอบเดินเตร่ๆ ไปตามถนนในตอนกลางคืน
นั่นคือเหตุผลที่มีความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจ
เขารู้สึกอบอุ่นเสมอเวลามีจิสะเเละชิซึนะอยู่กับเขา
“รู้อะไรไหม…”
“หืม? “
“…มาม่ามันรสชาติดีน้อยกว่านิคุจากะที่เธอทำให้ฉันกินวันนั้นนะ”
“………”
ริวอิจิไม่รู้ว่าชิซึนะจะตอบสนองนี้ยังไง ดูทรงแล้วคงจะมีความสุขแน่ๆ เพราะได้ยินเสียงดีใจมาจากปลายสาย
“งั้นเดี๋ยวฉันจะทำให้เธอกินอีกนะ จริงๆ แล้วสิ่งที่ฉันทำได้เก่งน่ะไม่ได้มีแค่นิคุจากะหรอกนะ แต่ฉันยังทำแฮมเบิร์กเก่งด้วยรู้หรือเปล่า”
“สเต็กแฮมเบิร์กหรอ? นอกจากที่ร้านอาหารเเล้วก็ไม่ได้กินจากที่อื่นอีกเลยนี่นา”
“ถ้าอย่างนั้น ก็ตั้งตารอได้เลย…โอเคไหม? “
ริวอิจิได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวังมาจากชิซึนะ เขาก็เลยตอบรับความคาดหวังนั้น
นํ้าเสียงของเธอดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยความสุข
“ได้สิ โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ใช่ว่าจะมีบ๊อยบ่อยนี่นา? “
“เข้าใจแล้วล่ะ♪”
ริวอิจิถอนหายใจออกมา อย่างไรก็ตามเขาก็หวังว่าจะได้กินอาหารแสนอร่อยแบบนั้นอีกครั้ง เเค่นิคุจากะมันก็ทำให้เขาน้ำลายไหลแล้ว
“…งั้นฉันจะตั้งตารอนะ”
“อืม♪”
นี่คือสิ่งเดียวที่เขาจะพูดได้
หลังจากที่คุยกันไปได้สักพัก เพียงไม่กี่วิก่อนที่เขากำลังจะวางสายนั้นเอง
“ริวอิจิ? จะเข้าไปละน้า~!”
“…จิสะ!? อะ โทษนะรินโดไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ”
“ดะ เดี๋ยวก่อน-“
เขารีบวางสาย
“อาเระๆ นี่เธอกำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่หรือเปล่า”
“ใช่น่ะสิ อย่าเข้ามาบ้านคนอื่นตามใจชอบอีกนะ”
เขาโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอน จิสะล้มตัวลงกอดเขา กลิ่นเหล้าฟุ้งกระจายไปทั่ว
“นี่ต้องดื่มหนักขนาดไหนเนี่ย? “
“หืม? ก็หนักอยู่นะ ตอนที่กำลังจะกลับก็มีแต่พวกผู้ชายอาสาจะมาส่งกันใหญ่เลยน่ามคานซะจริง!”
“แล้วทำไมไม่ไปกับพวกนั้นล่ะ? “
“ก็เค้าไม่ชอบนี่นา ทามไมต้องลดตัวไปอยู่กับพวกนั้นด้วย”
“…ก็จริงแฮะ”
สีหน้าของจิสะดูบูดบึ้ง สงสัยว่าเธอคงจะได้ยินการคุยโทรศัพท์เมื่อกี้เธอเลยทำน้ำเสียงน่ารำคาญเเถมพันแข้งพันขาไม่หยุด ยังดีที่ริวอิจิตัดสายชิซึนะไปก่อน
“จะว่าไปแล้ว ที่นี่สะอาดขึ้นเยอะเลยนี่เนอะ? เธอคงไม่ได้ทำคนเดียวใช่ไหม? “
“ก็อย่างที่คิดนั่นแหละ”
“ใครล่ะ ผู้หญิง…ใช่ไหม?
“ก็ใช่อีกนั่นแหละ”
ไม่มีอะไรต้องปิดบังเขาก็เลยพูดตรงๆ ออกไป
จิสะไม่ได้ตอบสนองอะไรเป็นพิเศษ แค่สีหน้าของเธอดูเหมือนว่าจะประหลาดใจ
“ครั้งนี้ไปหม้อใครมาล่ะเนี้ย~? “
“นี่เธอต้องมองฉันเป็นคนยังไงเนี่ย เธอเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นเองนะ!”
“ไปพรากความบริสุทธิ์จากเพื่อนร่วมชั้นแบบนี้ เเย่ที่ซู๊ด!”
“…จิสะ!”
“ฮึๆๆ ฮ่าๆๆ โทษทีๆ ♪”
ถึงแม้ว่าจิสะจะเป็นผู้หญิงแต่ดูเหมือนว่าสามัญสำนึกเรื่องเพศของเธอจะขาดไปแล้ว มันคงสายไปแล้วเพราะคนส่วนใหญ่ที่ริวอิจิคุยด้วยก็มักจะเป็นคนประมาณนี้
“เน่ ริวอิจิ คืนนี้ขอค้างได้ไหม”
“อยากทำอะไรก็ทำ”
“อืม เค้าน่ะชอบเธอในส่วนที่เธอไม่เคยปฏิเสธนี่แหละ”
“เออๆๆ “
“…แต่เธอก็มีส่วนที่ไม่ค่อยน่ารักอยู่นะ”
ผู้ชายมักจะอายเวลาถูกบอกว่าน่ารักนะ
หลังจากที่ได้รับอนุญาตที่ค้างได้แล้ว จิสะก็นอนลงเล่นโทรศัพท์ของเธอ บางทีอาจจะแชทคุยกับเพื่อนอยู่ก็ได้
“…กางเกงในโผล่แล้วนั่นน่ะ”
จิสะยังคงเล่นโทรศัพท์มือถือต่อไปโดยไม่สนใจกระโปรงที่พับขึ้นมา เเม้ว่าริวอิจิจะบอกไปเเล้ว เธอเพียงเหลือบสายตามาที่เขา ในฐานะผู้หญิงมันค่อนข้างอันตรายแต่บางทีอาจจะเป็นวิธีที่จิสะตกผู้ชายในมหาลัยก็ได้
“สงสัยจังเลยว่าติ่งของเธอจะพูดอะไรถ้ามาเห็นเธอในสภาพนี้”
“เค้าไม่ได้โชว์แบบนี้ให้พวกนั้นเห็นสักหน่อย ก็จริงอยู่ที่เขาอ่อยผู้บ่อยๆ แต่เวลาจะมอบร่างกายให้ใครเค้าก็เลือกเหมือนกันนะ”
“หืม? เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย”
“ก็เค้าแค่ไม่เคยบอกเธอนี่นา แค่อยากจะบอกให้รู้ไว้ว่าเธอเป็นแค่คนเดียวที่เค้าจะทำด้วยก็เเค่นั้น”
การที่ได้ยินแบบนั้นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจเป็นพิเศษ เขาไม่ได้สนใจว่าจิสะจะเคยมีความสัมพันธ์แบบไหนกับคนอื่นมาก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะฟื้นความทรงจำมาแล้วก็ตาม เเต่ความสัมพันธ์ของเธอและเขาก็คงจะไม่เปลี่ยนแปลง
“เมื่อไหร่เธอจะไปอาบน้ำละ? “
“อืม เดี๋ยวไป”
“ก่อนจะนอนก็อาบน้ำด้วยละ”
“ค่า~”
จิสะลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า เดินเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบชุดสำหรับเปลี่ยน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปห้องน้ำ
ผ่านไปสักพักจิสะก็ออกมา ดูเหมือนว่าจะอาบน้ำฝักบัวเฉยๆ โดยไม่ได้แช่อ่าง หลังจากอาบน้ำดูเหมือนสติจะเริ่มกลับมาแล้วแต่เปลือกตายังดูหนักๆ คงเพราะดื่มมาเยอะ
“เอาล่ะนี่ก็ดึกแล้วนะ นอนกันเถอะ”
“จะไม่ตั้มกันหน่อยเหรอ? “
“คืนนี้งดไปก่อนเถอะ”
“นั่นสินะ ดูเหมือนว่าร่างกายของเค้าเองก็มาถึงขีดจำกัดแล้วเหมือนกัน”
เนื่องจากริวอิจินั้นอาศัยอยู่คนเดียว เขาก็เลยมีที่นอนสำหรับแค่ 1 คน ดังนั้นทั้งสองก็เลยมานอนอยู่บนฟูกเดียวกัน
“บางทีได้มานอนบนฟูกมันก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ รู้สึกได้ถึงความเป็นญี่ปุ่นเลย
“นอนเตียงน่าจะดีกว่านะ”
“ก็นะ♪”
ถึงจะเป็นแบบนั้นก็สามารถหลับได้อย่างสบายเพราะฟูกที่กำลังนอนอยู่นั้นช่างอ่อนนุ่ม
จิสะได้ใช้แขนของริวอิจิเป็นหมอน ท่าทางของเธอดูเป็นผู้ใหญ่ เเต่การที่เธอขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ เพื่อต้องการความอบอุ่นนั้นบางทีมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในวัยที่รุ่นราวคราวเดียวกัน
“นี่ริวอิจิ…ช่วงนี้เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า? “
“ก็ไม่นิ? “
“…ไม่เลยหรอ? “
“นี่ช่วงนี้ฉันดูเครียดๆ งั้นหรอ? “
“เปล่าหรอก…แค่เป็นห่วงนะเพราะว่าเธออายุน้อยกว่าเค้านี่นา”
“เป็นงั้นหรอกหรอ? พรุ่งนี้เธอมีเรียนมหาลัยนิ รีบนอนเถอะ”
“อืม ฝันดีนะริวอิจิ”
หลังจากที่พูดแบบนั้นจิสะหลับไป
ริวอิจิยิ้มอย่างขมขื่นและพึมพำกับตัวเอง
“ขนาดปู่กับย่ายังไม่สนใจว่าฉันจะไปตายที่ไหนเลย”
หลังจากที่พึมพัมออกมาริวอิจิก็ได้หลับตาลง
“เมื่อกี้…เสียงที่พึ่งได้ยินนั้น…เสียงของผู้หญิงงั้นหรอ? “
และที่ไหนสักแห่งก็ไม่รู้ มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังคิดถึงริวอิจิด้วยความรู้สึกที่เศร้าหมอง