ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 12 บทที่ 347 พวกเขากลับมาแล้ว เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้หนีไป
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 12 บทที่ 347 พวกเขากลับมาแล้ว เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้หนีไป
เวลาผ่านไปเกินกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว เซียวหมิงจูยังคงอยู่ในบ้านเซียวยวี่ไม่ยอมไป
บางคนมาแล้วกลับไป กลับไปแล้วก็มาอีก
ท่านป้าสี่ที่รีบมา เห็นบุตรสาวตัวเองนั่งอยู่ในบ้านคนอื่น ท่าทางราวกับเป็นนายหญิงของบ้านนั้น ก็รู้สึกโมโหอย่างไม่มีที่มาที่ไป “กลับบ้านกับข้า! ”
เซียวหมิงจูถอยหลังสองก้าว “สายหน่อยข้าค่อยกลับ! ” นางยังไม่ได้เห็นเรื่องสนุกเลย ยังไม่ได้เห็นท่าทางของเซียวยวี่ที่กลับมามือเปล่าด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก
รอให้ถึงเวลานั้น นางจะไปปลอบใจเขา ให้กำลังใจเขา นางไม่เชื่อว่า เซียวยวี่ที่ยามนี้เผชิญกับเรื่องสะเทือนใจถึงสองเรื่องจะไม่เห็นความจริงใจของนาง
ท่านป้าสี่ด่าเสียงเบา “เจ้าเป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือน จะอยู่ที่นี่ไปทำไม? กลับบ้านกับข้า! ”
เซียวหมิงจูเบี่ยงหลบการดึงของท่านป้าสี่ “ตอนนี้ข้ายังไม่กลับ! ”
ท่านป้าสี่ “เจ้า… เจ้าจะอยู่ที่นี่ไปทำไม? เจ้าไปกับข้า”
นางเดินขึ้นหน้าไปจับเซียวหมิงจูไว้ กำลังจะลากตัวนางไป “มีคนอยู่ที่นี่มากขนาดนี้ เจ้าไม่ขายหน้า ข้ายังรู้สึกขายหน้าแทน! ”
ท่านป้าสี่เห็นว่าคนสิบกว่าคนกำลังมองพวกนาง ก็รู้สึกไม่รู้จะเอาหน้าแก่ๆ ของตัวเองไปไว้ที่ไหน
บุตรสาวของตัวเองมีใจให้บุรุษที่แต่งงานแล้ว นางเองยังพยายามสุดความสามารถที่จะจับคู่ให้บุตรสาวกับเซียวหยวน ไม่รู้ว่าหากเซียวหยวนรู้ความในใจของบุตรสาวตนเอง จะคิดเช่นไร
งานมงคลที่ดีถึงเพียงนี้ ไม่แน่ว่าอาจต้องพังพินาศด้วยน้ำมือนางเด็กบ้าคนนี้ก็เป็นได้
เซียวหมิงจูดิ้นรน “ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป! ข้าจะรอพี่อายวี่กลับมา”
นางเอ่ยเรียกอายวี่ครั้งแล้วครั้งเล่า จนท่านป้าสี่เกิดเพลิงโทสะลุกโชน “เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่ เป็นสาวเป็นแส้ อยู่ในบ้านคนอื่น เจ้ายังอยากออกเรือนอยู่หรือไม่? ”
เซียวหมิงจูหัวเราะร่า นางมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าเซี่ยยวี่หลัวต้องหนีไปแล้วแน่ เซียวยวี่ต้องกลับมามือเปล่า นางเชื่อว่า เซียวยวี่ต้องเป็นของนางแน่นอน
“ข้าต้องออกเรือนแน่ แต่หากข้าจะออกเรือน ก็จะแต่งกับพี่อายวี่เท่านั้น! ”
อยู่ต่อหน้าชาวบ้านสิบกว่ายี่สิบคน เซียวหมิงจูกล่าวด้วยความแน่วแน่ นางแทบจะคลุ้มคลั่ง
“สวรรค์ทรงโปรด ไม่ใช่กระมัง นางกับเซียวยวี่…”
“เจ้าเพิ่งรู้หรือ? ข้าดูออกนานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ก็แค่รู้สึกว่าใช่ ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน! ”
ท่าทางของเซียวหมิงจูช่างดูน่าตกใจนัก เหมือนรู้ว่าผิดแต่กลับยังถลำลึกมากยิ่งขึ้น
เด็กสองคนมองเซียวหมิงจูอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
ท่านป้าสี่โมโหจนแทบกระอักเลือด “เจ้าว่าอะไรนะ? ”
เซียวหมิงจูยืดอก กล่าวเสียงดังอีกครั้ง “ข้าบอกว่า ข้าจะแต่ง ก็จะแต่งกับเซียวยวี่เท่านั้น! ”
ท่านป้าสี่มองเซียวหยวนแวบหนึ่งผ่านกลุ่มคน เซียวหยวนแสดงสีหน้าเจ็บปวดใจ
เซียวจื่อเซวียนเพิ่งตอบสนอง “ข้ามีพี่สะใภ้ใหญ่แล้ว พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าคือเซี่ยยวี่หลัว! ”
“นางไปแล้ว นางจะไม่กลับมาอีกแล้ว อาเซวียน ข้าดีกับเจ้าถึงเพียงนั้น ข้าเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าแล้วย่อมดีกับเจ้ามากยิ่งขึ้น! ”
“ไม่เอาไม่เอา! ” เด็กสองคนร้องไห้โวยวาย “ข้ามีพี่สะใภ้ใหญ่แล้ว”
ท่านป้าสี่โมโหจนหน้าแดงถึงใบหู
ด้านหนึ่งเป็นบุตรสาวของตัวเองที่ไร้ยางอาย อีกด้านหนึ่งก็เป็นห่วงว่าเซียวหยวนจะผิดหวังและเศร้าเสียใจ ที่สำคัญคือเซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งที่ขัดขวางเต็มกำลัง
ตัวเองไม่อยากแต่ง กับคนอื่นไม่ต้องการ เป็นคนละเรื่องกัน
ในใจท่านป้าสี่ บุตรสาวของตัวเองสามารถเป็นสนมนางในได้ด้วยซ้ำ แค่เซียวยวี่ มีสิทธิ์อะไรมารังเกียจบุตรสาวของนาง!
คนอย่างเซียวยวี่ มีคุณสมบัติอะไร!
นางยิ่งคิดยิ่งโมโห จึงก่นด่าเด็กสองคน “พี่ใหญ่ของพวกเจ้าก็ไม่รู้จักปัสสาวะส่องดูเงาตัวเองเสียบ้าง เขาคิดจะแต่งกับหมิงจูของข้า ไม่ดูเสียบ้างว่าเขาเองมีคุณสมบัติพอหรือไม่? แบกไม่ได้หามไม่ไหว จนถึงตอนนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง เขาเป็นแค่คนไม่เอาไหนไม่ได้ความ”
“คนจากบ้านเซียวซื่อ เจ้ากำลังทำอะไร? ” เซียวจิ้งยี่ตะคอกเสียงดัง
ท่านป้าสี่ไม่รู้สึกว่าตัวเองผิด จับมือเซียวหมิงจูกำลังจะไป “กลับบ้าน กลับบ้าน! ” เซียวหมิงจูคว้าจับวงกบประตูไว้แน่น ไม่ยอมไป “ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป ข้าจะรอพี่อายวี่กลับมา…”
คนที่อยู่ด้านนอกต่างก็พูดคุยกัน ชี้เซียวหมิงจูพลางกระซิบกระซาบ
ท่านป้าสี่แทบจะสามารถอ่านจากรูปปากของคนเหล่านั้นจนได้ยินคำว่า หน้าไม่อาย ไม่มีศีลธรรมจรรยา
การกระทำของเซียวหมิงจู หน้าไม่อายจริงๆ ไม่ใช่หรือ!
ท่านป้าสี่โมโหแทบตาย “เจ้าจะไปหรือไม่? หากเจ้าไม่ไป ข้าจะถือเสียว่าไม่มีบุตรสาวไร้ยางอายอย่างเจ้าอีก! ”
ที่ไหนได้ เวลานี้เซียวหมิงจูคุมสติไม่อยู่แล้ว นางเกาะติดวงกบประตูไม่ขยับเขยื้อน แทบจะกล่าวอย่างเลือดเย็น “ได้! ”
ท่านป้าสี่โมโหจนแทบหมดสติ “เจ้า…”
เซียวจิ้งยี่เห็นท่าทางคลุ้มคลั่งของเซียวหมิงจู ก็ขมวดคิ้วมุ่น
ไม่ว่าอย่างไร ที่นี่ก็เป็นบ้านเซียวยวี่ เซียวหมิงจูทำเช่นนี้ เท่ากับให้คนอื่นติฉินนินทาเซียวยวี่ลับหลังไม่ใช่หรือ?
เซียวจิ้งยี่กำลังจะปริปากพูด ก็ได้ยินคนตะโกนจากด้านนอก “กลับมาแล้ว กลับมาแล้ว…”
เซียวหมิงจูเบิกตากว้าง ยินดีจนออกนอกหน้า “พี่อายวี่ พี่อายวี่…”
นางพุ่งพรวดออกไปราวคนเสียสติก็มิปาน หันมองไปทางภูเขาผ่านกลุ่มคน
ความรู้สึกยินดีแต่เดิม เมื่อเห็นคนที่มา ดวงตาคู่โตพลันแปรเปลี่ยนเป็นคลุ้มคลั่งดุร้าย
เซียวยวี่เดินมาช้าๆ
แบกคนผู้หนึ่งไว้บนหลัง ถึงแม้ผมเผ้าจะยุ่งเหยิงจนบดบังใบหน้า บนกายก็เต็มไปด้วยคราบดินโคลน แต่ทุกคนก็ยังมีสายตาดีพอจะดูออก ว่าคนที่เซียวยวี่แบกอยู่บนหลังก็คือเซี่ยยวี่หลัว
เซียวยวี่ก็ไม่ได้ดีนัก
บนกายเลอะเปรอะเปื้อน อาจเพราะล้มกลิ้งอยู่หลายครา บนกายเต็มไปด้วยคราบดินโคลน แม้แต่เส้นผมก็ดูรุงรัง
หากไม่ใช่เพราะทุกคนดูออกว่าเป็นพวกเขา คงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขอทานจากที่ไหนเป็นแน่!
ไม่รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวกล่าวอะไร หยอกเย้าจนเซียวยวี่ที่กำลังแบกนางอยู่แย้มรอยยิ้มกว้าง ดวงหน้าเต็มไปด้วยประกายเบิกบานใจและมีความสุข
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งก็พุ่งพรวดออกมา เห็นพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่กลับมาแล้ว รู้สึกตื่นเต้นจนเสียงเปลี่ยน “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่…”
เซี่ยยวี่หลัวก็เห็นเด็กสองคนแล้วเช่นกัน ชูมือขึ้นโบกมือให้เด็กสองคนด้วยความดีใจ จากนั้นจึงเร่งเร้าเซียวยวี่ที่กำลังแบกนางอยู่ “เร็ว รีบเดินหน่อย”
ใบหน้าของเซียวยวี่เต็มไปด้วยประกายรักใคร่เอ็นดู “ได้”
เมื่อเซียวจิ้งยี่เห็นว่าเซี่ยยวี่หลัวกลับมาแล้ว ก็ผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอกเช่นกัน
เขาว่าแล้วอย่างไร ว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่คนเช่นนั้น!
เซี่ยยวี่หลัวลงจากหลังของเซียวยวี่ ย่อตัวลง เซียวจื่อเมิ่งกอดเซี่ยยวี่หลัวพลางร้องไห้โฮ “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านหายไปไหนมาเจ้าคะ? ”
เซียวจื่อเซวียนเห็นว่าบนกายพี่สะใภ้ใหญ่เต็มไปด้วยคราบสกปรก เสื้อผ้าเปียกชุ่มทั้งหมด ไม่มีส่วนใดที่แห้งเลย
ต้องลำบากมามากแน่นอน ถึงแม้เซียวจื่อเซวียนจะไม่ได้ร้องไห้ทันทีเหมือนเซียวจื่อเมิ่ง แต่เซี่ยยวี่หลัวเห็นดวงตาที่บวมแดงนั่นแล้วก็รู้สึกปวดใจยิ่งนัก
“เด็กดี ไม่ต้องร้องแล้ว พี่สะใภ้ใหญ่อยู่นี่แล้วไม่ใช่หรือ? ไม่ร้องแล้ว! ” เซี่ยยวี่หลัวย่อตัวลง โอบกอดเด็กสองคน ปลอบโยนไม่หยุด “พี่สะใภ้ใหญ่ไปจับกระต่าย คิดไม่ถึงว่าจับไม่ได้ ทั้งยังมีฝนตกหนัก พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ทันระวัง จึงหกล้ม”
“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่! ” เด็กสองคนวิตกเสียยิ่งกว่าอะไร กำลังจะดูบาดแผลของเซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้ม “ข้าไม่เป็นอะไร สบายมาก! ”
เซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ มองดูเซี่ยยวี่หลัวกอดเด็กสองคนด้วยความอิจฉาตาร้อน ตอนเขาหานางพบ เหตุใดนางถึงไม่เข้ามาโอบกอดเขาบ้างเล่า?
ถึงแม้จะอิจฉาตาร้อน แต่เซียวยวี่ก็ถือโอกาสโอบกอดเซี่ยยวี่หลัวและเด็กสองคนไว้ในอ้อมอก
เซี่ยยวี่หลัวแหงนหน้ามองเขา คิ้วงามโก่งโค้งประหนึ่งจันทร์เสี้ยว
เซียวยวี่ก้มหน้าลง ในดวงตาบริสุทธิ์ดุจน้ำใสสะอาดนั่น เขาเห็นภาพสะท้อนของตัวเอง
ภาพสะท้อนกำลังยิ้มด้วยความยินดีถึงขีดสุด