ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 12 บทที่ 338 พวกเรามาเล่นการละเล่นหนึ่งกันเถอะ
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 12 บทที่ 338 พวกเรามาเล่นการละเล่นหนึ่งกันเถอะ
หลัวไห่ฮวาเห็นเขาไม่กล่าวอะไร จึงกล่าวช้าๆ “ความรู้สึกที่เซียวหมิงจูมีต่อเซียวยวี่ เกรงว่าตอนนี้คนทั้งหมู่บ้านไม่มีผู้ใดไม่รู้ สิ่งที่เจ้าทำในวันนี้ คงคิดอยากให้เซี่ยยวี่หลัวกลายเป็นปีศาจ จากนั้นให้เซียวยวี่หย่ากับนางกระมัง?”
เซียวหยวนไม่กล่าวอะไร หลัวไห่ฮวารู้ว่าตัวเองพูดถูก จึงกล่าวต่อด้วยท่าทางได้ใจ “เซียวหมิงจูเด็กคนนั้นมีตาหามีแววไม่ เจ้าเป็นบุรุษที่ดีถึงเพียงนี้ยังไม่ชายตามอง กลับชอบเซียวยวี่ เซียวยวี่นอกจากจะหน้าตาดี ข้าคิดว่าไม่มีอะไรดีเลย เล่าเรียนก็ไม่ไหว จะทำไร่ไถนาก็ไม่ไหว ข้าคิดว่าเจ้าใช้ชีวิตได้ดีกว่าเซียวยวี่มากนัก”
สามารถนำเงินออกมาถึงห้าสิบตำลึงในคราเดียว เกรงว่าเซียวยวี่เอาตัวเองไปขายยังไม่ได้ราคานี้เลย
เซียวหยวนไหวคิ้ว
“เจ้าชอบเซียวหมิงจูก็บอกกับนาง ไม่เห็นต้องลำบากช่วยนางตามจีบชายอื่น หากเซี่ยยวี่หลัวถูกไล่ไปจริง เห็นเซียวหมิงจูครองคู่กับเซียวยวี่ เจ้าจะไม่ปวดใจหรือ?” หลัวไห่ฮวาพูดแทงใจดำ เซียวหยวนเงยหน้าขึ้นมองหลัวไห่ฮวา
ภายในศาลบรรพชนค่อนข้างเย็น ในนั้นจุดไฟตะเกียงน้ำมันไว้เพียงดวงเดียว แสงไฟพร่ามัว มองใบหน้าของหลัวไห่ฮวาไม่ค่อยชัดนัก
ถึงแม้หลัวไห่ฮวาจะอ้วนเล็กน้อย แต่หน้าตาถือว่าไม่เลว
อย่างไรเสียก็เพิ่งอายุยี่สิบกว่าปียังไม่ถึงสามสิบ อายุน้อย ทั้งยังมีหน้าตาดี ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงนี้เพราะขาบาดเจ็บ อยู่บ้านทุกวัน ผิวจึงขาวเนียนขึ้นไม่น้อย
ความขาวบดบังจุดด่างพร้อย จุดด่างพร้อยเพียงน้อยนิดของหลัวไห่ฮวา ถูกความขาวกลบไว้ทั้งหมด
สตรีที่เคยมีบุตร ช่างดูอวบอิ่มมีเสน่ห์
เซียวหยวนตวัดริมฝีปากแย้มรอยยิ้ม ยังไม่เคยลิ้มลองรสชาติของสตรีประเภทนี้มาก่อน
ตั้งแต่มาถึงหมู่บ้านสกุลเซียว ไม่ได้แตะต้องสตรีมานานเหลือเกิน
ทั้งสองคนถูกกักขังไว้ในศาลบรรพชน อาหารการกินถือว่าไม่แย่ เพียงแต่ช่วงเวลาห้าวันน่าเบื่อเกินไป ยาวนานเกินไป
หากสามารถหาเรื่องสนุกให้ทำบ้างก็ถือว่าไม่เลว
เห็นเซียวหยวนไม่กล่าวอะไร หลัวไห่ฮวาจึงขยับเข้าไปใกล้เขาพร้อมกล่าว “เซียวหยวน เจ้าเป็นแบบนี้ อยากได้สตรีแบบไหนก็ได้ หลานสาวของข้าปีนี้อายุสิบสี่ปี กำลังจะหาคู่ครอง นางไม่เลือกมาก แค่อยากได้คนที่รู้จักดูแลเอาใจใส่ ข้าคิดว่าเจ้าถือเป็นคนที่ดีทีเดียว ถ้าอย่างไร รอให้เราออกจากศาลบรรพชนแล้ว ข้าจะช่วยไปพูดให้เจ้าดีหรือไม่?”
ใบหน้าของเซียวหยวนที่ทำสีหน้าบึ้งตึงมานาน ในที่สุดก็ดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ข้า… ข้าไม่เอา”
“เจ้าคงไม่ใช่ว่ายังคิดถึงเซียวหมิงจูอยู่กระมัง? เซียวหมิงจูชอบบุรุษที่แต่งงานแล้ว เรื่องนี้ผู้คนรู้กันทั่ว สตรีผู้นี้มากรักหลายใจ เอามาเป็นคู่ครองไม่ได้! ดูเจ้าสิ ดีถึงเพียงนี้ จะหาสตรีแบบไหนก็ได้ กลับไปชอบสตรีแบบนั้น พี่สะใภ้รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับเจ้าเลย” หลัวไห่ฮวาทำท่าทางราวกับว่าข้ากำลังคิดเผื่อเจ้า เมื่อเห็นเซียวหยวนไม่กล่าวตอบ จึงจับมือเซียวหยวนขึ้นพร้อมกล่าว “อาหยวน เจ้าวางใจได้ เจ้าลองพบกับหลานสาวของข้าก่อน ลองพบดูก่อนค่อยว่ากันดีหรือไม่?”
เซียวหยวนพยักหน้า ได้แต่ตอบตกลงด้วยความจนใจ “เช่นนั้นลองพบก่อนก็ได้” เหมือนว่าน้ำเสียงจะเปลี่ยนไป
“อาหยวน ขอเพียงเจ้าพบหลานสาวของข้า รับรองว่าเจ้าต้องลืมหมิงจูไฉ่จูอะไรนั่นไปแน่นอน… อาหยวน เจ้าเป็นอะไรไป?” หลัวไห่ฮวาเห็นเซียวหยวนกุมท้องด้วยสีหน้าเจ็บปวด จึงรีบเอ่ยถาม
เซียวหยวนเจ็บปวดจนขดตัวอยู่บนพื้น สีหน้าดูเจ็บปวดทรมาน “พี่สะใภ้ ข้าปวดท้อง”
“ปวดท้อง?” หลัวไห่ฮวาได้ฟังดังนั้น จึงรีบกล่าว “เช่นนั้นข้า ข้าไปตามคนมาให้เจ้าก่อน!”
“ไม่ต้องไม่ต้องพี่สะใภ้ แค่ปวดท้อง ลูบหน่อย ลูบหน่อยก็หายแล้ว” เซียวหยวนดึงหลัวไห่ฮวาไว้
พอหลัวไห่ฮวาได้ยินว่าแค่ลูบหน่อยก็หายแล้ว ลองคิดดูไม่แน่ว่าต่อไปเซียวหยวนอาจเป็นหลานเขยของตัวเอง จึงกล่าวอาสา “เช่นนั้นก็ได้ ถ้าอย่างไรพี่สะใภ้ลูบให้เจ้า?”
ภายใต้แสงไฟสลัว มองไม่เห็นอย่างชัดเจนว่ามุมปากของเซียวหยวนตวัดขึ้นเผยรอยยิ้มได้ใจ “ได้ขอรับ พี่สะใภ้ไห่ฮวา”
หลัวไห่ฮวายื่นมือไปลูบตรงท้องเซียวหยวน
เซียวหยวนขมวดคิ้ว “พี่สะใภ้ไห่ฮวา ท่านลูบอยู่นอกเสื้อ ไม่มีประโยชน์”
หลัวไห่ฮวา “ได้ ข้าจะยื่นเข้าไปลูบให้!”
จากนั้นนางจึงยื่นมือเข้าไปในเสื้อเพื่อลูบให้เขา
ตอนปลายนิ้วสัมผัสโดนผิวส่วนท้องของเซียวหยวน แววตาของเซียวหยวนพลันเปลี่ยนไป
ลูบอยู่หลายสิบที หลัวไห่ฮวาลูบจนเมื่อยมือ จึงกล่าวด้วยความเหนื่อยใจ “นี่เซียวหยวน ท้องของเจ้าดีขึ้นบ้างหรือไม่? พี่สะใภ้ลูบจนเมื่อยมือแล้ว”
เซียวหยวนหัวเราะเบา “หายแล้ว หายแล้ว พี่สะใภ้ไม่ต้องลูบแล้ว”
หลัวไห่ฮวาชักมือกลับ สะบัดทีหนึ่ง “ข้าเมื่อยแทบตาย”
เซียวหยวนจับมือของนางไว้ “พี่สะใภ้ไห่ฮวา ค่ำคืนยาวนาน มีท่านกับข้าเพียงสองคน ถ้าอย่างไร พวกเรามาเล่นการละเล่นหนึ่งกันเถอะ?”
สายลมพัดโชยเข้ามา แสงไฟสั่นไหว สุดท้ายก็ดับลง…
เซี่ยยวี่หลัวหลับฝันดีจนถึงตอนลืมตาตื่นขึ้นมา
ลุกขึ้นมาสูดดมกลิ่น ก็ได้กลิ่นหอมกรุ่นของข้าวลอยมาจากทางห้องครัว
ดูท่ามีคนตื่นนอนแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวลุกจากเตียงเบาๆ ยังคงทำผมทรงถักเปียเหมือนเคย ช่วยไม่ได้ที่นางทำได้เท่านี้ นางไม่รู้จริงๆว่าควรจัดการอย่างไรกับเส้นผมที่เยอะจนไม่สามารถจับรวบด้วยมือเดียว จะตัดก็ตัดไม่ได้ จะหวีก็หวีไม่เป็น ได้แต่ถักเปียแบบง่ายที่สุด ปล่อยลู่ลงด้านหลัง ผูกด้วยแถบผ้าสีชมพูอ่อน ปลายสองด้านของแถบผ้ามีมุกหลากสีที่นางเย็บติดขึ้นไปเอง
ล้างหน้าบ้วนปากเสร็จ เซี่ยยวี่หลัวจึงเปิดประตูห้อง มายังห้องครัวเงียบๆ ภายในห้องครัวมีไอน้ำร้อนเล็กน้อยแล้ว
ไอน้ำร้อนลอยตลบอบอวล ภายในหม้อมีไอน้ำสีขาวลอยขึ้น ทอดสายตามองไปด้านหลังเตาไฟ เซียวยวี่ถือตำราหนึ่งเล่ม กำลังอ่านอย่างตั้งใจ ใช้แหนบคีบฟืนในมือคีบฟืนใส่เป็นครั้งคราว ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้ละสายตาจากตำราเล่มนั้นเลย
ดูท่าตอนเช้าเซียวยวี่ตื่นเช้าเป็นพิเศษ
เซี่ยยวี่หลัวเดินไปเงียบๆ เซียวยวี่กำลังเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับตำรา ไม่ทันสังเกตเห็นเซี่ยยวี่หลัว
เก้าอี้ตรงหน้าเตาไฟเป็นเก้าอี้สี่เหลี่ยมผืนผ้าตัวเตี้ย สามารถนั่งได้สองถึงสามคน
เซี่ยยวี่หลัวเดินไป คิดจะหยอกเซียวยวี่เล่น
นางยื่นมือไป คิดจะปิดตาเซียวยวี่
เซียวยวี่พบนางแล้ว แต่นางไม่ส่งเสียง เซียวยวี่จึงทำเป็นไม่รู้
จวบจนเซี่ยยวี่หลัวมาถึงด้านหลังเขา กำลังจะปิดตาของเขา ที่ไหนได้เซียวยวี่กลับจับมือนางไว้ ดึงตัวนางเบาๆ ดึงตัวเซี่ยยวี่หลัวมาถึงตรงหน้า ล้มนั่งลงบนตักของเซียวยวี่
เซี่ยยวี่หลัวตกใจจนใช้มือคู่โอบคอเซียวยวี่ไว้
เซียวยวี่หัวเราะเสียงเบา “เมื่อครู่เจ้าคิดจะทำอะไร?”
เสียงหัวเราะเบานั่นประหนึ่งขนนกที่มีกระแสไฟฟ้า ทำให้เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกอ่อนระทวยไปทั้งตัว