ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 505 หล่อหลอมดวงไฟ (1)
ตอนที่505 หล่อหลอมดวงไฟ (1)
ตอนที่505 หล่อหลอมดวงไฟ (1)
ณ ทุ่งดอกไม้ชมพู บนยอดเขาคุนหลุน
ในเวลานี้เอง ผืนป่าทุ่งสวนทั้งหลายแลล้วนถูกแผดผลาญวินาศสันตะโรหมดสิ้น ก่อเกิดเป็นทะเลอณูเม็ดแสงสีม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนเต็มไปหมด
ไป๋หลี่หานกอดร่างเซียถงบินทะยานอยู่บนฟากฟ้าสูง ค่อยๆเหินร่อนลงจอดสู่ภาคพื้นดินอีกครั้ง ปัจจุบันทันด่วน ดูเหมือนว่าจู่ๆเซียถงก็พลันหมดสติสลบไสลไปอย่างน่าประหลาด ท่ามกลางความมืดมิด เซียถงกลับรู้สึกได้ว่า กำลังมีอณูเม็ดแสงสีม่วงมากมายมหาศาลกำลังหลั่งไหลซึมซาบเข้าสู่ร่างกาย
หลังจากที่อณูเม็ดแสงสีม่วงทั้งหมดทั้งมวลระดมเข้าไปในร่างกายจนหมดสิ้น พวกมันก็สั่งสมรวมตัวกันอยู่ในห้วงความคิดของนาง ก่อตัวผนึกกลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างแช่มช้า
เหล่านั้นควบแน่นขึ้นมามีรูปร่างคล้ายดวงไฟสีม่วงอันทรงพลัง
หลิวซูเร่งกลับเข้าห้วงความคิดของเซียถง ปั้นสีหน้าร้อนใจหนัก เฝ้าจับจ้องด้วยความเป็นกังวล สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของนาง จึงกล่าวขึ้นว่า
“อณูดวงแสงสีม่วงเหล่านี้กำลังสะสมอยู่ในห้วงความคิดของเจ้า ไม่ดีแล้ว! พวกมันกำลังรวมตัวกัน ปรับเปลี่ยนเป็นรูปร่างขึ้นมา! เจ้าต้องรีบเข้ามาควบคุมมันโดยเร็ว!”
“แล้วจะให้ข้าเข้าไปยังไง!?”
เซียถงเหลือบชำเลืองมองหลิวซู กล่าวขึ้นคำหนึ่งน้ำเสียงจริงจัง
“ข้าจะพาเจ้าเข้ามาเอง!”
หลิวซูกล่าวคำหนึ่งพลางชำเลืองหาไป๋หลี่หานอีกปราด ไม่ว่ากรณีใดจำเป็นจะต้องมีไป๋หลี่หานคอยอยู่เฝ้าด้านนอก เซียถงถึงจะสามารถเข้ามาในห้วงความคิดของตัวนางเองได้อย่างปลอดภัย
ไป๋หลี่หานพยักหน้าตอบ เข้าใจทุกอย่างโดยไม่ต้องสื่อสารแม้สักคำ
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะคอยอยู่ปกป้องนางตรงนี้เอง!”
สายตาเป็นประกายเคลื่อนมองมาที่นาง พร้อมพยักหน้าหนักแน่น ทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นแสนคุ้นเคย
เซียถงในขณะนี้หลับตาทั้งสองข้าง กางแขนเข้าสวมกอไป๋หลี่หานอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล เปล่งเสียงกระซิบแผ่วนวลขึ้นว่า
“แน่นอน มีเจ้าคอยปกป้องอยู่เคียงข้าง ต่อให้เบื้องหน้าเป็นความตาย ข้าเองก็หาได้หวั่นไม่!”
จากนั้นเซียถงก็สื่อจิตกล่าวกับหลิวซูว่า
“บอกข้าทีควรทำอย่างไร?”
หลิวซูจำแลงกายปรากฏเป็นร่างมนุษย์อยู่ตรงหน้าเซียถง มันกุมสองมือของนางเอาไว้แน่น และตัวมันก็ค่อยๆหลับตาลง มุ่งพลังจิตวิญญาณแผ่ขยายเป็นม่านพลังไร้สภาพโปร่งแสงครอบคลุมทั้งสองเอาไว้ และเมื่อนางเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าบรรยากาศโดยรอบกลายเป็นความว่างเปล่า ร่างกายตนเองกำลังลอยเคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางเมฆาชั้นฟ้า และเบื้องหน้า คล้ายมีเมฆสีม่วงโกลาหลก้อนหนึ่งที่กำลังก่อตัว
“หรือว่าที่นี่คือ…”
เซียถงทอดสายตากวาดมองรอบตัวบริเวณนั้น นี่หรือคือห้วงความคิดของนาง? มีอาณัติบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลปานนี้เชียว?
หลิวซูพยักหน้า
“อย่างที่คิดนั่นแหละ ห้วงความคิดของแต่ละคนล้วนแตกต่างไม่เหมือนกัน บ้างเป็นทะเล และบ้างก็ยังเป็นดั่งนรกหม่นมืดก็ยังมี แต่นับว่าหาได้ยากยิ่งที่จะเป็นมหาสมุทรชั้นเมฆาฟ้าเฉกเจ้า หากคิดไว้ไม่ผิด คงเพราะแบบนี้กระมัง จึงเป็นเหตุให้เสี่ยวฮั่วเต็มใจติดตามรับใช้เจ้า”
เซียถงเหม่อมองทัศนีย์ตรงหน้าอีกคราเล็กน้อย
แน่นอน นางคงไม่มีทางเข้าใจได้เอง หากหลิวซูไม่อธิบายชี้แจงให้ฟังเช่นนี้
ห้วงความคิดเป็นพื้นที่มิติอิสระของทุกคน พฤติกรรมการกระทำรวมไปถึงรูปแบบความคิดทั้งในส่วน จิตสำนึก จิตก่อนสำนึก และจิตใต้สำนึกที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ยังเด็ก เหล่านั้นจะถูกหล่อหลอมกลายมาเป็นห้วงความคิดในรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไป หรือจะเรียกอีกอย่างได้ว่า พื้นที่แห่งความลับที่ถูกซ่อนในส่วนลึกสุดของจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความลับหรือเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่อยากจดจำเพียงใด ทั้งหมดทั้งมวลล้วนถูกเก็บไว้อยู่ในนี้ทั้งนั้น
ดังนั้นแล้ว ห้วงความคิดของผู้คนโดยส่วนใหญ่จึงเปรียบเสมือน สถานทีกักเก็บตัวตนด้านมืดในจิตใจเอาไว้ กล่าวคือ ที่กักขังกมลสันดานดิบของมนุษย์
ทว่าห้วงความคิดของเซียถงกลับแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง!
ห้วงความคิดของเซียถงเป็นพื้นที่มิติสีขาวบริสุทธิ์ มีทั้งแสงสว่างสดใส สาดประกายมลายสิ้นเงามืดสรรพสิ่ง และสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคงจะเป็น ขนาดความกว้างใหญ่ไพศาลของที่แห่งนี้ พินิจดูแล้วราวกับ ท้องนภาฟ้าสีคราม
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีห้วงความคิดที่ใสบริสุทธิ์ขนาดนี้ได้!
สิ่งหนึ่งที่หลิวซูไม่เคยบอกคือ ครั้งแรกที่เข้ามาสัมผัสกับพื้นที่แห่งนี้ กระทั่งมันเองยังรู้สึกตื่นตะลึงไม่ต่างจากเสี่ยวฮั่ว! อย่างไรเสีย ในเวลานั้น มันเป็นพวกหัวดื้อเกินเยียวยา ไม่คิดจะยอมจำนนและยอมรับหญิงสาวนางนี้เป็นเจ้านายเหนือหัวของมัน จึงแสร้งทำเป็นมองข้ามมิได้สนใจอันใด แต่จนทุกวันนี้ พฤติกรรมแข็งกระด้างเหล่านั้นก็เริ่มคลายอ่อนลงไปมาก กล่าวได้ว่า ยอมรับเซียถงแทบทั้งใจแล้ว
หลิวซูพาเซียถงตรงเข้ามายังสถานที่แห่งหนึ่งภายในห้วงความคิด หรือก็คือจุดเกิดเหตุที่มีชั้นเมฆาโกลาหลสีม่วงกระจุกรวมกันอยู่
ทอดสายตามองไปยังที่ตรงนั้น ดวงไฟสีม่วงกลุ่มนี้มีขนาดใหญ่กว่าที่เซียถงจินตนาการไว้เยอะ!
“เห็นดวงไฟสีม่วงเหล่านี้แล้วรู้สึกเยี่ยงไร?”
หลิวซูกล่าวต่อ
“ข้าคิดว่าเจ้าเองก็น่าจะคุ้นเคยกันมันดี”
เซียถงเหล่เหลียว มุ่งสายตาพินิจอย่างตั้งใจ เจ้าดวงไฟสีม่วงกลุ่มนี้คล้ายจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยบอกไม่ถูก
แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่สามารถอธิบายออกเป็นคำพูดได้
“ข้าก็คิดเช่นนั้น”
กล่าวตอบหนึ่งคำ นางก้าวย่างตรงขึ้นหน้าออกไป และยิ่งเข้าไปใกล้มากขึ้นเท่าไหร่ จะยิ่งสัมผัสได้เลยว่า ดวงไฟสีม่วงขนาดมหึมานี้แพรวพราวสวยงามดุจอัญมณีปานใด
เซียถงยื่นนิ้วเรียวยาวเข้าแตะสัมผัสดวงไฟสีม่วงมหึมานั้น แต่จู่ๆมันก็สั่นไสวกระเพื่อมทีหนึ่ง ให้ความรู้สึกเหมือนกับขนมวุ้นชิ้นใหญ่
ลองจิ้มอีกสักทีสองทีแหย่ดู สักครู่เกิดยุบตัวบุ๋มเป็นหลุมน้อยๆ พอชักนิ้วเก็บออก รอยบุ๋มก็คล้ายคลายตัวกลับคืนสู่สภาพเดิม
“เซียถง! ดูนั่น!”
หลิวซูสาดสายตาส่องระยิบ พินิจตรวจสอบดวงไฟสีม่วงมหึมาตรงหน้า เพิ่งจะเปล่งเสียงเอ่ยกล่าว ร่างของมันอันตรธานหายวับ ก่อนจะปรากฏกายขึ้นอีกครั้งอยู่บนฟ้า ลอยมาหยุดอยู่เบื้องหน้าดวงไฟสีม่วงมหึมานี้ ขณะเดียวกันก็ยังเปล่งเสียงตะโกนเรียกเซียถงจากบนนั้น
ณ ที่แห่งนี้คือห้วงความคิดของเซียถง เช่นนั้นนางสามารถควบคุมสรรพสิ่งอย่างในนี้ได้ตามใจนึก
เพียงถีบเท้าส่งตัวเองขึ้นไปเบาๆ ร่างของเซียถงก็เบาหวิวดุจไร้น้ำหนักล่องลอยสู่ฟากฟ้า ตรงมายืนอยู่ข้างเคียงหลิวซู จากวิสัยขนาบข้าง มุ่งมองมายังใจกลางดวงไฟสีม่วง จะแลเห็นร่างหนึ่งคล้ายเด็กทารกกำลังนอนขดตัวอยู่ โดยมีดวงไฟสีม่วงเหล่านี้นทำหน้าที่ห่อหุ้มเอาไว้ โดยรวมแล้วเหมือนกับตัวอ่อนในครรภ์มารดา
ร่างทารกนี้เพิ่งจะควบแน่นก่อตัวเป็นร่างได้ไม่นาน ยังไม่แม้แต่ลืมตาด้วยซ้ำ
ผิวหนังของทารกร่างนี้โปร่งใสมองทะลุเห็นเนื้อใน หลิวซูสะดุดมองก็ค้นพบว่า มีหัวใจดวงน้อยๆดุจอัญมณีสีม่วงกำลังเต้นอยู่ แต่เหมือนกับว่า สิ่งนี้ยังไม่สมบูรณ์ดี
“มีเด็กทารกอยู่ในห้วงความคิดของข้า?”
เซียถงอดอุทานร้องขึ้นมิได้ นางรู้สึกประหลาดใจเหลือเกิน
หลิวซูจำแลงกลายเป็นกระบี่ทัณฑ์ฟ้า เจาะทะลวงเข้าไปในดวงไฟสีม่วงมหึมาทันใด แต่เดิมมันก็เป็นจิตวิญญาณแห่งกระบี่อยู่แล้ว มวลสสารย่อมเหมือนกับดวงไฟสีม่วงแห่งนี้ที่กอปรไปด้วยจิตวิญญาณเช่นกัน
เซียถงทำได้เพียงยืนรอแบบนั้นเงียบๆ หลังจากนั้นไม่นาน หลิวซูก็โผล่ตัวกลับออกมาจากดวงไฟสีม่วงดังกล่าว
มันถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก
“มีอะไรอยู่ภายในนั้นกัน?”
ยิ่งเห็นสีหน้าการแสดงออกมันเป็นแบบนั้น เซียถงยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่ นางไม่เคยเห็นหลิวซูปั้นสีหน้าเช่นนี้มาก่อน เสี้ยวแวบแรก ยังรู้สึกเสียวสันหลังแทนตัวมัน
“เสี่ยวฮั่วจริงๆ! ภายในนั้นคือเสี่ยวฮั่ว!”
“ห่ะ?!”
สวรรค์เถิด! เสี่ยวฮั่วกลายมาเป็นเด็กทารกตั้งแต่เมื่อใด!?