ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 994 อันตราย
ตอนที่ 994 อันตราย
พอรัชทายาทเห็นพวกเขาสองคน ก็รีบพุ่งออกมายืนตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยขอขมาพวกเขา “ท่านปู่ ท่านย่า อภัยให้ข้าด้วย เพราะข้าทำให้พวกท่านต้องออกจากเมืองหลวง ตอนนี้พวกท่านคงไม่เป็นอันใดแล้วใช่หม ข้าเป็นห่วงแทบตาย”
ผ่านพ้นปีนี้ รัชทายาทก็จะสิบเอ็ดแล้ว กลายเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อยแล้ว ยามนี้แม้มีสีหน้าตำหนิตนเองต่อหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว แต่อย่างไรเขาก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยอายุสิบขวบ พยายามเสแสร้งเป็นห่วงเพียงใด ก็ยังคงมีคนมองออกว่าแม้ปากเขาตำหนิตนเอง แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนี้ กลับกัน แววตาเขาเย็นเยียบอย่างยิ่ง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวอยู่ในวงการเหล่านี้มานาน ไหนเลยจะไม่รับรู้ว่ารัชทายาทเจ็บแค้นพวกเขา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพลันเข้าใจแล้วว่าเหตุใดรัชทายาทเป็นเช่นนี้ เพราะสัมพันธ์ฮองเฮากับฝ่าบาทแตกหัก ฮองเฮาถูกกักบริเวณในตำหนัก ในใจรัชทายาทน่าจะปักใจว่าเพราะพวกเขาไม่ช่วย หากพวกเขาออกหน้าช่วยกล่อมเสด็จพ่อ ความสัมพันธ์ของเสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะต้องไม่เลวร้ายลงเช่นนี้
ลู่เจียวคิดแล้วก็ปวดหัวมาก กล่าวตามตรง หากเซียวเหวินอวี๋ไม่ใช่ฮ่องเต้ นางเอ่ยสักสองสามคำก็ได้ แต่เซียวเหวินอวี๋เป็นฮ่องเต้
นางรู้ว่าฝ่าบาทรังเกียจฮองเฮา ถ้ายังฝืนไปทูลเกลี้ยกล่อม จะทำให้เซียวเหวินอวี๋อึดอัดใจ
แม้ว่าเซียวเหวินอวี๋เป็นบุตรที่นางเลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ แต่ความผูกพันคนเราไม่อาจทานทนการกระทบกระทั่งมากเกินไปนัก
นางไม่คิดจะทำให้ความผูกพันโดนกระทบกระทั่งง่ายดายเช่นนี้ นางครุ่นคิดแล้วว่า หากวันหน้าสักวันต้องไปถึงขั้นนั้น นางจะได้นำความผูกพันนี้ออกมาใช้งานสักครั้ง ไม่แน่ว่าอาจปกป้องตระกูลเซี่ยได้
แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่า รัชทายาทแค้นใจพวกเขาเพราะนางไม่ยอมออกหน้าช่วยเหลือ
ลู่เจียวเองก็ขี้เกียจจะสนใจรัชทายาทแล้ว อยากทำอันใดก็ทำไปเถอะ แต่ละคนคิดว่านางเป็นคนนิสัยดีหรือ
ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยกับรัชทายาทด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า “หม่อมฉันทำให้รัชทายาทเป็นห่วงแล้ว หม่อมฉันไม่ดีเอง”
เดิมเซียวเหวินอวี๋เป็นคนฉลาดผ่านตาไม่ลืม และยังเป็นฮ่องเต้มานานหลายปี ล้วนมองการกระทำของบรรดาขุนนางในราชสำนักกระจ่าง ดังนั้นท่าทีบุตรชายตนเองต่อเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวสองคนนั้นเป็นการสำนึกตำหนิตนเองจากใจหรือไม่ ใกล้ชิดสนิทสนมดังเดิมหรือไม่ เขามองปราดเดียวก็มองออก
ดังนั้นเห็นรัชทายาทแสดงท่าทีภายนอกสนิทสนม แต่กลับมีแววตาคับแค้นใจ เขาเองก็มองกระจ่าง เซียวเหวินอวี๋รู้สึกเพียงแค่รัชทายาทแม้ว่าอายุยังน้อย แต่จิตใจช่างไร้ความดีงามเสียจริง
คนตระกูลเซี่ยดีกับรัชทายาทมากจริงๆ แม้ว่าเรื่องฮ่องเฮา พวกเขาไม่ได้เข้ามาช่วย ทว่าแต่เล็กจนโต หากพวกหนิวไหน่ กั่วต้ง ปู้ติงมีสิ่งใด ลูกๆ เขาก็มีส่วนด้วยเช่นกัน เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวล้วนเตรียมให้เขากับองค์หญิงใหญ่เช่นเดียวกัน แต่ไรมาไม่เคยน้อยหน้ากว่า ปรากฏกลับมาจดจำฝังแค้นเพราะเรื่องนี้ได้
เซียวเหวินอวี๋ผิดหวังในตัวรัชทายาทอย่างมาก แต่กลับไม่ได้กล่าวอันใดในตอนนั้น
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านเดินทางไปซีเหลียงครั้งนี้ไม่ได้เกิดเรื่องอันใดกระมัง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่ายหน้า “ทุกอย่างราบรื่นปลอดภัยดี แต่รัชทายาทซีเหลียงซั่งกวนเฮ่อหนีไปได้ พวกเราต้องระวังตัวหน่อย เจ้าหมอนั่นเป็นคนโหดเหี้ยม เจ้าต้องระวังตัวให้ดี”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็มองรัชทายาททีหนึ่ง แววตาบอกให้เซียวเหวินอวี๋ระวังความปลอดภัยของรัชทายาท ก่อนหน้านี้ซั่งกวนเฮ่อคิดจับตัวรัชทายาทเพื่อทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายในราชบัลลังก์แคว้นต้าโจว ครั้งนี้เขาหนีไปได้ ผู้ใดจะรู้ว่าเขาจะก่อเรื่องใดอีก
เพียงแต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนก็อดเอ่ยเนิบนาบไม่ได้ว่า “พวกเขาจะไม่เป็นอันใด ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือท่านแม่ ซั่งกวนเฮ่อถูกพิษอู่ซินเฝิน ยาพิษตำรับลับวังซีเหลียง ตอนนี้เขาร้อนใจที่สุดก็คือยาถอนพิษ วิชาการแพทย์ท่านแม่นอกจากมีชื่อในแคว้นต้าโจวแล้ว ที่ซีเหลียงกับเป่ยฉีเองก็ไม่แพ้กัน ดังนั้นข้าคิดว่าที่น่าจะอันตรายที่สุดตอนนี้ก็คือท่านแม่ ตอนนี้ซั่งกวนเฮ่อถูกเสด็จพ่อข้าออกหมายจับ ย่อมไม่ปรากฏตัวมาขอให้ท่านแม่ข้าถอนพิษให้อย่างเปิดเผย มีความเป็นไปได้มากว่าเขาจะนำคนมาจับตัวท่านแม่ไป ดังนั้นท่านแม่ต้องระมัดระวังให้มาก”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวจบ ทุกคนในงานเลี้ยงก็หันไปมองนางด้วยสัญชาตญาณทันที จากนั้นก็แต่ละคนรู้สึกว่านางกล่าวได้มีเหตุผล ก่อนจะหันขวับไปมองลู่เจียว
ลู่เจียวยิ้มละไมกล่าวว่า “เอาละ ข้าไม่เป็นอันใด อย่าได้เคร่งเครียดกันไป ข้าจะไม่เป็นอันใด แม้ซั่งกวนเฮ่อมาจับตัวข้า ก็เพื่อถอนพิษให้เขา เขาจะไม่ทำร้ายข้า”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเอ่ยต่อว่า “วาจาแม้กล่าวเช่นนี้ แต่ท่านแม่จะถอนพิษให้เขาจริงหรือ หากท่านแม่ไม่ถอนพิษให้เขาเล่า คนผู้นี้จิตใจโหดเหี้ยม ดังนั้นควรส่งคนมาอารักขาท่านแม่ไว้เป็นดี”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวจบ พวกเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับเซี่ยเหวินเหยาต่างก็พยักหน้า
เซียวเหวินอวี๋ออกปากว่า “ไว้เราจะส่งยอดฝีมือมาคอยแอบอารักขาท่านแม่”
ลู่เจียวเห็นทุกคนในห้องโถงเคร่งเครียดก็ยิ้มเอ่ยว่า “เอาละ อย่าได้เคร่งเครียดกันเกินไป ข้าจะระวังตัว อีกอย่าง ข้างกายข้ามีหร่วนจู๋ติดตาม ฝีมือหร่วนจู๋ร้ายกาจมากนะ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยขึ้นว่า “ข้าเองก็จะคอยปกป้องข้างกายท่านแม่พวกเจ้าด้วย”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนหัวเราะ “ทุกคนวางใจ ข้าเองก็จะคอยปกป้องข้างกายท่านแม่เช่นกัน จะไม่ให้นางเกิดเรื่องอย่างเด็ดขาด พวกเราเตรียมการไว้พร้อมแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลมากเกินไป”
น้ำเสียงนางสดใส วาจาราวกับน้ำพุไหลเย็นประโลมใจ กอปรกับไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตัวจนดูต่ำต้อย ทำให้คนอดมองแล้วมองอีกไม่ได้
ส่วนนางยามต้องเผชิญกับสายตามากมาย กิริยาท่าทางยังคงมั่นใจ ไม่ได้มีความตื่นเต้นหรือกังวลใจแม้สักนิด
เซียวเหวินอวี๋อดมองอีกสองสามทีไม่ได้ จากนั้นแก้มก็เริ่มร้อนผ่าว แต่ไรมาเขาไม่เคยมองหญิงสาวใดเช่นนี้มาก่อน
รัชทายาทเซียวจิ่งฟังทุกคนในห้องโถงคุยกันเงียบๆ พอได้ยินว่ารัชทายาทซีเหลียงจับตาลู่เจียว ในใจเขาถึงกับแอบสะใจ แต่เพื่อป้องกันเสด็จพ่อรู้ เขาจึงระงับอารมณ์ให้นิ่งลง ก้มหน้ากินไปทำคล้ายไม่ได้ยิน
แต่ในความเป็นจริง ตอนเขาเลิกคิ้วเล็กน้อยก็เผยความในใจเขาหมดสิ้นแล้ว เซียวเหวินอวี๋หันไปเห็นใบหน้าเขาที่ก้มหน้าลงหลบซ่อนความสะใจไว้ได้พอดี ในใจพลันเดือดดาล หากไม่ใช่ว่าพยายามระงับไว้ เขาคิดจะสะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้ารัชทายาทสักทีจริงๆ
อย่าว่าแต่ท่านย่ากับท่านแม่เขาไม่ได้มีความแค้นต่อกัน แม้ว่ามีจริง ก็ไม่อาจเผยสีหน้าสะใจยามอีกฝ่ายตกอยู่ในอันตราย
เขาน่าจะลืมไปว่าก่อนหน้านี้ท่านตาเกือบตายเพื่อช่วยเขา
เซียวเหวินอวี๋ไม่เข้าใจ เห็นอยู่ว่าตอนนั้นเขามักพารัชทายาทมาตระกูลเซี่ย ก็เพื่อให้เขาใกล้ชิดกับตระกูลเซี่ย คนตระกูลเซี่ยดีต่อเขามากจริงๆ ตอนเขาห้าขวบ เขายังส่งรัชทายาทไปเมืองหนิงโจว เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับท่านพ่อท่านแม่ให้มาก วันหน้าเขาขึ้นสู่บัลลังก์ ตระกูลเซี่ยก็จะดำรงอยู่ต่อไปไม่ตกต่ำ
แต่ปรากฏว่าทุกอย่างที่เขาวางไว้พังทลายหมดสิ้น เซียวเหวินอวี๋ไม่เข้าใจว่าแท้จริงเกิดปัญหาที่ขั้นตอนใดกันแน่
เขาตัดสินใจว่าไว้กลับเข้าวัง จะต้องให้คนไปสืบเรื่องรัชทายาทแต่เล็กจนโต ดูว่าแท้จริงเขาพลาดปัญหาที่ขั้นตอนใดไปกันแน่
องค์หญิงใหญ่กลับไม่ได้เหินห่างจากตระกูลเซี่ยเพราะเซียวเหวินอวี๋กักบริเวณฮองเฮา กลับกัน นางชอบบรรยากาศตระกูลเซี่ยมาก แต่เล็กนางเล่นกับกั่วต้งบุตรีเซี่ยเหวินเหยา ทั้งสองคนคล้ายดังพี่น้อง ใกล้ชิดสนิทสนม มีวาจาคุยกันไม่จบไม่สิ้น
องค์หญิงรองมาตระกูลเซี่ยครั้งแรก สาวน้อยรู้สึกขัดเขิน แต่ลู่เจียวกับหูหลิงเสวี่ย ยังมีซือหว่านอิ๋งคอยคีบอาหารป้อนนาง นางจึงได้เรียกอย่างสนิทสนมว่า ท่านป้า ท่านย่า เรียกด้วยความเบิกบานใจยิ่ง