ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 895 เซี่ยหลิงหลง (2)
ตอนที่ 895 เซี่ยหลิงหลง (2)
ตกค่ำ ฉินเจามู่ไปคำนับฮูหยินผู้เฒ่าฉินที่เรือน จากนั้นก็กินอาหารค่ำแล้วค่อยกลับมา พอกลับมาก็ถามเซี่ยหลิงหลง
“ข้าได้ยินท่านแม่ว่า เจ้ายอมให้ข้ารับน้องซวงเอ๋อร์เป็นอนุหรือ”
เซี่ยหลิงหลงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ข้าไม่ได้เห็นด้วย ข้าบอกว่าแล้วแต่ความเห็นเจ้า”
ฉินเจามู่ได้ฟังเซี่ยหลิงหลงก็เลิกคิ้วคิดไตร่ตรอง เขาเดินมาข้างกายเซี่ยหลิงหลง ยื่นมือไปดึงมือนางมากุมเอ่ยว่า “หลิงหลง ตอนนั้นข้ารับปากบิดาและพี่ชายเจ้าว่าจะแต่งเจ้าเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว วาจานี้ข้าจะจดจำไว้ตลอดไป ข้าจะไม่แตะต้องหญิงใด”
ฉินเจามู่กล่าวจบก็มองไปยังเซี่ยหลิงหลง สองปีผ่านมานี้ เขานับวันเริ่มจะชอบภรรยาผู้นี้มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ฉลาด แต่ยังงามและน่ารัก กตัญญูบิดามารดาสามี ดีกับน้องชายน้องสาวเขา ที่สำคัญที่สุดก็คือเขาชอบนาง ชีวิตนี้ได้ภรรยาเช่นนี้ จะร้องขอสิ่งใดอีก!
“หลิงหลง ท่านแม่บอกว่าน้องซวงเอ๋อร์จะอาศัยชื่อว่าเป็นอนุข้า ให้มาอยู่เรือนนาง จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์สามีภรรยาของพวกเรา เจ้าวางใจ นางแค่อาศัยชื่อว่าเป็นอนุข้า แต่ข้าจะไม่แตะต้องนาง ดังนั้นเจ้าอย่าได้ไม่พอใจ”
เซี่ยหลิงหลงเงยหน้ามองฉินเจามู่ กล่าวตามตรง สามีคนนี้นางเองก็พึงพอใจ เขาดีกับนาง แม้ว่าสองปีมานี้นางไม่ตั้งครรภ์ แต่ไรมาเขาก็ไม่เคยหาเรื่องนางด้วยเหตุนี้ ยังบอกว่าหากนางไม่ตั้งครรภ์ก็จะไปขอบุตรน้องชายรองเขามาให้นางเลี้ยงสักคน
แต่ทุกครั้งก็ถูกมารดาเขาห้ามไว้ แม้นางอดทนอีกฝ่ายเอาไว้ได้ แต่บัดนี้นางไม่คิดทนแล้ว
เซี่ยหลิงหลงยิ้มมองฉินเจามู่ “เจามู่ เจ้ารู้ไหมว่าข้าแซ่อันใด”
ฉินเจามู่แปลกใจ “แซ่เซี่ย”
“ใช่ ข้าแซ่เซี่ย”
ดังนั้นไม่มีทางให้ผู้ใดมารังแกข้า
แต่เซี่ยหลิงหลงไม่ได้เอ่ยอันใด นางต้องสังสอนชายผู้นี้แรงๆ สักครั้ง ให้เขารู้ว่าคนแซ่เซี่ยไม่ใช่คนที่ผู้ใดจะมารังแกได้
ฉินเจามู่ได้ฟังเซี่ยหลิงหลงก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่กลับบอกไม่ถูกว่ามีอันใดผิดปกติ เขามองเซี่ยหลิงหลงกล่าวว่า “หากเจ้าไม่เห็นด้วย เช่นนั้นก็ไม่รับ”
เซี่ยหลิงหลงแค่นหัวเราะ อันใดเรียกว่านางไม่เห็นด้วย ต้องตัวเขาเองคิดไม่รับเองถึงจะถูกต้อง
“ตามใจเจ้า ข้าเหนื่อย จะนอนแล้ว”
เซี่ยหลิงหลงเอ่ยเช่นนี้ ฉินเจามู่ก็รู้ว่านางไม่พอใจ จึงได้กล่าวว่า “หลิงหลง พรุ่งนี้ข้าไปหารือกับท่านแม่ ไม่ให้น้องซงเอ๋อร์อาศัยชื่อว่าเป็นอนุข้า”
เซี่ยหลิงหลงหันหน้าไปอีกทาง กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ตามใจเจ้า”
กล่าวจบก็เข้านอน วันรุ่งขึ้นเซี่ยหลิงหลงตื่นมา ฉินเจามู่ก็ออกไปแล้ว เซี่ยหลิงหลงสั่งการหลิ่วฝู “เก็บของมีค่าทั้งหมด ข้าจะกลับเมืองหลวง”
หลิ่วฝูได้ฟังก็ดีใจมาก “ดีเจ้าค่ะ บ่าวจะรีบไปเก็บของ”
ครั้งนี้ต้องสั่งสอนนางเฒ่าฉินให้ดี ไม่ดูเสียบ้างว่าคุณหนูนางระดับใด ถึงกับกล้าให้คุณหนูนางทนกล้ำกลืน รอดูเถอะ ขอเพียงคุณหนูกลับเมืองหลวง มีคนมาจัดการนางแน่
หลิ่วฝูรีบให้คนเก็บของ ส่วนใหญ่เป็นของมีค่า ของทั่วไปไม่ได้แตะต้อง ครั้งนี้คุณหนูแต่งมาตระกูลฉินนำของมีค่ามาด้วยไม่น้อย
ความจริงหลิ่วฝูไม่รู้ว่า ยังมีของมีค่าอีกมากมายที่เซี่ยหลิงหลงเก็บไว้ในห้วงอากาศ ทิ้งเพียงของธรรมดาเอาไว้ด้านนอกเท่านั้น
แต่แม้เป็นเช่นนี้ก็เก็บของได้หลายหีบใหญ่ เซี่ยหลิงหลงกินอาหารเช้าเสร็จก็สั่งการคนของตนเองที่พามาด้วยว่า “เอาของขึ้นรถม้า ไปส่งท่าเรือ พวกเรานั่งเรือกลับเมืองหลวง”
“เจ้าค่ะ คุณหนู”
เซี่ยหลิงหลงเพิ่งนำคนขนของขึ้นรถม้าไป ก็มีคนไปรายงานฮูหยินผู้เฒ่าฉิน “ฮูหยินผู้เฒ่า ไม่ได้การแล้ว ไม่ได้การแล้ว ฮูหยินขนของไปแล้ว”
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินพลันฟังไม่เข้าใจ “ไปก็ไปสิ ตกใจทำไมกัน”
พ่อบ้านเฒ่ามองออกว่านางฟังไม่เข้าใจ “ฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินเก็บของนำคนไปหมดแล้วขอรับ”
นี่ยังไม่เข้าใจอีกหรือ
ฮูหยินผู้เฒ่ามองอย่างงงงัน หมายความเยี่ยงไร ไปแล้ว นี่หมายความเยี่ยงไรกัน
ฮูหยินผู้เฒ่ายังตั้งสติไม่ทัน นอกประตูนายผู้เฒ่าฉินกลับมาพอดี
ตระกูลฉิน ตั้งแต่ฉินเจามู่เป็นขุนนาง ก็หาเงินมาซื้อที่นาหลายร้อยหมู่ สถานที่ที่นายผู้เฒ่าชอบที่สุดก็คือที่นาเหล่านี้ ปกติจะไปอยู่ที่นา ไม่ค่อยได้กลับมา
ครั้งนี้กลับมาที่จวนก็เห็นสภาพแตกตื่นเช่นนี้ ก็อดถามไม่ได้ว่า “นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น”
ฮูหยินผู้เฒ่าไม่กล้าเอ่ย พ่อบ้านรีบกล่าวทันทีว่า “ฮูหยิน นางพาสาวใช้ไปแล้ว”
นายผู้เฒ่าตกใจหันไปมองพ่อบ้านเฒ่า “หมายความเยี่ยงไร”
“ฮูหยินนางนำของใส่หีบใหญ่หลายใบ นางนำคนของนางไปกันหมดแล้วขอรับ”
นายผู้เฒ่าแค่ฟังก็พอเข้าใจว่าเหตุใดสะใภ้อยู่ๆ เก็บข้าวของกลับบ้าน รีบหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าฉิน “เจ้าทำอันใดให้นางโมโห”
นายผู้เฒ่ากล่าวจบก็รู้สึกว่าตนเองพอคาดเดาได้แล้ว ย่อมต้องเป็นเช่นนี้
“เจ้ามีชีวิตที่ดีมากเกินไปหรืออย่างไร ไม่มีอันใดไปหาเรื่องนางทำไมกัน นางเป็นบุตรีตระกูลเซี่ย บุตรีตระกูลเซี่ยถือเป็นดังน้องสาวฝ่าบาท ชื่อของนางก็ฝ่าบาทตั้งให้ด้วยพระองค์เอง ตระกูลเราแต่งนางมา ก็ควรให้ความเคารพนาง ข้าบอกหลายครั้งแล้ว อย่าได้หาเรื่องนาง อย่าได้หาเรื่องนาง!”
“เห็นอยู่ว่านางไม่เลวอย่างมาก ให้ความเคารพพวกเรามาก กับคนระดับล่างกว่าก็ให้ความเป็นมิตร สะใภ้เช่นนี้เจ้ายังมีอันใดไม่พอใจ เอาแต่หาเรื่องนางอีก”
ฮูหยินผู้เฒ่าฉินได้ฟังนายผู้เฒ่าก็อดพึมพำไม่ได้ “ข้าเห็นว่านางไม่อาจตั้งครรภ์ ดังนั้น ดังนั้น…”
“พวกเขาเพิ่งแต่งงานได้สองปี เหตุใดเจ้ารู้ว่านางไม่อาจตั้งครรภ์ ไม่แน่ว่าอาจแค่ไม่อยากให้กำเนิดชั่วคราว มารดานางเป็นหมอเทวดาชื่อเสียงก้องหล้า บุตรสาวนางไม่อาจตั้งครรภ์ นางจะรักษาไม่ได้หรือ”
ฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินก็ลนลานตกใจ “แล้วจะทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี นางไปแล้ว บุตรชายเราจะได้รับผลกระทบไปด้วยหรือไม่”
นายผู้เฒ่าปวดหัว “รีบให้คนไปตามเจามู่กลับมา”
พ่อบ้านเฒ่าส่งคนออกไป ยังไม่ถึงหน้าประตู ก็เห็นฉินเจามู่กลับมา ฉินเจามู่คิดถึงคำพูดเซี่ยหลิงหลงเมื่อคืนที่ถามเขาว่านางแซ่อันใด เขาก็รู้สึกว่าวาจานี้ไม่ถูกต้องนัก เช้าวันนี้เอาแต่คิดเรื่องนี้ จากนั้นก็เขาก็เข้าใจความหมายแฝงในวาจานี้
ข้าบุตรีตระกูลเซี่ยไม่ทนให้ผู้ใดมารังแก
สีหน้าฉินเจามู่พลันซีดเผือด นั่งไม่ติดรีบกลับมาทันที พอกลับมาก็ได้เห็นความอลหม่านในจวน รีบเอ่ยถามว่า “เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
บ่าวรับใช้ตระกูลฉินตื่นตกใจ กล่าวว่า “ฮูหยินนำของหีบใหญ่หลายหีบและบ่าวรับใช้ไปแล้วขอรับ”
ฉินเจามู่พลันใจหายวูบ สมองมีแต่เสียงอื้ออึง เขารีบวิ่งกลับไปที่เรือนพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง
ในห้องไม่มีข้าวของเซี่ยหลิงหลงแล้ว เสื้อผ้าในตู้ก็ไม่เหลือ
ฉินเจามู่สีหน้าซีดเผือด ในเวลานี้เขากลัวอย่างมาก คล้ายว่าเซี่ยหลิงหลงไปแล้วจะไม่กลับมาอีก
ยามนี้เขาจึงได้เข้าใจว่าหญิงผู้นี้มีความหมายกับเขาเพียงใด ไม่ใช่แค่เขาคิดว่าชอบ แต่คือรัก เขารักนาง
นางงดงามราวกับเมฆบนท้องฟ้า แต่ไรมาเขาไม่กล้ามีความคิดอาจเอื้อมว่าจะมีวันหนึ่งที่ฝ่าบาทถึงกับพระราชทานหญิงสาวราวกับเทพธิดาให้เขา เขาดีใจแทบเสียสติ แต่สองปีมานี้เพราะนางสงบเสงี่ยมไม่ทำตัวเป็นที่สังเกต เขาจึงได้ลืมความยินดีในตอนนั้นไป และปฏิบัติต่อนางอย่างบกพร่อง
ฉินเจามู่หันหลังวิ่งออกไป ตอนผ่านโต๊ะหนังสือก็เห็นจดหมายฉบับหนึ่ง
เขายื่นมือไปหยิบจดหมายด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ ใช้แรงฉีกหลายครั้งก็ฉีกไม่ออก สุดท้ายกว่าจะฉีกออกได้ พบว่าในจดหมายมีกระดาษสองแผ่น เขียนไว้ว่า
ฉินเจามู่ ข้าบุตรีตระกูลเซี่ยไม่อาจทนให้ผู้ใดรังแกได้ เจ้าเอาแต่ให้ข้าอดทนครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ข้าผิดหวังมาก อย่าว่าแต่ท่านแม่เจ้า แม้แต่เสด็จพี่ข้าก็ไม่เคยให้ข้าต้องอดทน ท่านแม่เจ้าคือผู้ใดกัน!
อีกฉบับคือหนังสือหย่า
ใบหน้ารูปงามสง่าราวกับหยกของฉินเจามู่พลันซีดขาวราวกับกระดาษ