ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 864 แนะนำ
ตอนที่ 864 แนะนำ
ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “น่าจะเรียบร้อยแล้ว รอแค่พวกเขากลับมา”
เซียวเหวินอวี๋ได้ฟังก็ยิ้มกล่าวว่า “รอพี่สามแต่งงาน ข้าจะไปแสดงความยินดีกับเขาด้วยตัวเอง”
“ได้ แม่ขอขอบคุณเจ้าแทนพี่สามด้วย”
ลู่เจียวกล่าวอย่างยินดี แต่พอคิดถึงฮองเฮา ในใจก็รู้สึกเห็นใจสงสารซื่อเป่า
แต่ตอนนี้แต่งฮองเฮามาแล้วจะทำอย่างไรได้ ได้แต่ใช้ชีวิตกันไปให้ดี
ในฐานะฮ่องเต้แคว้นต้าโจว ฮองเฮาซื่อเป่าย่อมต้องเป็นสตรีสูงศักดิ์ ไม่ใช่เผยอวี่ก็เป็นคนอื่น ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะดีกว่าเผยอวี่
“ฝ่าบาท ฮองเฮาอายุยังน้อย ให้โอกาสนางอีกสักหน่อย เชื่อว่านางจะดีได้”
เซียวเหวินอวี๋แววตานิ่งขรึม แต่เขารู้ว่าลู่เจียวอยากให้เขาดีต่อเผยอวี่ ฮองเฮาเป็นบุตรีตระกูลเผย ตอนนี้เขาเพิ่งจะขึ้นครองราชย์ ต้องการการสนับสนุนจากเผยโส่วฝู่ ยามนี้เขาไม่ควรมีเรื่องกับเผยอวี่
เซียวเหวินอวี๋คิดไปก็พยักหน้าไป เอ่ยรับคำ “ท่านแม่วางใจ ข้ารู้หนักเบา”
เซียวเหวินอวี๋เพิ่งกล่าวจบ ด้านหลังก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เซียวเหวินอวี๋กับลู่เจียวหันไปมองพบว่าพระสนมซูเฟยหวังเมิ่งเหยานำคนเดินมา พอเห็นว่าเซียวเหวินอวี๋ก็อยู่ด้วย หวังเมิ่งเหยารีบถวายบังคมทันที “ถวายบังคมฝ่าบาท”
เซียวเหวินอวี๋โบกมือให้นางลุกขึ้น หวังเมิ่งเหยามองไปยังลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “ท่านน้าลู่จะออกจากวังแล้วหรือ”
ลู่เจียวยิ้มพลางพยักหน้า “อืม ว่าจะออกจากวังแล้ว”
หวังเมิ่งเหยารีบกล่าวว่า “ข้าว่าจะมาคุยเป็นเพื่อนท่านน้าลู่สักหน่อย”
“ที่บ้านมีงาน ไว้ค่อยเข้าวังมาเป็นแขกตำหนักเจ้า”
“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าไปส่งท่านน้าลู่เอง”
ลู่เจียวพยักหน้าเห็นด้วย หันไปมองเซียวเหวินอวี๋กล่าวว่า “ฝ่าบาทไปทรงงานเถิด”
เซียวเหวินอวี๋กำชับพระสนมซูเฟยให้ส่งลู่เจียวจนถึงประตู ส่วนตนเองนำคนกลับไป พระสนมซูเฟยหวังเมิ่งเหยาถามลู่เจียวอย่างห่วงใย “ฮองเฮาไม่เป็นอันใดกระมัง”
เซียวเหวินอวี๋ได้ยินหวังเมิ่งเหยาก็ชะงักฝีเท้า นึกถึงหวังเมิ่งเหยา เห็นอยู่ว่าแต่งก่อนเผยอวี่ แต่ถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เข้าหอ ไม่ยุติธรรมกับนาง ดังนั้นเรื่องเข้าหอควรจัดการได้แล้ว
เดิมเซียวเหวินอวี๋คิดรอให้เผยอวี่คลอดบุตรก่อน ค่อยแตะต้องสตรีอื่น แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่จำเป็นแล้ว ครุ่นคิดแล้วก็นำคนเดินไป
หวังเมิ่งเหยานั่งเกี้ยวไปส่งลู่เจียวออกจากตำหนัก บอกว่าไปส่งออกจากตำหนัก ความจริงไปส่งถึงหน้าประตู
ลู่เจียวมีวาจาคิดเอ่ยกับหวังเมิ่งเหยา ดังนั้นจึงลงจากเกี้ยวสั่งให้ขันทีนำเกี้ยวกลับไปก่อน
หวังเมิ่งเหยาเห็นลู่เจียวลงมา ทั้งสองคนจึงเดินไปคุยไปจนถึงหน้าประตูวัง
นางกำนัลกับขันทีต่างถอยห่างออกไป ลู่เจียวยื่นมือไปดึงมือหวังเมิ่งเหยามากุม
“เมิ่งเหยา วันหน้าเป็นเพื่อนฝ่าบาทให้มาก”
หวังเมิ่งเหยาหันไปมองลู่เจียว “ท่านน้าลู่ มีอันใดหรือ”
เรื่องเป็นเพื่อนฝ่าบาทไม่ควรเป็นเรื่องของฮองเฮาหรือ เหตุใดให้นางเป็นเพื่อนฝ่าบาท
ลู่เจียวถอนหายใจกล่าวว่า “ข้าสงสารฝ่าบาท แม้ว่าวันหน้าข้างกายเขาจะมีสตรีไม่น้อย แต่กลับไม่มีคนที่ทุ่มเทกายใจเพื่อเขาแท้จริง”
ลู่เจียวกล่าวจบมองไปยังหวังเมิ่งเหยา “ความจริงใจเมิ่งเหยาไม่ได้มอบให้แด่ฝ่าบาททั้งหมดกระมัง”
หวังเมิ่งเหยาอึ้งหันไปมองลู่เจียว เงียบไปครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นว่า “ท่านน้าลู่ ฝ่าบาททรงงามสง่าดุจมังกร ยังเป็นฮ่องเต้แคว้นต้าโจว เรื่องจะชอบฝ่าบาทเป็นเรื่องง่ายมาก แต่การชอบฮ่องเต้จะทำให้เจ็บปวด อย่าว่าแต่ชอบฮ่องเต้ การชอบผู้ชายธรรมดาสักคนก็เจ็บปวดมาก”
“ไม่เอ่ยถึงผู้ชายข้างนอกที่มีสามภรรยาเอกสี่อนุพวกนั้น แค่ตระกูลเรา ท่านพ่อข้ารับอนุเพียงหนึ่ง ท่านแม่ข้าเป็นคนออกหน้ารับให้ แต่แม้เช่นนี้ ท่านแม่ข้าก็ไม่เจ็บปวดใจหรือ แม้ว่านางไม่พูด แต่ข้าก็รู้ว่านางยังคงเจ็บปวด ตนเองอยู่บ้านดูแลสามีและลูก ปรนนิบัติบิดามารดาสามี ส่วนอนุกลับได้ติดตามสามี อนุไม่ใช่สิ่งของ นางเป็นคนเป็นๆ คนหนึ่ง อยู่กันนานวันก็ย่อมเกิดความผูกพัน”
“ก่อนหน้านี้ท่านพ่อข้าได้รับบาดเจ็บ กลับเมืองหลวงมารักษาตัว แม้ว่าอนุกับเขาภายนอกไม่เอ่ยอันใด กิริยาการกระทำล้วนดำรงตามธรรมเนียม ให้ความเคารพท่านแม่ข้าอย่างมาก แต่ตอนนางอยู่ร่วมกับท่านพ่อข้าก็สนิทใกล้ชิดกันอย่างมาก เป็นสิ่งที่ท่านแม่ข้ากับท่านพ่อข้าไม่มี ท่านแม่ข้าแอบร้องไห้เพราะเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง”
“ข้าเห็นแล้วในใจก็เจ็บปวดมาก แต่ไม่กล้าเอ่ยอันใด แต่นั้นมาข้าก็คิดออกบวช จะได้ไม่ต้องมีเรื่องร้อนใจ ต่อมารู้ว่าหากจะออกบวช ย่อมไม่อาจทำได้จริง ข้าจึงตัดสินใจว่าจะไม่ชอบผู้ใด เช่นนั้นก็จะไม่มีคนทำร้ายจิตใจข้าได้”
“ตอนนี้ข้าได้เป็นพระสนมฮ่องเต้แคว้นต้าโจว ก็ยิ่งไม่กล้าทุ่มเทใจชอบฝ่าบาท วันหน้าเขาจะมีสตรีมากมาย หากข้าทุ่มเทใจทั้งหมดชอบฝ่าบาท ชีวิตที่เหลือย่อมทุกข์ทรมานเจ็บปวดอย่างมาก”
หวังเมิ่งเหยากล่าวจบ ไม่รอให้ลู่เจียวเอ่ยต่อ ก็เอ่ยขึ้นอีกว่า “แม้ว่าข้าไม่ทุ่มเทใจทั้งหมดชอบฝ่าบาท แต่ข้ารับรองกับท่านน้าลู่ได้ว่า ข้าจะพยายามสุดความสามารถที่จะดูแลฝ่าบาท ท่านน้าลู่วางใจได้”
ลู่เจียวจะกล่าวอันใดได้ ได้แต่พยักหน้า “อืม ความจริงฝ่าบาทเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่อาจมีชีวิตคู่ที่จะอยู่ร่วมกันไปชั่วชีวิต ก่อนหน้านี้ตอนเขายังไม่ได้กลับเข้าวัง ตระกูลเรากำหนดไว้ว่าชายในตระกูลอายุสี่สิบไร้บุตรชายจึงจะรับอนุได้ ฝ่าบาทเองก็เห็นด้วย ตอนนี้เขารับพระสนมก็เป็นเรื่องจนปัญญา รอให้ราชสำนักแคว้นต้าโจวมั่นคงก่อน ฝ่าบาทก็น่าจะไม่รับพระสนมอีก ดังนั้นเจ้าอาจลองเปิดใจยอมรับฝ่าบาทดูได้”
หวังเมิ่งเหยาแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าฝ่าบาทถึงกับเคยคิดมีชีวิตคู่ที่จะอยู่ร่วมกันไปชั่วชีวิตเพียงนางเดียว
ลู่เจียวกล่าวต่ออีกว่า “เจ้าเข้าวังมาแล้ว ลองยอมรับฝ่าบาทดู ให้โอกาสตนเองสักครั้ง ไม่แน่ว่าอาจได้รับสุขใจอย่างคาดไม่ถึง สำหรับฝ่าบาทแล้ว ขอเพียงเจ้าทุ่มเทใจให้เขา เขาก็จะรักเจ้าได้เหนือกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้”
หวังเมิ่งเหยานิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ยามนี้ทั้งสองคนเดินถึงหน้าประตูวังแล้ว ลู่เจียวเอ่ยลาหวังเมิ่งเหยา ขึ้นรถม้าตระกูลเซี่ย สิ่งที่นางทำได้ก็มีเพียงแค่นี้เท่านั้นแล้ว
ในบรรดาลูกๆ ของนาง คนที่นางรักที่สุดก็คือซื่อเป่า แม้ว่าสูงศักดิ์ถึงฮ่องเต้แคว้นต้าโจว แต่กลับไม่ได้พบสตรีที่ทุ่มเทใจเพื่อเขาแท้จริง อยู่ในวังเงียบเหงา ไม่มีคนที่ทุ่มเทรักเขาแท้จริง ชีวิตอันยาวนานนี้ช่างยากจะทนรับไหวเสียจริง
เดิมลู่เจียวมองเผยอวี่ไว้ หวังว่านางกับฝ่าบาทจะร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ฮ่องเต้ฮองเฮาร่วมใจกันเป็นหนึ่ง เป็นเรื่องมงคลแห่งแคว้นต้าโจวและเรื่องมงคลของซื่อเป่า
แต่ผ่านมาหลายเรื่องเข้า ลู่เจียวก็นับว่ารู้จักนิสัยเผยอวี่แล้ว นางเห็นตระกูลเผยเป็นสำคัญยิ่งกว่า
นางเช่นนี้ไม่อาจได้รับความรักจากซื่อเป่า หากต้องการความรักและความชอบจากซื่อเป่า ต้องทุ่มเทใจรักเขาก่อน ก็เหมือนที่นางรักซื่อเป่า ซื่อเป่าก็รักนางมาตลอด
ซื่อเป่าเป็นคนที่ต้องได้รับก่อน ต้องการผู้อื่นยื่นความรักให้ก่อน จากนั้นก็เขาก็จะตอบแทน
ลู่เจียวเห็นว่าหวังเมิ่งเหยาไม่เลวอย่างมาก ดังนั้นจึงได้แนะนำนาง หากนางคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ได้รับความรักจากซื่อเป่าได้ ชีวิตที่เหลือย่อมต้องดีอย่างมาก
หน้าประตูวัง หวังเมิ่งเหยามองรถม้าที่ค่อยๆ แล่นห่างไป ค่อยๆ คิดใคร่ครวญ นางจะลองดูสักครั้งไหม
ปลายเดือนเจ็ด บัณฑิตแต่ละพื้นที่ต่างเดินทางเข้ามาเตรียมสอบในเมืองหลวง
ตอนบัณฑิตเดินทางเข้าเมืองหลวง เซียวเหวินอวี๋ก็มีราชโองการสองฉบับ เผยแพร่คำนวณศาสตร์แบบโจวและสวัสดิการหญิงหม้ายแต่งงานใหม่
พอราชโองการสองฉบับนี้ประกาศออกไป ก็เป็นที่กล่าวขานไปทั่ว