ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 816 กักบริเวณ
ตอนที่ 816 กักบริเวณ
ตำหนักคุนหนิงกง ฮองเฮาได้รับรายงานจากบ่าวเรื่องการลอบสังหารที่หลิงหยางกับชวนโจวล้มเหลว องค์ชายรองกับพวกเซี่ยอวิ๋นจิ่นและลู่เจียวพากันกลับเมืองหลวงมาแล้ว แม้ว่ามีคนได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีคนตาย ที่หนักหนาที่สุดก็คือองค์ชายรองกับลู่เจียวต่างจับตัวมือสังหารที่นางส่งไปได้
ฮองเฮาทั้งโมโหทั้งเป็นกังวล กำลังอาละวาดหนักอยู่ในตำหนักคุนหนิงกง แต่ไม่นานนางก็นึกถึงบุตรชายขึ้นมา รีบสั่งการให้คนไปแจ้งอ๋องจิ่น ให้ระยะนี้อ๋องจิ่นอย่าได้เข้าวัง
คำสั่งฮองเฮาเพิ่งจะสั่งการลงไป เซียวอวี้ก็มา
รอบกายเขาเปล่งรัศมีเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง แววตาดุดันจ้องมองฮองเฮา “หลี่อวิ๋นซาน เป็นถึงมารดาแห่งแคว้นต้าโจว เจ้าถึงกับโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ส่งคนไปสังหารองค์ชายรอง ยังส่งคนไปสังหารฮูหยินเซี่ย ที่ไปช่วยราษฎรชวนโจว เจ้าโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้อย่างไร”
ฮองเฮาจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร สีหน้าพลันตระหนกตกใจ มองเซียวอวี้น้ำตาคลอ “ฝ่าบาท ทรงหมายความเยี่ยงไร หม่อมฉันไม่ได้ส่งคนไปลอบสังหารองค์ชายรองกับฮูหยินเซี่ย ผู้ใดให้ร้ายหม่อมฉัน ขอฝ่าบาทโปรดตรวจสอบด้วยเพคะ”
ฮองเฮาลงคุกเข่า
เซียวอวี้เดินไปตรงหน้านาง แค่นหัวเราะใส่ทีหนึ่ง “หลี่อวิ๋นซาน เจ้าคิดว่าเราโง่จนให้เจ้าหลอกได้หรือ เจ้าต้องการให้เราไปสืบความจริงจริงหรือ เจ้าคิดว่าแผนการของเจ้าไร้ช่องโหว่ หาจุดบกพร่องไม่ได้หรือ”
ฮองเฮานิ่งอึ้ง เซียวอวี้เดินมาถึงวันนี้ ไม่เพียงแต่เพราะเบื้องหลังมีจวนจ้าวกั๋วกงให้การสนับสนุน แต่เพราะเขาเองก็มีความสามารถ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่อาจล้มอ๋องจิ้นและเดินมาถึงตำแหน่งนี้ได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรหลี่อวิ๋นซานก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำเพคะ”
เซียวอวี้แค่นยิ้มเอ่ยว่า “คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะปากแข็งเยี่ยงนี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็จะส่งคนไปสืบความจริง ถึงตอนนั้นหากสืบหาหลักฐานได้ เราก็จะปลดตำแหน่งฮองเฮาเจ้า”
ฮองเฮาคิดไม่ถึงว่าเซียวอวี้ถึงกับจะปลดนางเช่นนี้ สีหน้านางพลันซีดเผือดหวาดกลัวอย่างมาก นางเงยหน้ามองเซียวอวี้ “ฝ่าบาท ทรงปลดตำแหน่งฮองเฮาของหม่อมฉันไม่ได้นะเพคะ หลายปีมานี้หม่อมฉันอดทนลำบากมากับพระองค์ พระองค์จะปลดหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ”
เซียวอวี้มองนางด้วยสีหน้าเย็นชา “เจ้าคิดว่าเจ้าเดินมากับเราถึงตำแหน่งนี้ เราก็จะต้องให้เจ้านั่งตำแหน่งฮองเฮาต่อไปหรือ ตำแหน่งฮองเฮาต้องเป็นผู้มีคุณธรรมและความสามารถ ไม่ใช่หญิงโหดเหี้ยมเช่นเจ้า ไม่เพียงแต่ลงมือกับขุนนางในราชสำนักและฮูหยินขุนนาง ยังถึงกับลงมือกับองค์ชายรอง”
เซียวอวี้ไม่เอ่ยถึงองค์ชายรองยังดี พอเอ่ยขึ้นมา หลี่อวิ๋นซานก็ทนไม่ไหวระเบิดขึ้นมาทันที ขอบตานางแดงก่ำ เงยหน้ามองเซียวอวี้ เอ่ยขึ้นด้วยความโมโหสุดขีดว่า “ฝ่าบาท เหตุใดในสายตาพระองค์จึงมีแต่องค์ชายรอง แต่ไรมาไม่เคยมีบุตรชายข้า บุตรชายข้าเติบโตมาภายใต้การเลี้ยงดูของฝ่าบาท ขยันหมั่นเพียรศึกษา คิดอยากให้ฝ่าบาททรงเห็นความพยายามของเขา แต่ฝ่าบาทไม่ทรงเคยคิดสนใจเรื่องเหล่านี้ ตอนนี้ยังเพราะองค์ชายรองกลับเข้าวังมาก็ยิ่งมองไม่เห็นเขา”
“เขาเป็นบุตรชายข้า สายพระโลหิตสายตรงแห่งราชวงศ์แคว้นต้าโจว ตามหลักฝ่าบาทควรพระราชทานตำแหน่งรัชทายาทแคว้นต้าโจวให้เขา ตอนนี้เขาเป็นเพียงแค่อ๋องจิ่นแห่งแคว้นต้าโจว อ๋องจิ่น…”
ฮองเฮาคิดถึงตำแหน่งบุตรชายก็ปวดใจ จ้องมองเซียวอวี้เขม็งด้วยขอบตายิ่งแดงก่ำ
เซียวอวี้มองลงมากล่าวว่า “นี่คือฮองเฮาที่อดีตฮ่องเต้ทรงเลือกให้เราหรือ จงหย่งโหวไม่ได้ความเสียจริง จึงได้อบรมฮองเฮาที่ใจคอคับแคบและโหดเหี้ยม มองการณ์แคบเช่นนี้ เจ้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งฮองเฮา”
เซียวอวี้กล่าวจบก็โมโห พลันคิดถึงหญิงผู้นั้นขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล นางเหมาะสมกับตำแหน่งฮองเฮา
แต่เซียวอวี้ก็สลัดความคิดนี้ทิ้งทันที หันมองไปยังฮองเฮา “เจ้าว่าเซียวเจินเป็นสายพระโลหิตสายตรงแห่งราชวงศ์แคว้นต้าโจว เราอยากขอถามเจ้า เราไม่ใช่สายพระโลหิตสายตรงแห่งราชวงศ์แคว้นต้าโจว หรือว่าเราไม่เหมาะกับตำแหน่งฮ่องเต้”
“แคว้นต้าโจวก่อตั้งมาร้อยกว่าปี ชนชั้นสูงศักดิ์และกลุ่มอำนาจอิทธิพลแผ่อิทธิพลอำนาจกันหยั่งลึกมาก หากคนฮ่องเต้ที่ขึ้นครองบัลลังก์ไร้ความสามารถ เจ้าคิดว่าจะรักษาแคว้นต้าโจวไว้ได้หรือ”
ขุนพลแคว้นต้าโจวกุมอำนาจกันหลายคน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงชนชั้นสูงศักดิ์ในเมืองหลวง คนเหล่านี้ล้วนต้องมีฮ่องเต้ทรงอำนาจมารับมือ
อย่าว่าแต่เซียวเจิน แม้แต่เขาเองก็รู้สึกไร้หนทางรับมือ ชนชั้นสูงศักดิ์ในราชสำนักทรงอิทธิพลมาก ต้องถ่วงสมดุลอำนาจ หากไม่ทันระวังอาจทำให้ชนชั้นสูงศักดิ์โต้กลับได้ หากปล่อยให้พวกเขาเติบโตต่อไป ช้าเร็วสักวันหนึ่งแคว้นต้าโจวก็คงเปลี่ยนแซ่ ดังนั้นเซียวอวี้จึงได้สั่งการส่งคนไปหลิงหยางตรวจสอบหาหลักฐานความผิดอ๋องผิงหลิง โชคดีสวรรค์คุ้มครองแคว้นต้าโจว อ๋องผิงหลิงถึงกับเพราะอายุมากและสิ้นใจลง
ซื่อจื่ออ๋องผิงหลิงก็เป็นพวกขี้ขลาดอ่อนแอ
ฮองเฮาได้ฟังเซียวอวี้ นี่ไม่ใช่กำลังบอกว่าบุตรชายของนางไร้ความสามารถหรือ
หลี่อวิ๋นซานไม่อาจยอมรับวาจานี้ได้ นางจ้องมองฮ่องเต้อย่างไม่ยอมแพ้ กล่าวว่า “หากฝ่าบาทอบรมสั่งสอนเจินเอ๋อร์ เจินเอ๋อร์จะต้องกลายเป็นคนที่มีความสามารถได้อย่างแน่นอนเพคะ”
เซียวอวี้ถอนหายใจ หากไม่มีองค์ชายรองเซียวเหวินอวี๋ เขาก็ได้แต่อบรมสั่งสอนเซียวเจิน แต่ตอนนี้มีเซียวเหวินอวี๋ที่เป็นดังหยกล้ำค่าอยู่ตรงหน้า เขาไม่มีใจคิดอบรมสั่งสอนเซียวเจินจริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดลับคมเซียวเจิน แต่พฤติกรรมเซียวเจินทำให้เขาผิดหวังจริงๆ
เช่นเรื่องครั้งนี้ เขาไม่เชื่อว่าเซียวเจินจะไม่มีส่วนร่วม เป็นถึงท่านอ๋อง ถึงกับใจคอคับแคบและโหดเหี้ยมเช่นนี้ ที่สำคัญที่สุดก็คือไร้จุดยืน ในฐานะอ๋องจิ่นแห่งแคว้นต้าโจว ยังกล้าร่วมมือกับอ๋องผิงหลิงเพื่อกำจัดน้องชายตนเอง คนเช่นนี้ไม่คู่ควรกับตำแหน่งรัชทายาท
หากเป็นเมื่อก่อนเซียวอวี้อาจยังคิดฝึกฝนลับคมให้เซียวเจิน คิดอยากดูว่าเซียวเจินจะมีความสามารถขึ้นครองราชย์หรือไม่ แต่เรื่องครั้งนี้ทำให้เซียวอวี้ไม่ได้มีใจคิดอบรมเซียวเจินอีกแล้ว แม้ว่าเรื่องครั้งนี้ไม่ได้ลงโทษฮองเฮากับเซียวเจินอย่างหนักและเปิดเผย แต่ในใจเซียวอวี้ก็เกิดกำแพงปิดกั้นเซียวเจินจากตำแหน่งว่าที่รัชทายาทแล้ว
เซียวอวี้คิดถึงเรื่องพวกนี้ขึ้นมา ก็ไม่ได้มีใจคิดคุยเรื่องพวกนี้กับฮองเฮาอีก เขาก้มลงมองฮองเฮา กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “จากนี้ไปเราจะกักบริเวณเจ้าให้อยู่แต่ในตำแหนักคุนหนิงกง ไม่มีราชโองการจากเรา ห้ามก้าวออกไปแม้แต่ก้าวเดียว การงานในวังมอบให้พระสนมซูเฟยจัดการ”
เซียวอวี้กล่าวจบก็หันหลังจากไป ฮองเฮาร้องไห้ส่งเสียงเรียกดังขึ้น “ฝ่าบาท”
เซียวอวี้หันมามองหลี่อวิ๋นซาน “ดีที่สุดเจ้าก็อยู่อย่างสงบหน่อย อย่าคิดว่าเราไม่กล้าปลดเจ้า หากเจ้ากล้าขัดประสงค์เราอีก เราก็ไม่ถือสาหากต้องปลดตำแหน่งฮองเฮาของเจ้า”
ฮองเฮาพูดไม่ออกแม้สักคำ พอฮ่องเต้เสด็จกลับไปแล้ว นางก็ลุกขึ้นยืนขว้างปาสิ่งของอย่างเสียสติ ระเบิดอารมณ์ดังขึ้น “เห็นอยู่ว่าเจินเอ๋อร์จึงจะเป็นบุตรชายเขา เขาถึงกับ ถึงกับลำเอียงเช่นนี้ ยังว่าเจินเอ๋อร์ไร้สามารถ เขาไม่มีความสามารถได้อย่างไรกัน หากไม่ใช่เจ้าเลือดชั่วนั่น เขาจะไม่มีความสามารถได้อย่างไรกัน”
ฮองเฮากล่าวจบก็ชะงักนิ่ง แววตาดำทะมึนมองออกไปด้านนอก นางไม่ออกไปก็ไม่มีหนทางจัดการ องค์ชายรองหรือ
หึ!
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังการประชุมราชสำนัก เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ขอเข้าเฝ้าเซียวอวี้ “ฝ่าบาท ฮูหยินกระหม่อมอยากเข้าวังมาดูอาการองค์ชายรอง ไม่ทราบว่าได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
เดิมเรื่องเรื่องนี้ต้องให้ลู่เจียวส่งสารไปทูลขอฮองเฮา แต่ฮองเฮาไม่ถูกกับลู่เจียว ดังนั้นลู่เจียวเป็นห่วงว่าฮองเฮาจะไม่ให้นางพบองค์ชายรอง จึงให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเลิกประชุมเช้าแล้วมาทูลถามฝ่าบาท ขอให้ฝ่าบาททรงอนุญาตให้นางเข้าวังมาดูอาการองค์ชายรอง
ครั้งนี้เซียวอวี้ไม่ได้ปฏิเสธ สาเหตุหลักก็เพราะเป็นห่วงสุขภาพองค์ชายรอง ลู่เจียวเข้าวังมาพอดีจะได้ตรวจอาการให้องค์ชายรองสักหน่อย
“อนุญาต”