ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 578 ความจริงปรากฏ
ตอนที่ 578 ความจริงปรากฏ
ลู่เจียวไม่ได้สนใจเนี่ยเยี่ยเจิน มองท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ข้ากำลังให้อาหารปลาอยู่ที่ริมสระปลาไน ชุนฮวาสาวใช้ท่านหญิงก็มาบอกข้าว่าท่านหญิงเหนื่อยแล้ว พักผ่อนอยู่ด้านใน นางว่าท่านหญิงอยากคุยกับข้า ให้นางพาข้าเข้าไป เพราะนางเป็นสาวใช้ท่านหญิง ดังนั้นข้าจึงตามนางไป ไม่คิดว่าในห้องคนที่รอข้าอยู่กลับเป็นคุณชายรองจวนอู่กั๋วกง เขาอยู่ในห้องจุดกำยานปลุกกำหนัด”
พอลู่เจียวกล่าว ทุกคนในที่นั้นล้วนเข้าใจ เห็นชัดว่าคุณชายรองจวนอู่กั๋วกงคิดวางอุบายลู่เหนียงจื่อ คิดทำลายชื่อเสียงความบริสุทธิ์นาง แต่เห็นสภาพตอนนี้เขาแล้ว น่าจะไม่ได้ทำให้ลู่เหนียงจื่อเสียชื่อเสียง ตนเองกลับแทบปางตาย
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ได้ฟังคำพูดลู่เจียว ไหนเลยจะยังไม่เข้าใจ เจ้าลูกเนรคุณนี่ลงมือกับลู่เจียวเพื่อหญิงผู้นั้น เห็นอยู่ว่าลู่เจียวช่วยชีวิตนางไว้ เขากลับจะทำให้คนเขาเสื่อมเสียชื่อเสียง
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่หันหน้าไปมองเนี่ยเยี่ยเจิน แววตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง นางค่อยๆ ย้ำทีละคำว่า “เนี่ยเยี่ยเจิน แต่นี้ไปเจ้าไม่ใช่บุตรชายข้าอีก และเจ้าก็ไม่ใช่คุณชายรองจวนอู่กั๋วกงอีก วันนี้ข้าขอขับไล่เจ้าออกจากจวนอู่กั๋วกงแทนบิดาเจ้า”
พอเนี่ยเยี่ยเจินได้ฟังก็ลนลาน ส่งเสียงร้องดังขึ้นว่า “ท่านแม่ อย่านะ ข้าไม่ได้คิดจะทำ แต่คุณหนูใหญ่จวนเฉิงเต๋อโหวมาหาข้า นางเป็นคนให้ข้าทำเช่นนี้ ก็เพื่อทำลายชื่อเสียงความบริสุทธิ์ลู่เหนียงจื่อ”
เนี่ยเยี่ยเจินกล่าวขึ้น ทุกคนโดยรอบต่างพากันส่งเสียงฮือฮาดังขึ้น แต่ละคนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“คุณหนูใหญ่จวนเฉิงเต๋อโหวไม่ใช่คุณหนูใหญ่หลินหรือ”
“นางอยู่ดีๆ ไปวางอุบายลู่เหนียงจื่อทำไมกัน”
“พวกนางมีความแค้นอันใดต่อกัน”
ฮูหยินเฉิงเต๋อโหวได้ฟังเนี่ยเยี่ยเจิน ความคิดแวบแรกก็รู้สึกคัดค้านขึ้นมาทันที นางก้าวออกมาตวาดอย่างโมโหว่า “คุณชายรองเนี่ย เจ้าอยู่ๆ มาสาดโคลนใส่บุตรสาวข้าทำไมกัน”
ตอนนี้เนี่ยเยี่ยเจินคิดแค่หาคนมารับผิดแทน ไม่เช่นนั้นเขาต้องถูกท่านแม่ขับไล่ออกจากตระกูลเนี่ยเป็นแน่
“ท่านให้บุตรสาวท่านออกมาตรงนี้ ถามว่าใช่นางบงการข้าให้ทำเช่นนี้หรือไม่”
ฮูหยินเฉิงเต๋อโหวหันไปมองหลินหรูเยว่ ออกคำสั่งว่า “เยว่เยว่ ออกมาบอกทุกคน เจ้าไม่ได้ทำเรื่องเช่นนี้”
สมองหลินหรูเยว่พลันอึงอลไปหมด ในใจสับสนอย่างมาก นางคิดไม่ถึงเลยว่าเนี่ยเยี่ยเจินไม่เพียงแต่ทำไม่สำเร็จ แต่ยังเปิดโปงนางต่อหน้าทุกคน นางจะยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร
สีหน้าหลินหรูเยว่เริ่มซีดเผือด แต่ยังฝืนหน้าก้าวออกมาปฏิเสธ “ข้าเปล่า ข้าไม่ได้บงการให้เจ้าทำเช่นนี้”
เนี่ยเยี่ยเจินกลัวจะถูกท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ขับออกจากจวนอู่กั๋วกง ดังนั้นพอเห็นว่าหลินหรูเยว่ไม่ยอมรับเรื่องนี้ ก็ตวาดเสียงดังขึ้นว่า “นังชั้นต่ำ เห็นอยู่ว่าเป็นเจ้าบงการข้าทำ ตอนนี้ถึงกับไม่ยอมรับ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้าจึงบงการให้ข้าทำเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องตาต้องใจเซี่ยจ้วงหยวนหรือ คิดให้ร้ายลู่เหนียงจื่อจนเสื่อมเสียชื่อเสียง ให้เซี่ยจ้วงหยวนหย่ากับนาง จากนั้นก็เจ้าก็จะแต่งกับเขาใช่ไหม”
ก่อนหน้านี้หลินหรูเยว่วางแผนให้เขาทำ เขาคิดอยู่นาน จึงเข้าใจเจตนาของหลินหรูเยว่
หลินหรูเยว่คิดไม่ถึงว่าเนี่ยเยี่ยเจินจะพูดความคิดนางออกมาต่อหน้าสาธารณชน สีหน้านางย่ำแย่อย่างยิ่ง ส่งเสียงกรีดร้องดัง “เจ้าเหลวไหล เจ้าอย่าได้กล่าววาจาเหลวไหล”
ทุกคนในที่นั้นพากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนได้ยินเรื่องเน่าเหม็นแห่งใต้หล้า
“สวรรค์ จริงหรือเท็จกัน คุณหนูใหญ่หลินต้องตาต้องใจเซี่ยจ้วงหยวน ดังนั้นจึงวางแผนให้ร้ายภรรยาเขา หญิงผู้นี้เสียสติไปแล้วหรือ เซี่ยจ้วงหยวนดีอย่างไร ไม่ใช่แค่หน้าตาดีหรือ หากว่ากันถึงสถานะก็ไม่มีสถานะ หากว่ากันถึงตำแหน่งก็ไม่มีตำแหน่ง ประเด็นคือเขามีภรรยาแล้ว และยังมีบุตรชายถึงสี่คน”
“ผู้ใดจะรู้ว่านางคิดเช่นไร อยู่ดีๆ ไปวางแผนจับเซี่ยจ้วงหยวนทำไมกัน”
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้นางเป็นคู่หมั้นอ๋องฉินน้อย ต่อมาล้มป่วยสูญเสียรูปโฉมจึงเอ่ยถอนหมั้น พวกเจ้าว่าเป็นไปได้ไหมว่านางต้องตาต้องใจเซี่ยจ้วงหยวน จากนั้นก็จงใจทำลายโฉมหน้าตนเอง”
รอบด้านล้วนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ฮูหยินเฉิงเต๋อโหวส่งเสียงตวาดดังด้วยสัญชาตญาณ “พวกเจ้าอย่ากล่าวเหลวไหล บุตรสาวข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้ นางไม่ใช่คนเช่นนี้”
ฮูหยินเฉิงเต๋อโหวหันไปมองหลินหรูเยว่ เห็นบุตรสาวสีหน้าลนลาน ในใจนางพลันเคร่งเครียดถึงขีดสุด นางยกมือทุบหลินหรูเยว่ทีหนึ่ง กล่าวกับนางว่า “เจ้ารีบบอกทุกคน เจ้าไม่ได้ต้องตาต้องใจเซี่ยจ้วงหยวน และไม่ได้วางอุบายภรรยาเขา”
หากไม่ล้างมลทินให้บุตรสาว ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงนางถูกทำลายสิ้น แม้แต่ชื่อเสียงจวนเฉิงเต๋อโหวเองก็ถูกทำลายสิ้นเช่นกัน
ตระกูลพวกเขาไม่อาจถูกทำลายเพราะบุตรสาวคนเดียว
ฮูหยินจวนเฉิงเต๋อโหวนึกเสียใจภายหลังแล้ว หากรู้ว่าบุตรสาวเป็นเช่นนี้ ตอนนั้นนางควรยืนยันให้นางแต่งเข้าจวนอ๋องฉิน
หลินหรูเยว่ย่อมรู้ความร้ายแรงของเรื่องนี้ รีบอ้าปากคิดอธิบาย น่าเสียดายลู่เจียวเร็วกว่านางก้าวหนี่ง เอ่ยขึ้นว่า “ข้าเชื่อคุณชายรองเนี่ย เรื่องนี้เป็นแผนของคุณหนูใหญ่จวนเฉิงเต๋อโหว ประการแรก คุณชายรองเนี่ยกับคุณหนูใหญ่หลินไร้ความแค้นต่อกัน อยู่ดีๆ เขาจะให้ร้ายคุณหนูใหญ่หลินเพื่ออันใด ประการที่สอง คุณชายรองเนี่ยไม่ได้ฉลาดถึงขั้นคิดวางกับดักนี้ออกมาได้ ดังนั้นเบื้องหลังเขาย่อมต้องมีคนบงการ และคุณหนูใหญ่หลินก็ไม่ได้ทำเช่นนี้เป็นครั้งแรกใช่ไหม”
ลู่เจียวหันขวับไปมองหลินหรูเยว่ “เมื่อก่อนคิดไม่เข้าใจ ตอนนี้ข้าเข้าใจหมดสิ้นแล้ว”
หลินหรูเยว่เห็นสีหน้าลู่เจียว ในใจก็เกิดความกลัวขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ฮูหยินเฉิงเต๋อโหวยิ่งว้าวุ่นใจ กลัวลู่เจียวกล่าวอันใดออกมา นางมองลู่เจียวด้วยแววตาขอร้องว่า “ลู่เหนียงจื่อ มีอันใดพวกเราคุยกันส่วนตัวได้หรือไม่”
นางรู้แล้วว่าบุตรสาวนางน่าจะไม่เพียงแค่ทำเรื่องนี้ หากลู่เหนียงจื่อพูดออกมา ชื่อเสียงบุตรสาวกับจวนเฉิงเต๋อโหวก็ถูกทำลายสิ้นแล้ว
น่าเสียดายฮูหยินเฉิงเต๋อโหวเพิ่งกล่าวจบ ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ที่คิดได้ว่า หากบุตรชายนางถูกหลินหรูเยว่บงการ ชื่อเสียงจวนอู่กั๋วกงนางก็ย่อมเสียไม่น้อยเช่นกัน เช่นนั้นจวนอู่กั๋วกงต้องถูกคนตำหนิว่าถึงกับอบรมบุตรชายเช่นนี้ เห็นอยู่ว่าคนเขาช่วยท่านแม่เขาไว้ เขาถึงกับลงมือกับนาง หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ขุนนางตรวจสอบย่อมต้องยื่นฎีกาต่อท่านโหวว่ามีความผิดที่อบรมบุตรไม่เข้มงวด
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่จึงกล่าวน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ให้นางพูด”นางกล่าวจบหันไปมองลู่เจียวพลางเสริมว่า “เจียวเจียว เจ้าเล่ามา วันนี้ข้าออกหน้าให้เจ้า”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เอ่ยปาก ฮูหยินขุนพลหวังกับฮูหยินซิ่งอันโหวก็รีบกล่าวว่า “เจียวเจียว ไม่ต้องกลัว เจ้าพูดมา พวกเราให้ความเป็นธรรมกับเจ้า”
ลู่เจียวก้มกายคำนับขอบคุณ จากนั้นก็นางหันหน้าไปมองหลินหรูเยว่ค่อยๆ เล่าว่า “หลายเดือนก่อน พวกเราเข้าเมืองหลวงมาเจอโจรปล้น ตอนนั้นคุณหนูใหญ่หลินส่งคนมาช่วยพวกเราไว้ ตอนนั้นพวกเรายังแปลกใจ เป็นถึงคุณหนูใหญ่จวนโหว ตกค่ำเหตุใดไม่พักโรงเตี๊ยม ไม่อยู่ในตัวเมือง กลับปรากฏตัวในสถานที่รกร้างได้ และยังส่งคนมาช่วยพวกเราไว้ได้พอดี”
“แต่ตอนนั้นพวกเราไม่ได้คิดมาก ในใจมีแต่ความซาบซึ้ง ครุ่นคิดว่าวันหน้าหากคุณหนูใหญ่หลินมีสิ่งใดต้องการให้พวกเราช่วย พวกเรายินดีช่วยสุดความสามารถ เดิมข้าคิดว่าด้วยสถานะคุณหนูหลิน พวกเราน่าจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อันใดต่อกัน ปรากฏว่าไม่เพียงแต่มีปฏิสัมพันธ์กัน คุณหนูใหญ่หลินยังมักปรากฏตัวในที่แปลกๆ ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเราอย่างน่าประหลาด”
“ครั้งก่อนท่านพี่ข้าสอบจ้วงหยวนได้ คุณหนูใหญ่หลินก็มาที่ห้องรับรองในร้านอาหารของพวกเราแสดงท่าทางคิดเอาใจบุตรชายข้า ไม่พูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ แค่เรื่องสองสาวใช้ในวันนี้ที่มาใกล้ข้าแล้วแสร้งวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่คู่ควรกับท่านพี่ข้า ยังว่าเมื่อวานท่านพี่ข้าแอบพบกับนาง บอกว่าข้ารู้ความก็ควรรีบสละตำแหน่งภรรยาจ้วงหยวน…”