ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 493 ประธานคุมสอบเมืองหนิงโจว
ตอนที่ 493 ประธานคุมสอบเมืองหนิงโจว
มือปราบจ้าวได้ยินเซี่ยอวิ๋นจิ่นเอ่ยถึงมารดาเขา ก็รีบเล่าอย่างนอบน้อมว่า “คุณหนูใหญ่เป็นหญิงฉลาดมาก และยังเป็นเจ้านายที่มีเมตตา แต่ชะตาชีวิตไม่ดีนัก ตอนนางแปดขวบ ฮูหยินคลอดน้องชายนางแล้วก็จากไปเพราะคลอดยาก ปีถัดมาท่านอ๋องก็แต่งพระชายาเอกใหม่ คุณหนูใหญ่เป็นห่วงน้องชายตนเองจะโดนแม่เลี้ยงรังแก ดังนั้นจึงดูแลน้องชายวัยเยาว์ด้วยตนเอง”
“เพราะเป็นห่วงคุณชายที่ต้องอยู่ในจวน นางจึงไม่ยอมออกเรือน จนอายุยี่สิบจึงได้ยอมแต่งกับซื่อจื่อ จวนอ๋องฉิน”
“ตอนนั้นซื่อจื่อเคยแต่งภรรยามาคนหนึ่ง แต่ก็มาป่วยจากไป ต่อมาได้พบคุณหนูในงานชมบุปผา ก็รู้สึกชอบคุณหนูมาก จึงได้มาขอแต่งงานคุณหนูถึงจวน”
“ซื่อจื่ออายุมากกว่าคุณหนูถึงสิบเก้าปี แต่มีความตั้งใจมาขอคุณหนูด้วยความจริงใจ และยังรับปากว่าจะขับไล่อนุในจวนทั้งหมดออกไป สุดท้ายคุณหนูก็ตกลงยอมแต่งกับซื่อจื่อ”
“นางแต่งเข้าจวนอ๋องฉินแล้ว ซื่อจื่อก็ทำตามสัญญา ขับไล่อนุในจวนออกไปหมด ต่อมาคุณหนูตั้งครรภ์ให้กำเนิดบุตรสาวสองครรภ์ ก่อนจะมาครรภ์ที่สามจึงได้ตั้งครรภ์บุตรชาย ตอนนั้นคุณหนูไม่รู้ว่าอ๋องฉินต้องห้ามเรื่องครรภ์แฝด ดังนั้นทุกวันก็เบิกบานใจ จนกระทั่งพบว่าคนจวนอ๋องฉินผิดปกติ นางก็ให้ข้าน้อยไปสืบความ พอนางรู้ว่าเรื่องครรภ์แฝดเป็นเรื่องต้องห้ามในจวนอ๋องฉิน ก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมา”
มือปราบจ้าวกล่าวถึงตรงนี้ก็เงียบงันไป สีหน้าเจ็บปวดใจมาก
ในห้องก็พลันเงียบลง เรื่องจากนี้ความจริงพวกเขารู้กันแล้ว
มารดาเซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นห่วงครรภ์แฝด วันทั้งวันล้วนไม่เบิกบานใจ สุดท้ายตกเลือดสิ้นใจในห้องคลอด
ขณะทุกคนกำลังเงียบงัน นอกประตู เฝิงจือก็ยกของกินเข้ามาทำลายความเงียบ
มือปราบจ้าวหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียงกล่าวว่า “คุณชาย คุณหนูรักท่านมาก”
เขากล่าวจบก็หันหลังออกไป
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเงียบงันไปครู่หนึ่งก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ แต่เล็กเขาอยากมีมารดาที่รักเขาสักคน ตอนนี้แม้ว่ามารดาเขาจากไปแล้ว แต่เขาได้รู้แล้วว่านางรักเขา แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันไปมองลู่เจียว กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “นางรักข้า”
“ใช่ ใต้หล้านี้มารดาไม่รักบุตรตนเองหาได้น้อยมาก”
น้อยมาก แต่ก็มีอย่างแน่นอน ตัวอย่างก็คือมารดาในร่างเดิมของเจ้าหนูน้อยทั้งสี่
เซี่ยอวิ๋นจิ่นอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย เขาสั่งการเฝิงจือยกของกินมา
“เจ้าหิวแย่เลย รีบกินอะไรสักหน่อย”
ลู่เจียวหิวมากจริงๆ พวกนางเร่งเดินทางมาตลอดทางเพื่อรีบนำหญ้าหลิงซีกลับมา ไม่ได้กินอะไรกันแม้แต่คำเดียว ตอนนี้รู้สึกหิวมาก รู้สึกตนเองกินวัวได้ทั้งตัว
“หิวมากจริง”
ลู่เจียวนั่งลงแล้วก็ไม่คุยกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นต่ออีก ยกชามอาหารขึ้นกินเอาๆ อย่างไม่สนภาพลักษณ์
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองภาพนางเช่นนี้ก็รู้สึกว่านางน่ารักมาก เขากินเป็นเพื่อนนางไปก็คอยเตือนให้นางกินช้าหน่อย อย่าได้ติดคอเอา
ลู่เจียวกินเสร็จ เดิมวางแผนอยู่เป็นเพื่อนเซี่ยอวิ๋นจิ่นต่อ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับยืนยันให้นางไปพักผ่อน
“รีบไปพักผ่อน ข้านอนทีเดียวสองคืน ตอนนี้ไม่รู้สึกง่วง เจ้ากลับไม่ได้นอนมาสองคืน รีบไปนอน เจ้าหนูน้อยทั้งสี่มอบให้ข้า”
ลู่เจียวคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เห็นด้วย “ก็ได้ ข้าไปนอนละ”
นางหันหลังออกไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังไม่รู้สึกง่วงสักนิด ครุ่นคิดเรื่องชาติกำเนิดตนเอง เขาค่อยๆ ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าวันหน้าเขาก็คือเซี่ยอวิ๋นจิ่นแห่งหมู่บ้านตระกูลเซี่ย ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับจวนอ๋องฉิน
วันรุ่งขึ้น คนไม่น้อยมาเยี่ยมเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่ตระกูลเซี่ย
เพราะก่อนหน้านี้ลู่เจียวให้คนปล่อยข่าวออกไป คนในอำเภอชิงเหอไม่น้อยรู้ว่าเซี่ยซิ่วไฉถูกคนปองร้ายจนหมดสติ ดังนั้นคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเซี่ยล้วนมาเยี่ยมเขา
พอเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่เป็นอันใดแล้ว ทุกคนก็โล่งอก
ปู่กับย่าของหลิวจื่อเหยียนข้างบ้านก็ประนมมือกล่าวว่า “สวรรค์คุ้มครอง ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรก็ดี ปีนี้เป็นปีสอบเซียงซื่อ อย่าได้เกิดเรื่องอันใด หากพลาดไป ก็ต้องรออีกสามปี”
หลูเหนียงจื่อพยักหน้ารับคำ “ด้วยความสามารถเซี่ยซิ่วไฉ การสอบเซียงซื่อปีนี้ย่อมต้องผ่านได้สบายมาก”
ตอนนี้หลูเหนียงจื่อยังไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของมือปราบจ้าวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น นางรู้แค่สามีนางมีแผนจะติดตามเซี่ยอวิ๋นจิ่น
เริ่มแรกหลูเหนียงจื่อไม่เห็นด้วย แต่ท่านพี่นางวิเคราะห์เซี่ยอวิ๋นจิ่นให้นางฟังแล้วว่าเขามีอนาคต ติดตามเขาวันหน้าก็จะไปได้ไกลกว่าอยู่แค่อำเภอชิงเหอมาก
และจะได้ขอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นให้คำแนะนำจ้าวหงบุตรชายพวกเขาได้ หากจ้าวหงสอบเป็นจวี่เหรินได้ราบรื่น นางก็เป็นมารดาจวี่เหริน
แม้สุดท้ายจ้าวหงสอบจิ้นซื่อไม่ผ่าน แต่เขาก็ขอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นช่วยมองหาตำแหน่งจู่ปู้หรือตำแหน่งรองนายอำเภอพวกนี้ให้ทำได้
คำพูดมือปราบจ้าวทำให้หลูเหนียงจื่อหวั่นไหวมาก ดังนั้นนางจึงไม่ห้ามสามีตนติดตามเซี่ยอวิ๋นจิ่น กลับกัน ตอนนี้นางหวังให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นก้าวหน้ายิ่งกว่าผู้ใด เซี่ยอวิ๋นจิ่นก้าวหน้า ท่านพี่นางกับบุตรชายนางก็จะพลอยได้ดีตามไปด้วย
ดังนั้นตอนนี้หลูเหนียงจื่อจึงกระตือรือร้นกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นและลู่เจียวมากกว่าเดิม
ในห้อง นอกจากเพื่อนบ้าน หันถง จ้าวหลิงเฟิงกับเจิ้งจื้อซิ่งก็อยู่ด้วย
ทุกคนเจ้าคำข้าคำ พูดกันจนไม่ได้คิดถึงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นผู้ป่วย ทุกคนคุยกันแล้วก็ขอตัวกลับ
ก่อนหลูเหนียงจื่อกลับ ก็นึกถึงเรื่องตาเฒ่าถงข้างบ้าน นางถามลู่เจียวว่า
“เจ้ารู้ไหม ตาเฒ่าถงข้างบ้านอยู่ ๆ ก็ป่วยตาย พวกเราต้องไปไว้อาลัย พวกเจ้าไปกันไหม”
ลู่เจียวไม่ได้เล่าถึงคนลอบทำร้ายเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่าก็คือตาเฒ่าถง
คนก็ตายไปแล้ว ก็ให้เขาตายมีเกียรติสักหน่อยก็แล้วกัน นับประสาอันใดกับการที่หากเรื่องตาเฒ่าถงลอบทำร้ายเซี่ยอวิ๋นจิ่นเปิดเผย ก็จะกระทบต่อการเปิดเผยชาติกำเนิดเซี่ยอวิ๋นจิ่น
ดังนั้นลู่เจียวได้ฟังหลูเหนียงจื่อก็รีบกล่าวว่า “ไป แต่ตอนเช้าไม่ได้ ต้องตอนบ่าย”
“ได้ เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันก่อน”
“ได้”
หลูเหนียงจื่อ ท่านปู่หลิว ท่านย่าหลิวก็พากันกลับไป พวกหันถงกับเจิ้งจื้อซิ่งก็ทยอยพากันกล่าวอำลากลับ จ้าวหลิงเฟิงอยู่เป็นคนสุดท้าย พอในห้องไม่มีคนอื่น เขาก็ควักกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากแขนเสื้อส่งให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น
“นี่คือสารจากเจ้านายให้คนส่งมา ประธานคุมสอบเซียงซื่อเมืองหนิงโจวปีนี้ก็คือมหาบัณฑิตหลิวหงเซิง เป็น อาจารย์ใหญ่สำนักศึกษาไป่ลู่ในเมืองหลวง ครั้งนี้รับพระบัญชาฝ่าบาทมาเมืองหนิงโจวเป็นประธานการสอบเซียงซื่อเมืองหนิงโจว”
“คนผู้นี้เป็นคนเข้มงวดจริงจังมาก ดังนั้นบทความเจ้าต้องเข้มงวดจริงจังสักหน่อย นี่คือบทความที่ปกติ มหาบัณฑิตหลิวหงเซิงเขียน เจ้าค่อย ๆ อ่านให้ดี จะได้เข้าใจคนผู้นี้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วแปลกใจ คิดไม่ถึงว่าอ๋องเยียนถึงกับมอบของเช่นนี้ให้เขา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรับน้ำใจอ๋องเยียน ดังนั้นเขามองจ้าวหลิงเฟิงกล่าวว่า “วานเจ้าช่วยกล่าวขอบคุณท่านอ๋องเยียนให้ข้าด้วย”
ข้อมูลเหล่านี้คนปกติไม่อาจได้มา อ๋องเยียนกลับได้มาและมอบมาถึงมือเขา
เช่นนั้นการสอบเซียงซื่อของเขาครั้งนี้ก็ยิ่งมีหวังสอบติดแล้ว
จ้าวหลิงเฟิงยิ้มกล่าวว่า “เจ้าก็สอบให้ดี เอาละ เจ้านายทำเช่นนี้ย่อมมีเหตุผล”
สาเหตุหลักก็คือคิดให้เขามารับใช้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า จ้าวหลิงเฟิงก็กล่าวอำลาจากไป