ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 454 เจ้ามันลูกเวรลูกกรรม
ตอนที่ 454 เจ้ามันลูกเวรลูกกรรม
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่พูด เซี่ยเหล่าเกินก็เริ่มรู้ความ เขามองหร่วนซื่อพลางตวาดว่า “เจ้ารีบไปซะ ที่นี่คือตระกูลเซี่ย ไม่เกี่ยวอันใดกับเจ้า”
เซี่ยเหล่าเกินกล่าวจบ ก็มองไปยังหร่วนหย่งน้าชายตระกูลหร่วนอย่างไม่เป็นมิตร ตวาดว่า “หร่วนหย่ง หากเจ้ายังไม่ยอมพาพี่สาวเจ้าไป ข้าก็จะไปแจ้งทางการ จำไว้ว่าตอนนี้ครอบครัวเจ้าไม่เกี่ยวข้องอันใดกับพวกเราแล้ว พวกเจ้ามาก่อเรื่องเช่นนี้ ข้าก็จะไปแจ้งทางการให้มาจับพวกเจ้า”
หร่วนหย่งพอได้ฟังก็ตกใจ หันไปมองหร่วนซื่อทันที “เช่นนั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ”
หร่วนซื่อไหนเลยจะยอมกลับไปรับกรรมอีก
นางหันหน้าไปร่ำไห้น้ำตานองมองคนตระกูลเซี่ยทั้งครอบครัว
“ข้าไม่ไป ข้าเป็นคนตระกูลเซี่ย ข้าจะอยู่ที่นี่”
นางกล่าวจบก็ล้มลงนั่งกับพื้นแผดเสียงร้องไห้ดังลั่น
“เซี่ยต้าเฉียง เจ้าตายไปแล้วหรือ ไม่รู้จักช่วยข้ากล่อมท่านพ่อเจ้า หรือว่าปกติท่านแม่ไม่ดีกับเจ้า”
เซี่ยต้าเฉียงหันไปตอกกลับหร่วนซื่อทันที “ที่ท่านแม่ชอบก็คือเจ้าสี่ ท่านควรไปขอเจ้าสี่ ไม่ใช่มาขอข้า”
หร่วนซื่อหันไปมองเซี่ยอวิ๋นหวา เซี่ยอวิ๋นหวารีบกล่าวว่า “ท่านแม่ ข้าอยากให้ท่านกลับมา แต่ท่านพ่อไม่ฟังข้า”
เซี่ยหลานรับคำต่อ “ท่านแม่ ข้าเองก็อยากให้ท่านกลับมา”
ท่านแม่กลับมา นางก็มีที่พึ่ง อีกอย่างเรื่องแต่งงานที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ของนางอีกสองสามวันก็จะแต่งแล้ว หากท่านแม่นางกลับมา ไม่แน่อาจจะเพิ่มสินออกเรือนให้นางอีกสักหน่อย
หร่วนซื่อได้ฟังคำเซี่ยอวิ๋นหวากับเซี่ยหลานก็หันไปมองเซี่ยเหล่าเกิน ร่ำไห้กล่าวว่า “เจ้าเห็นแล้วหรือยัง ลูกๆ ต้องการให้ข้ากลับมา พวกเขายังเด็ก ไม่อาจขาดมารดา”
ในครอบครัวนี้ คนที่เซี่ยเหล่าเกินรักที่สุดก็คือบุตรชายคนโต อันดับถัดมาก็คือเซี่ยอวิ๋นจิ่น เพราะเขาเชิดหน้าชูตาให้ตน อย่างไรเขาก็ใส่ใจความรู้สึกเซี่ยอวิ๋นจิ่น ส่วนลูกคนอื่นๆ เช่นเซี่ยอวิ๋นหวาหรือเซี่ยหลาน เขาไม่สนใจสักนิด
ยามนี้เขาได้ยินเซี่ยอวิ๋นหวากับเซี่ยหลานออกหน้าขอร้องแทนหร่วนซื่อก็หันไปมองฝาแฝดคู่นี้ด้วยสายตาดุดันทันที
“หากพวกเจ้ารักท่านแม่เจ้า ก็ไปอยู่กับนางที่บ้านตระกูลหร่วนได้ ตระกูลเซี่ยข้ารับรองพวกเจ้าสองพี่น้องไม่ไหว”
คำพูดเซี่ยเหล่าเกินทำเอาเซี่ยอวิ๋นหวากับเซี่ยหลานไม่กล้าส่งเสียงอันใดอีก
หร่วนซื่อได้ยินเซี่ยเหล่าเกินกล่าวเช่นนี้ ดวงตาก็แดงก่ำจ้องมองเซี่ยเหล่าเกินเขม็ง “เซี่ยเหล่าเกิน เจ้าใจร้ายเพียงนี้ ข้าแต่งกับเจ้าหลายปีมานี้ดีกับเจ้าไม่พอหรือ เจ้าถึงกับทำกับข้าเยี่ยงนี้”
นางกล่าวจบ ดวงตาสามเหลี่ยมก็หันขวับไปจ้องแม่หม้ายหวัง เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าวว่า “นางแพศยาหวัง ต้องเป็นเจ้า เป็นเจ้าที่ทำให้เขาเอาใจออกหากข้า ไม่ยอมให้ข้ากลับมา เจ้ามันนังชั้นต่ำ”
หร่วนซื่อพุ่งเข้าไปคิดตบตีแม่หม้ายหวัง
เซี่ยเหล่าเกินรีบลุกขึ้นมาขวางหร่วนซื่อ ผลักนางออก
“หร่วนซื่อ เจ้าไม่ใช่คนตระกูลเซี่ยข้าแล้ว รีบไสหัวไป หากไม่ไปอีก ข้าก็จะแจ้งทางการให้นายอำเภอจับเจ้าเข้าตะราง”
หร่วนซื่อถูกเซี่ยเหล่าเกินตวาดใส่ ก็ไม่กล้าเคลื่อนไหว นางเงยหน้าจ้องมองเซี่ยเหล่าเกินพร้อมกับแผดเสียงร้องไห้ดังลั่น
เซี่ยเหล่าเกินกลับไม่รู้สึกหวั่นไหว ที่สำคัญที่สุดก็คือตอนนี้หร่วนซื่อน่าเกลียดมาก เขามองแล้วก็รู้สึกขัดเคืองนัยน์ตา วันๆ พบเห็นแต่ใบหน้าแม่หม้ายหวัง พอมาเห็นหร่วนซื่อ เขาก็รู้สึกว่าทนรับไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย
หร่วนซื่อร้องไห้ได้ครู่หนึ่งก็เห็นเซี่ยเหล่าเกินไม่สนใจ นางรู้สึกผิดหวังอย่างที่สุด
สุดท้ายจึงได้คิดถึงเจ้าสามขึ้นมา หร่วนซื่อพลันหันหน้าไปจ้องเซี่ยอวิ๋นจิ่น
ในครอบครัวนี้ หากจะมีคนที่ทำให้เซี่ยเหล่าเกินเปลี่ยนความคิดได้ ก็มีเพียงเจ้าสามแล้ว
ยามนี้หร่วนซื่อนึกเสียใจภายหลังแล้วจริงๆ ที่เมื่อก่อนตนเองทำไม่ดีกับเจ้าสาม มองเจ้าสี่กับเจ้าห้าที่ไร้ประโยชน์แล้ว ตอนนั้นนางไม่ควรขับไล่เจ้าสามไป
หร่วนซื่อคิดพลางร้องไห้น้ำหูน้ำตาร่วงมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ขอร้องว่า “เจ้าสาม ช่วยแม่ขอร้องท่านพ่อเจ้า ให้แม่กลับมาได้หรือไม่”
“แม่รู้ว่าเมื่อก่อนไม่ดีกับเจ้า วันหน้าแม่จะไม่ทำตัวเหมือนเมื่อก่อนอีก ผ่านเรื่องราวเหล่านี้มา แม่รู้แล้วว่าเจ้าเป็นคนที่ดีที่สุดในตระกูลเซี่ย วันหน้าแม่จะดีกับเจ้า ดีกับเจ้าเพียงคนเดียว”
หร่วนซื่อทำเหมือนกับกำลังกล่อมเด็กน้อย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นรู้สึกน่าขัน เขาเลยวัยที่จะถูกนางหลอกแล้ว และเซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็รู้นิสัยหร่วนซื่อดี อย่าเห็นว่าตอนนี้นางยอมก้มหัวขอร้อง หากให้นางได้กลับมาตระกูลเซี่ยอีกครั้งจริงๆ ไม่รู้ว่าวันหน้าจะก่อเรื่องอันใดอีก ดังนั้นเซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงไม่ยอมให้หร่วนซื่อกลับตระกูลเซี่ย
แม้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ยอม แต่ภายนอกก็ยังแสร้งทำท่าทางพอเป็นพิธี เขาไม่อยากให้หญิงผู้นี้ทำให้คนอื่นว่าเขาไร้ความกตัญญู
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดแล้วก็หันไปมองเซี่ยเหล่าเกิน “ท่านพ่อคิดเช่นไร หากท่านพ่ออยากให้ท่านแม่กลับมา ข้าก็จะเห็นด้วย”
สีหน้าท่าทางราวกับลูกกตัญญู เซี่ยเหล่าเกินเห็นสีหน้าเขาเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกพอใจอย่างยิ่ง คนเป็นบุตรชายควรมีท่าทีเช่นนี้
เขาเงยหน้ายืดอดวางท่าบิดาผู้เข้มงวด
“ข้าเป็นประมุขตระกูลเซี่ย ข้าบอกว่าไม่ให้นางกลับมาก็ไม่ให้นางกลับมา”
เขากล่าวจบก็มองเซี่ยอวิ๋นจิ่น กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เจ้าสาม พ่อรู้เจ้าเป็นลูกกตัญญู แต่ตอนนี้นางไม่ใช่มารดาเจ้าแล้ว เจ้าอย่าได้เสียใจเกินไป นางถูกพ่อหย่าแล้ว ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลเซี่ยอีกแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังเซี่ยเหล่าเกิน ก็ถอนหายใจอย่างแรง หันไปมองหร่วนซื่อด้วยสีหน้าจนใจยิ่ง
“ท่านแม่ ท่านก็เห็นแล้ว ท่านพ่อไม่เห็นด้วย”
หร่วนซื่อได้ฟังวาจาเซี่ยอวิ๋นจิ่น ก็จ้องเขาเขม็ง
ผู้อื่นไม่เข้าใจ แต่นางเป็นภรรยาแต่งเซี่ยเหล่าเกิน ไฉนเลยจะไม่รู้นิสัยเขา เขาเป็นคนกลัวไม้แข็ง หากกล่าวว่าผู้ใดในตระกูลเซี่ยที่จะจัดการเซี่ยเหล่าเกิน ก็ย่อมต้องเป็นเจ้าสาม แต่ท่าทีเจ้าสามเช่นนี้ เห็นชัดว่าไม่อยากให้นางกลับตระกูลเซี่ย
ในที่สุดหร่วนซื่อก็เดือดดาลขึ้นมาทันที แผดเสียงแหลมด่าทอเซี่ยอวิ๋นจิ่นขึ้นมาทันที
“เซี่ยซานโก่ว เจ้าลูกเวรลูกกรรม ข้ารู้ว่าเจ้าโทษข้าที่หลายปีมานี้ข้าไม่ดีกับเจ้า แต่เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าไม่ดีกับเจ้า เจ้าเป็นลูกเวรลูกกรรม ใช่ เจ้าเป็นลูกเวรลูกกรรม ข้าจำได้ว่าตอนนั้นข้าคลอดบุตรสาว อยู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นบุตรชาย”
“ต่อมาข้าคิดทำให้เจ้าหิวตาย ปรากฏเจ้ากลับไม่ตาย เจ้าไม่ใช่ลูกเวรลูกกรรมแล้วจะเป็นอันใด”
นางกล่าวจบก็หันไปตะโกนใส่เซี่ยเหล่าเกินว่า “นี่ไม่ใช่บุตรชายเจ้า ก็ไม่รู้ว่าลูกเวรลูกกรรมมาจากที่ใด ตอนนั้นข้าคลอดบุตรสาว ไม่ใช่บุตรชาย”
คนตระกูลเซี่ยไม่มีทางเชื่อคำพูดหร่วนซื่อ เพราะแม้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นหน้าตาดีไม่เหมือนเซี่ยเหล่าเกินและไม่เหมือนหร่วนซื่อ แต่เขาเหมือนท่านปู่ที่จากไปของพวกเขา
คนที่เหมือนกันข้ามรุ่นในหมู่บ้านก็มีให้เห็นมากมาย
เซี่ยเหล่าเกินรู้สึกว่าหร่วนซื่อเสียสติไปแล้ว เขาโมโหถลึงตาใส่น้องชายหร่วนซื่อ “เจ้ายังไม่พานังบ้านี่ไปอีก หากไม่ไป ข้าจะไปที่ว่าการอำเภอแจ้งความเอาผิดพวกเจ้าแล้วนะ”
เซี่ยเหล่าเกินกล่าวจบก็เรียกเซี่ยต้าเฉียง “เจ้าให้คนรีบไปแจ้งทางการ ข้าอยากดูนักว่าคนบ้านตระกูล หร่วนไม่กลัวตายจริงหรือ”
หร่วนหย่งตกใจ รีบวิ่งไปคว้ามือหร่วนซื่อ “พวกเรารีบกลับกันเถอะ”