คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 75 ทานอิ่มแล้ว ก็ออกไปซะ
ตอนที่ 75 ทานอิ่มแล้ว ก็ออกไปซะ
ฉู่ลั่วหานกลับไปที่โรงพยาบาล ยังดีที่ไม่สาย
เปลี่ยนเสื้อคลุมขาวไปตรวจ ก่อนเข้าห้องปฏิบัติการก็เห็นคนนั่งต่อแถวถือฟอร์มลงทะเบียนเต็มห้องโถงใหญ่
สิบนาทีก่อนเธอยังคลุมเครือกับหลงเซียวหนุ่มผมทองในคฤหาสน์หรู ตอนนี้ผสมไปด้วยกลิ่นฉุนในห้องโถงสำหรับรอ
ในใจเต็มไปด้วยอารมณ์มากมายชั่วขณะหนึ่ง
และไม่รู้ว่าตอนนี้หลงเซียวกำลังทำอะไรอยู่ อยู่เป็นเพื่อนเธอที่บ้าน? หรือไปบริษัท?
“คุณหมอ ฉันเจ็บหน้าอกมาครึ่งเดือนแล้ว……”
คนไข้บรรยายอาการดึงความคิดของฉู่ลั่วหานกลับมา ฉู่ลั่วหานพยักหน้า “การวินิจฉัยเบื้องต้นคืออาการแน่นหน้าอกเมื่อเหนื่อยล้า เดี๋ยวเอาแผ่นทดสอบไปที่ห้องCTเพื่อถ่ายฟิล์ม……”
พอเริ่มทำงาน ฉู่ลั่วหานก็จมอยู่กับความวุ่นวาย
ตอนเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว คนไข้มาตลอดเลยไม่มีเวลาเอาไปคิดเรื่องอื่น สิบสองนาฬิกาแล้ว แพทย์ที่นั่งตรวจเลิกงานพร้อมกัน
พอฉู่ลั่วหานเงยศีรษะขึ้น ยังมีผู้ป่วยหลายรายอยู่นอกประตู พูดว่ามาจากที่ห่างไกล อยากจะตรวจกับคุณหมอฉู่
“เข้ามาสิคะ”
ฉู่ลั่วหานตัดสินใจทำงานล่วงเวลา
วินิจฉัยผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจรายสุดท้าย ฉู่ลั่วหานปวดท้องกะทันหัน กดกำปั้นแรงๆ บนท้อง แค่ไม่ได้กินอาหารเช้า แน่นหน้าอกขนาดนี้เลยเหรอ?
แต่ไม่เพียงแค่ไม่ได้ทานอาหาร แต่ยังโกรธด้วย
ฉู่ลั่วหานเดินออกมาจากห้องปฏิบัติการ ห้องปฏิบัติการแผนกโรคหัวใจปิดหมดแล้ว ห้องโถงสำหรับรอก็ว่างเปล่า สอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมสีขาว ฉู่ลั่วหานแตะมันและเตรียมคืนกุญแจให้กับถังจิ้นเหยียน
หาเวลาอื่นมาคืนกุญแจดีไหม? หรือว่าตอนบังเอิญเจอค่อยคืน ถ้าตั้งใจเอากุญแจไปคืนก็กลัวเขาจะคิดเยอะ และเธอก็ไม่อยากให้ความหวังแก่ถังจิ้นเหยียน
เดินไปที่โรงอาหารพนักงาน ด้านในยังมีคนเยอะ ฉู่ลั่วหานได้อาหารแล้วก็ถือจานไปหาที่นั่ง ที่นั่งรอบๆ มีคนนั่งหนึ่งถึงสองคน นั่งลงไปที่นั่งใกล้ๆ มีแพทย์สองคนกำลังนั่งทานอาหารอยู่ฝั่งตรงข้าม
เห็นฉู่ลั่วหานนั่ง ทั้งคู่ก็ถือจานเดินออกไป ยังกระซิบอีกว่า “เธอเป็นเมียน้อย ตอนนี้โรงพยาบาลไม่ให้พูด แต่เรื่องแบบนี้ยิ่งไม่ให้พูดก็ยิ่งน่าเคลือบแคลง โชคร้ายจริงๆ!”
ฉู่ลั่วหานกำตะเกียบแน่น คีบผักใบเขียวเข้าปากช้าๆ เธอคิดว่ามันจะหายไปหมดแล้ว ไม่คิดว่าคำวิจารณ์และการสบประมาทยังอยู่ในใจพวกเขา
เฮอะ ใครจะช่วยเธอล่ะ? ใครจะไปหยุดปากพวกเขา?
“โอ๊ย นี่มันหมอที่เป็นเมียน้อยโด่งดังของเราไม่ใช่เหรอ? หมอฉู่ลั่วหานที่เป็นหน้าเป็นตาของแผนกโรคหัวใจ จึ๊ๆๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะรู้สึกว่าเป็นคนน่าสมเพชยังไงไม่รู้?”
ยังไม่เห็นร่างนั้น แต่ฟังจากน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแยกออกว่าเป็นซุนเจียลี่ความล้มเหลวในการผ่าตัดยิ่งทำให้ความเกลียดชังที่มีอยู่นั้นมากขึ้นไปอีก เธอจงใจเพิ่มเสียงของเธอเป็นสองเท่าต่อหน้าผู้คนที่ทานอาหารอยู่
ทันใดนั้นทุกคนก็จ้องไปที่ฉู่ลั่วหาน แทบจะมองทะลุร่างกายเธอ โรงพยาบาลใหญ่มาก หลายคนไม่รู้จักฉู่ลั่วหาน ในที่สุดวันนี้ก็ได้เห็นตัวจริงของนางเอกในข่าว
เสียงพูดคุยดังต่อเนื่องเป็นระลอก พูดไม่น่าฟังยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ฉู่ลั่วหานกลั้นความโกรธเอาไว้ พูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ทักษะการแพทย์ไม่ดีก็สามารถเรียนรู้ได้ แต่จิตใจไม่ซื่อตรง ครูจะดีแค่ไหนก็ช่วยอะไรไม่ได้”
ซุนเจียลี่กัดฟันกรอดและกระแทกกล่องอาหารลงบนโต๊ะดัง “ปัง” น้ำซุปกระเด็นออกมาไม่น้อย เหนียวติดบนชุดลำลองของฉู่ลั่วหาน ชุดลำลองสีขาวมีคราบน้ำมันสีเหลืองมากมาย
“คนเป็นเมียน้อยมีจิตใจซื่อตรงงั้นเหรอ? ฮ่าๆ นี่กำลังพูดถึงตัวเองน่ะสิ! ฉู่ลั่วหาน ปกติทำตัวเย็นชาเคร่งขรึมใครเห็นก็กลัว แต่จริงๆ ซ่อนความต่ำช้าเอาไว้!”
“เธอพูดจบหรือยัง! หุบปากซะ”
ฉู่ลั่วหานเงยศีรษะจ้องซุนเจียลี่อย่างโกรธเคือง นิ้วเธอขาวซีดเพราะออกแรงมากเกินไป ริมฝีปากบางก็ซีดเซียวเล็กน้อย เธอเหนื่อยมาทั้งเช้าแล้ว ตอนนี้ไม่อยากคุยกับใคร
“หมอซุน ทุกคนมีความเป็นส่วนตัว ทำไมต้องเปิดเผยในที่สาธารณะ?”
เกาหยิ่งจือ? ช่างบังเอิญจริง!
“ใช่ รองผู้อำนวยการเกา เมื่อกี้ฉันกลั้นไม่ได้” ซุนเจียลี่แสร้งทำเป็นขอโทษ ซึ่งในความเป็นจริงก็ได้ตราหน้าว่าฉู่ลั่วหานเป็นเมียน้อยแล้ว
เกาหยิ่งจือแสดงท่าทางปกป้องฉู่ลั่วหาน พูดกับคนรอบๆ “มองอะไร? แยกย้ายกันไป ไม่อนุญาตให้หมอมีเรื่องส่วนตัวเหรอ?”
เธอพูดแบบนี้ คนรอบข้างก็เอามือปิดปากแค่นหัวเราะ
ฉู่ลั่วหานค่อยๆ เงยศีรษะขึ้นมองดวงตาเย้ยหยันของเธอ “รองผู้อำนวยการเกา หมายความว่าไง?”
เกาหยิ่งจือโน้มตัว กวาดตามองคราบน้ำมันบนตัวเธอด้วยใบหน้าดูถูก “เธอไม่ต้องเสแสร้งต่อหน้าฉัน ความสัมพันธ์ของเธอกับหลงเซียวไม่เหมาะกันเลย ทำไม นอกจากเมียน้อยแล้วจะเป็นอะไรได้อีก? แฟนตัวจริงของเขาก็คือโม่หรูเฟย”
ฉู่ลั่วหานแทบเอ่ยคำว่า “ภรรยา” ออกมา แต่คิดๆ แล้วโวยวายจนเป็นแบบนี้ จะอธิบายไปทำไมอีก? ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวก็หย่าแล้ว ยิ่งคนรู้มากขึ้น เธอก็จะเสียเปรียบมากขึ้นหลังหย่าร้าง
ฉู่ลั่วหานทำเสียงฮึดฮัด “จะคิดยังไงก็แล้วแต่”
พูดจบเธอก็ลุกขึ้นก้าวเท้ายาวออกไป เดินผ่านซุนเจียลี่ตรงไปข้างหน้า
ซุนเจียลี่มองเกาหยิ่งจือ เข้าใจกันโดยปริยาย จากนั้นก็ตะโกนอย่างรุนแรง “ยังไงก็ขอเตือนเธอไว้เลย เป็นเมียน้อยก็ต้องมีสติหน่อยนะ ในเมื่อมีผู้มีพระคุณอย่างหลงเซียวแล้ว ก็อย่าจ้องรองคณบดีถังอีก รองคณบดีถังไม่ชอบผู้หญิงสกปรกอย่างเธอหรอก อย่าทำลายชื่อเสียงของเขา!”
“หมอซุน ชื่อเสียงของฉัน ต้องการคุณปกป้องตั้งแต่เมื่อไร?”
เสียงสง่างามของผู้ชายไหลผ่านกระแสน้ำขุ่นมา เหมือนสายลมโชยมาจากประตูทางเข้าโรงอาหาร ไม่ได้คำรามและตะโกน แต่เต็มไปด้วยพลัง
การมาของถังจิ้นเหยียนทำให้ทุกคนในโรงอาหารปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอะไร
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างสูงใหญ่ของถังจิ้นเหยียนก็ยืนข้างๆ ฉู่ลั่วหาน สายตามองคราบน้ำมันบนร่างกายเธอ สายตาก็หันไปมองซุนเจียลี่อย่างไม่พอใจ “หมอซุน อีกหนึ่งชั่วโมงมาหาฉันที่ห้องทำงานด้วย”
ใบหน้าซุนเจียลี่มีความรู้สึกหลากหลาย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการเชิญโดยลำพัง แต่เห็นสีหน้าของถังจิ้นเหยียนแล้วไม่น่าเป็นเรื่องที่ดี “รองคณบดี ถามได้ไหมคะว่าเรื่องอะไร?”
ถังจิ้นเหยียนทำหน้าเย็นชา เขาที่เป็นสุภาพบุรุษ ช่วงนี้เห็นฉู่ลั่วหานถูกรังแกบ่อยๆ ใบหน้าก็เริ่มคุ้นเคยกับความเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ “คนไข้เกือบตายในมือของเธอ เธอคิดว่าเป็นเรื่องอะไรล่ะ?”
ซุนเจียลี่หน้าซีดลงทันที เธอมองเกาหยิ่งจืออย่างขอความช่วยเหลือ แต่เธอทำเหมือนไม่รู้จักเธอ พูดขึ้นเรียบๆ “เรื่องราวต้องมีคำอธิบาย เธอเป็นผู้รับผิดชอบ มันก็สมควร”
“แต่……”
“ในเมื่อหมอซุนกินอิ่มแล้ว ยังไม่ไปอีก?”
เกาหยิ่งจือส่งซุนเจียลี่ไป แล้วเดินไปตรงหน้าทั้งคู่ “รองคณบดี ในโรงพยาบาลมีการวิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณหมอฉู่ คุณมาออกหน้าตอนนี้ ไม่ได้เป็นการสร้างปัญหาให้ตัวเองเหรอ?”
เกาหยิ่งจือพูดกับถังจิ้นเหยียน หวังว่าจะถูกเขามองเห็นมากขึ้น แต่สายตาของถังจิ้นเหยียนสนใจแค่คนเดียว “รองผู้อำนวยการเกา เรามีความสัมพันธ์อะไรเหรอ?”
เกาหยิ่งจือกดเสียงทุ้มทันที “รุ่นพี่ คุณหมอฉู่เป็น……ยังไงแล้วคุณก็ควรเว้นระยะห่างกับเธอดีกว่า อย่าไปยุ่งเลย”
ถังจิ้นเหยียนโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาตะเบ็งเสียงดังขึ้น เอ่ยเตือนโดยไม่สนสิ่งที่เธอเรียกว่าเจตนาดี “รองผู้อำนวยการเกาก็กินอิ่มแล้วใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วหานรู้สึกว่าเรื่องตลกนี้มันน่าเบื่อจริงๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันน่าสนใจไหม! เธอเหนื่อยแล้ว!
หลีกเลี่ยงจากทั้งสองคน ฉู่ลั่วหานพูดขึ้นทันที “สิ่งที่ผู้นำพูด ฉันไม่สะดวกฟัง ไปก่อนนะคะ”
รองเท้าส้นสูงเหยียบพื้นกระเบื้อง ฉู่ลั่วหานรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อเร็วๆ นี้มันน่าขยะแขยงเกินไป ทั้งทำในที่แจ้งและที่ลับ แต่ละอย่างที่เผยออกมา คิดจะทำอะไรก็พูดให้ละเอียดในที่แจ้ง! เล่นกลลวงอะไรกัน!
ทิ้งเกาหยิ่งจือไว้ ถังจิ้นเหยียนก็หันตัวเดินตามออกมา ตอนจากมาเห็นแววตาเกาหยิ่งจือ เย็นยะเยือกอย่างมาก
“คุณหมอฉู่”
ได้ยินดังนั้น ฉู่ลั่วหานก็หันตัวมา “รองคณบดี เมื่อกี้ขอบคุณนะคะ แต่รองผู้อำนวยการเกาก็พูดถูก เราไม่ควรติดต่อกันอีกจริงๆ นี่กุญแจค่ะ คืนให้คุณ”
ฉู่ลั่วหานรู้สึกเบื่อหน่าย ความทรมานวนลูปขัดเกลาความอดทนเธอทีละนิด และขัดเกลาความนับถือตนของเธอด้วย เธอแค่อยากรักษาอาการป่วยของคนไข้ เข้างานเลิกงานตามปกติ มันยากขนาดนั้นเชียวเหรอ!
ถังจิ้นเหยียนรับกุญแจและยิ้มอย่างอ่อนโยน “ฉันมาเพื่อบอกเธอว่าผู้บัญชาการซูที่ห้องVIPตื่นแล้ว เพื่อขอบคุณ เขาให้ฉันเป็นตัวแทน จัดงานเลี้ยงตอนกลางคืนให้หมอในแผนกอายุรกรรมและศัลยกรรมโรคหัวใจได้ผ่อนคลายกัน”
ฉู่ลั่วหานไม่สนใจ “รองคณบดีพาพวกเขาไปก็ได้ค่ะ ฉันไม่ไป”
“ไม่ได้นะ ฉันแค่รับผิดชอบในการกระจายข่าว ผู้บัญชาการซูเป็นเจ้าภาพ เธอไม่อยากไปต้องไปบอกเขาเอง”
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้ว เพื่อปฏิเสธงานเลี้ยงต้องไปรบกวนผู้ป่วยระดับสูงในห้องICUโดยเฉพาะ ดูเหมือนจะลำบากเกินไป “กี่โมง? ที่ไหนคะ?”
“KTV ริมแม่น้ำ ออกเดินทางด้วยกันตอนเย็น หลังเลิกงานออกไปนั่งรถกับทุกคนที่หน้าประตูก็ได้”
ฉู่ลั่วหานมองไปที่เสื้อผ้าสกปรกของตัวเอง ตอนกลางคืนใส่ชุดนี้ไปเหรอ?
ถังจิ้นเหยียนพูดขึ้น “ยังมีเวลา ไปซื้อเสื้อผ้า ก็ถือว่าให้ตัวเองผ่อนคลาย”
เอ่อ……ดูออกเลยเหรอ?
ในขณะนี้ ที่ตึกใหญ่สำนักงานMBK
“นี่มันไม่ง่ายเลย ในที่สุดธุรกิจใหญ่อสังหาริมทรัพย์ที่ยากที่สุดในเมืองเจียงเฉิงก็ทำสำเร็จ เจ้านาย ทุกคนทำงานล่วงเวลามาครึ่งเดือนสำหรับโปรเจคนี้ ตอนนี้เซ็นสัญญาแล้ว ต้องให้รางวัลหน่อยไหม?”
จี้ตงหมิงยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานหลงเซียว เมื่อครู่นี้สมาชิกทุกคนในทีมโครงการฝากให้มารับขอรางวัล ท่าทางจริงใจเหลือเกิน
หลงเซียวเปิดไฟล์และดูเอกสาร “จะให้โบนัสทุกคน จำนวนเงินจะขึ้นอยู่กับผลงานส่วนบุคคล เดี๋ยวฉันเซ็นชื่อ”
จี้ตงหมิงขมวดคิ้ว เจ้านายชอบใช้เงินฟาดหัว มันไม่จริงใจเท่าไร “เจ้านาย ถ้าให้โบนัสมันจะไม่เสริมการสร้างทีมสัมพันธ์ คุณว่าพาพวกเขาออกไปพักผ่อน ไปเที่ยวกันหน่อยดีไหม? ไม่มีกิจกรรมร่วมกันมาตั้งนานแล้ว”
หลงเซียวตอบอืม “งั้นให้การเงินให้กองทุนกิจกรรม เดี๋ยวฉันเซ็นชื่อ”
“……เจ้านาย การสร้างทีมสัมพันธ์ คุณมีส่วนร่วมเองจะดีกว่านะครับ มันจะได้เพิ่มกำลังใจและโปรเจคนี้มันก็ยากมาก คุณก็รู้……”
หลงเซียวขี้เกียจเงยศีรษะมองจี้ตงหมิง วันนี้เขาพูดมากจริงๆ
แต่อย่างไรก็ตามเขาก็เห็นด้วยเช่นกัน
ตอนกลางคืน KTVหรูหราที่สุดในเมืองหลวง
“ว้าว! สมแล้วที่เป็นผู้บัญชาการ ใจกว้างมาก ว่ากันว่าห้องส่วนตัวเพรสซิเดนท์ด้านในนั้นคืนหนึ่งบริโภคกันถึงเลขหกหลัก!”
“มีคนจ่ายให้ เราก็มีหน้าที่เที่ยวสิ!”
เป็นสถานบันเทิงอันดับต้นๆ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ มันอยู่ภายใต้ MBK เป็นทรัพย์สินส่วนตัวภายใต้ชื่อหลงเซียว