คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 72 ข้อความท่านเซียวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ตอนที่ 72 ข้อความท่านเซียวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ฉู่ลั่วหานถอดถุงมือ พยาบาลสวมอันใหม่ให้เธอ
ในห้องผ่าตัดถัดไป หัวใจผู้ป่วยเต้นช้าลง และกำลังจะหยุดเต้น !
“เกิดอะไรขึ้น?”
ฉู่ลั่วหานเข้าไป หมอหวังจ้องเขม็งซุนเจียลี่ ด่าเธออย่างไร้ความปรานี “ทักษะแบบนี้ยังกล้าเข้าห้องผ่าตัด! เอาชีวิตเป็นเรื่องเล่นๆ หรือไง! ออกไป!”
ซุนเจียลี่กัดฟันไม่พอใจ “หัวใจคนไข้เลือดออกไม่ใช่ความผิดฉัน ตัวเองฝีมือไม่ดีแล้วมาโทษฉัน!”
“ออกไป!” หมอหวังโกรธมาก ถ้าไม่ใช่กำลังผ่าตัดอยู่ เขาอยากจะเตะเธอให้ตาย
ฉู่ลั่วหานมาแทนที่ซุนเจียลี่ พูดขึ้นเรียบๆ “หมอหวัง ใจเย็นนะคะ เริ่มเลยไหม?”
“โอเค ดูด!”
“ซู้ด——”
ฝีมือที่คล่องแคล่ว ทำให้หมอหวังประหลาดใจ
“เธอ……” หมอหวังอยากถามว่าเธอคือใคร ฉู่ลั่วหานก็พูดทันที “หมอหวัง ยังไม่ถึงขั้นตอนสำคัญ โปรดทำต่อ”
“โอเค”
ไม่เทียบก็ไม่รู้ พอเทียบแล้วถึงได้พบว่า ความเร็วของหมอหวังนั้นแค่ครึ่งหนึ่งของถังจิ้นเหยียนเท่านั้น หมอหวังเป็นหน้าตาเป็นตาของแผนกศัลยแพทย์นะ! ดูเหมือนว่าในอนาคต……ต้องเปลี่ยนคนแล้ว
“เตรียม……พลิกหัวใจห้องบนซ้าย”
ฉู่ลั่วหานพลิกอย่างคุ้นเคยได้สำเร็จ อำนวยความสะดวกให้ทำขั้นตอนต่อไป
คราวนี้หมอหวังยิ่งตกใจ ทักษะนี้ มีประสบการณ์มาแล้วกี่ครั้งกัน?
การเข้ามาของฉู่ลั่วหาน ทำให้การผ่าตัดนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก หมอหวังยิ้ม “ขั้นตอนสุดท้ายให้คุณได้ไหม?”
“ได้แน่นอน”
“ลำบากคุณเลยคุณหมอฉู่”
หมอหวังเดินออกไปจากห้องผ่าตัด เห็นถังจิ้นเหยียนที่ผ่าตัดเสร็จตั้งนานแล้วนั่งอยู่ข้างนอก ยิ้มด้วยความจริงใจ “ไม่คิดว่าแผนกอายุรกรรมจะมีคนโดดเด่นขนาดนี้ รองคณบดี ไม่ทราบว่าให้หมอเมื่อกี้นี้สมัครเป็นผู้ช่วยคนแรกของฉัน เข้าทีมฉันได้ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนยิ้ม “ขอโทษด้วยครับ เธอมีทีมอยู่แล้ว”
ความร่วมมือที่สมบูรณ์แบบระหว่างพวกเขาเป็นไปอย่างธรรมชาติ แค่ฉู่ลั่วหานเต็มใจ เธอก็ย้ายไปที่แผนกศัลยแพทย์ได้ทันที
หมอหวังขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้น “ส่วนซุนเจียลี่คนนั้น ฉันคิดไม่ออกเลยว่าเธอได้ตำแหน่งศาสตราจารย์มาได้ยังไง! เฮ้อ! ต่อไปอยู่ห่างๆ กับคนที่ทำอะไรเกินความสามารถตัวเองดีกว่า”
ถังจิ้นเหยียนดวงตามืดมน ที่เลือกตอนนั้น เกาหยิ่งจือสนับสนุนซุนเจียลี่ทำไมมันแย่แบบนี้?
ฉู่ลั่วหานเย็บแผลคนไข้ มีฝีมือดีในการเย็บ ช่วงปีนี้เธอไม่ได้ฝีมือตกเลย เธอเกิดมาเพื่อเป็นศัลยแพทย์!
วิสัญญีแพทย์และนักเครื่องมือข้างๆ มองอย่างตกตะลึง
มีการดำเนินการผ่าตัดอีกสองครั้งติดต่อกัน ฉู่ลั่วหานเดินออกมาจากเตียงผ่าตัด ปวดร่างกายไปหมด ใบหน้าชุ่มเหงื่อ ใบหน้าซีดเซียว สิบสองชั่วโมงน่ะ……
ตอนออกมาจากห้องผ่าตัดหมายเลข 5 เป็นเวลาสี่ทุ่มครึ่ง การผ่าตัดอย่างต่อเนื่องบวกกับการนอนไม่หลับเมื่อคืน ฉู่ลั่วหานหน้าซีดเซียว
ถอดหน้ากากอนามัยออก เผยใบหน้าเล็กที่ไม่มีสีเลือดเลยสักนิด
“เธอเป็นไงบ้าง?”
ถังจิ้นเหยียนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นจับแขนเธอไว้ ฉู่ลั่วหานถอยไปหนึ่งก้าวเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต “ฉันไม่เป็นไรค่ะ รองคณบดีทำไมยังอยู่?”
“ฉันกำลังรอเพื่อนร่วมทีม”
ฉู่ลั่วหานหันศีรษะไปมองแพทย์สองสามคนที่ดันคนไข้ออกมา “อยู่ด้านในเหรอ?”
ถังจิ้นเหยียนส่ายศีรษะ “เธอออกมาแล้ว แค่ตัวเองไม่รู้”
ฉู่ลั่วหานเงียบไปชั่วขณะ “คุณหมายถึงฉันเหรอ? รองคณบดีผิดแล้ว ฉันเป็นคนของอายุรกรรม”
“อายุรกรรมและศัลยกรรมไม่ได้แบ่งแยกกัน ทักษะของเธอดีมาก เหมาะกับศัลยกรรม ฉันไม่ได้บังคับเธอนะ เธอลองคิดดูดีๆ เป็นผู้ช่วยฉันเถอะ บางทีเธออาจจะอยากผ่าตัดด้วยตัวเองในอนาคตก็ได้ ฉันจะสนับสนุน ช่วยเธออย่างเต็มที่”
การได้เรียนกับเขาเป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต แต่……
“ไม่ดีกว่า ต่อไปฉันไม่อยากจับมีดผ่าตัดอีกแล้ว ขอบคุณสำหรับความหวังดีของรองคณบดีมากๆ นะคะ”
ฉู่ลั่วหานลากร่างกายอันเหนื่อยล้าออกมา ถังจิ้นเหยียนเดินตามหลังเธออย่างไม่หลบเลี่ยง “เธอมีความสามารถเฉพาะตัวเธอๆทำไมไม่อยากล่ะ?”
คำชมเขาไม่มีความเห็นแก่ตัวเลยสักนิด ชื่นชมความสามารถของเธอจริงๆ มันทำให้เธอประทับใจมาก
“เพราะเขาเหรอ? สามี……ของเธอ?” ถังจิ้นเหยียนพูดสองคำนี้ออกมาด้วยความปวดร้าว
ใบหน้าฉู่ลั่วหานไม่มีการสั่นไหว “ชีวิตฉันไม่ได้หมุนรอบตัวเขา คุณไม่ต้องเดาหรอกค่ะ”
กลับมาถึงห้องทำงาน ไม่มีคนแล้ว ฉู่ลั่วหานนวดคิ้วพลางนั่งเก้าอี้ มองมือตัวเองอย่างเหม่อลอย มือขวาของตัวเอง กำลังสั่งเล็กน้อย โชคดีที่เธอกัดฟันแน่นระหว่างเย็บครั้งสุดท้าย
เหงื่อบนหน้าเมื่อครู่นี้ ส่วนมากเพราะเป็นความเจ็บปวดเหลือทนบนมือ แต่เธอจะไม่ให้เขารู้
เงียบมาหลายนาที เธอจับโทรศัพท์ หยิบมันขึ้นมา หลังจากเปิดเครื่องฉู่ลั่วหานก็ขมวดคิ้วแน่น
บนหน้าจอมีสายที่ไม่ได้รับยี่สิบกว่าสาย ทั้งหมดโทรมาจากหลงเซียว!
ปฏิกิริยาแรกคือไม่อยากจะเชื่อเลย ปฏิกิริยาที่สองคือกำลังฝันอยู่ใช่ไหม? ฉู่ลั่วหานถึงขั้นตบหน้าตัวเองหลายครั้งอย่างทึ่มๆ
เจ็บ……เรื่องจริงสินะ
นอกจากโทรแล้ว ยังมีหนึ่งข้อความ
สามปีแล้ว ข้อความเดียวที่หลงเซียวส่งมา นอนเงียบๆ บนหน้าว่างเปล่า
เขาโทรหาเธอมากกว่ายี่สิบครั้ง และส่งข้อความหาเธออย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“เห็นข้อความแล้วโทรกลับด้วย”
ฉู่ลั่วหานเห็นข้อความนี้ กระแสความอบอุ่นในใจของเธอปะทุขึ้นอย่างเงียบๆ ครู่หนึ่งเธอเกิดภาพลวงตาหลงตัวเองว่าหลงเซียวเป็นห่วงเธอ
เธอผ่าตัดอยู่นานมากติดต่อไม่ได้ เขาเครียดไหม?
ด้วยความคาดหวังนี้ ฉู่ลั่วหานเตรียมจะโทรกลับหลงเซียว แต่จะห้าทุ่มแล้ว โทรไปจะส่งผลกระทบต่อการนอนของเขาไหม?
ทำงานนอกสถานที่ต้องเหนื่อยมากแน่ๆ
แต่ฉู่ลั่วหานพบว่าตัวเองอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเขา กัดปาก โทรกลับ
เสียงปิ๊บยาวๆ เสียงดังขึ้นข้างหูหลายเท่า ยิ่งพูดต่อไปเรื่อยๆ ใจเธอก็ยิ่งเครียด ที่แปลกคือ ไม่มีใครรับโทรศัพท์
หลับแล้วจริงๆ เหรอ? ฉู่ลั่วหานรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย เตรียมวางสาย จู่ๆ ก็มีคนรับ เธอตื่นเต้นเกินไป คำที่ติดอยู่ลำคอตะโกนออกมา “หลง……”
เธอยังไม่ทันพูดชื่อหลงเซียวออกมา ในนั้นก็มีเสียงดังเข้ามา แต่เป็นเสียงแหลมคมของผู้หญิง ไม่ได้เป็นเสียงของหลงเซียวอยู่แล้ว
“ให้ตายสิ ดึกป่านนี้แล้วโทรมาทำไม?!”
โม่หรูเฟยรับโทรศัพท์ แต่เธอมีโทรศัพท์หลงเซียวได้อย่างไร หลงเซียวไปทำงานนอกสถานที่ยังไม่กลับบ้านไม่ใช่เหรอ? และดึกป่านนี้ โม่หรูเฟยมีโทรศัพท์ของเขา แสดงว่าวันนี้พวกเขาทั้งคู่นอนด้วยกันใช่ไหม?
“หลงเซียวล่ะ? เอาโทรศัพท์ให้เขา”
ฉู่ลั่วหานพยายามทำให้เสียงตัวเองปกติ ถึงแม้ตอนนี้เส้นเลือดทั้งร่างเธอจะแตกแล้วก็ตาม
เธอเสียใจที่ทำไมไม่เอาโทรศัพท์เข้าห้องผ่าตัดไป ตำหนิตัวเองทำไมไม่ได้ยินเสียงตอนที่เขาโทรมาตั้งหลายสายเลย
แต่เธอไม่ให้โม่หรูเฟยฟังความรู้สึกเธอออก
โม่หรูเฟยไม่ได้ยินความตกใจในน้ำเสียงของฉู่ลั่วหาน แค่นหัวเราะหนึ่งที เธอแสร้งทำเป็นหันไปทำน้ำเสียงแปลกๆ “พี่เซียวน่ะเหรอ ดึกป่านนี้แล้วก็ต้องหลับไปแล้วสิ ถ้าเธอมีธุระอะไรจะบอกเขา ฉันก็ไม่ถือสาที่จะบอกเขาให้”
เลียนแบบน้ำเสียงของเธอ ประชดเพิ่มเข้าไปอีก
เธอรอให้ฉู่ลั่วหานควบคุมตัวเองไม่ได้ เธออยากเห็นฉู่ลั่วหานเป็นบ้า หวังว่าเธอจะสบถออกมา แบบนี้เธอจะได้บันทึกเสียงเอาไว้ จะได้ฟังกับเขาตอนเหมาะสม วันที่ฉู่ลั่วหานออกไปจากตระกูลหลงยังจะไกลอีกไหม?
แต่ฉู่ลั่วหานไม่ได้ทำ จริงๆ แล้วเธอมีคำพูดมากมายที่ด่ากลับได้ แต่วันนี้เธอเหนื่อยเกินไป พูดหนึ่งประโยคอย่างขี้เกียจ “งั้นก็ให้เขานอนต่อไปเถอะ”
เธอพูดจบก็วางสายไปก่อน
วางโทรศัพท์ลง ฉู่ลั่วหานหัวเราะเยาะตัวเอง ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ที่หลงเซียวโทรหาเธอคงไม่ได้เป็นห่วงเธอหรอกมั้ง? ไม่อย่างนั้นจะมานอนข้างๆ เธออีกทำไม?
หลับตาลง ฉู่ลั่วหานเหนื่อยทั้งกายและใจ มือขวาสั่นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเจ็บแรงขึ้นเรื่อยๆ!
“อึก!”
ความรู้สึกเจ็บจี๊ดมาจากมือ วันนี้ทำงานหนักเกินไป ดูเหมือนจะทำให้เกิดการบาดเจ็บที่แผลเก่า ถ้ามันแย่ลง ไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมา
ฉู่ลั่วหานยกขาวิ่งยาวๆ ออกไป!
รีสอร์ทหยีจิ่ง ห้องรับแขก
โม่หรูเฟยฉวยโอกาสตอนที่หลงเซียวยังไม่มา รีบลบประวัติการโทรเข้าเมื่อครู่ จากนั้นก็วางโทรศัพท์ไว้ตำแหน่งเดิม
ห้องโถงใหญ่คฤหาสน์ตอนกลางคืน หลงเซียวลงมาจากห้องทำงานชั้นสอง โคมไฟระย้าคริสทัลส่องประกายระยิบระยับทำให้ห้องโถงใหญ่เหมือนปราสาทในยุคกลาง
ดังนั้นเมื่อร่างสูงใหญ่ของหลงเซียวลงมาชั้นล่าง ร่างกายก็ยิ่งเปล่งประกายแวววาว ความเท่ของเขา ไม่เพียงแต่ดูโดดเด่นเท่านั้น แต่มีความสูงส่งอย่างเป็นธรรมชาติ
โม่หรูเฟยลุกขึ้น มองหลงเซียวอย่างหลงใหล ฝ่ามือหดตัว ผู้ชายคนนี้ เธอต้องจับเขาไว้ให้ได้!
“พี่เซียว พี่ทำงานเสร็จแล้วเหรอ?”
โม่หรูเฟยยิ้มอ่อน อ่อนโยนราวกับคลื่นของน้ำพุ แค่รอให้เขาดื่มตามใจ
หลงเซียวตอบอย่างเกียจคร้าน “อืม”
โม่หรูเฟยรีบเดินไปหา สองมือโอบรอบแขนเขา “ในเมื่อทำงานเสร็จแล้ว งั้นเราไปพักผ่อนกันนะคะ ดึกแล้ว”
เมื่อครู่นี้หลงเซียวเตรียมจะไปพักผ่อน เห็นโม่หรูเฟย เขาก็ไล่ความง่วงออกไป เอามือเธอออกแล้วพูดขึ้น “ฉันยังมีธุระ เธอไปพักผ่อนเถอะ”
โม่หรูเฟยงอนอย่างน้อยใจ มือเล็กเรียวนุ่มค่อยๆ แตะหน้าอกเขา “พี่เซียว ฉันตั้งใจรอพี่เลยนะ พี่ไม่อยู่บ้านตั้งหลายวัน กว่าจะกลับมา ให้ฉันได้อยู่เป็นเพื่อนพี่คืนหนึ่งได้ไหม?”
หลงเซียวแกะมือเธอออก “เธอท้องอยู่ พักผ่อนเร็วหน่อย ไปนอนซะ”
“พี่เซียว……”
“ไปนอนซะ”
โม่หรูเฟยไม่กล้าฝืนอีกต่อไป ต้องตอบรับอย่างเชื่อฟัง “งั้นพี่เซียวก็พักผ่อนเร็วหน่อยนะ”
หลงเซียวนั่งโซฟาในห้องรับแขก หยิบโทรศัพท์ที่เมื่อครู่นี้ลืมไว้ที่นี่ เปิดออกมา หน้าจอไม่มีข้อความใดๆ
เขาติดต่อเธอไปตั้งหลายครั้ง เธอต้องเห็นสิ และในข้อความเขาก็เขียนว่าถ้าเห็นแล้วให้โทรกลับแท้ๆ ถึงฉู่ลั่วหานจะดื้อกับเขา แต่เธอต้องโทรกลับ
หรือว่าเกิดอะไรขึ้น? หรือยังยุ่งอยู่?
ถึงจะยุ่งอยู่ ก็ไม่ถึงขั้นไม่มีเวลาดูโทรศัพท์เลยเหรอ?
ฉู่ลั่วหาน สองสามวันนี้ไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับเธอเลย เขาโทรมาที่บ้าน เธอก็ไม่รู้จักโทรกลับสักหน่อย?
ท่านเซียวถึงขั้นส่งข้อความแล้ว เธอยังเฉยจริงๆ?
ความคิดเรื่องหย่าร้างนั้นแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว หวังว่าเขาจะไม่กลับมาตลอดไป?
ถือโทรศัพท์เดินไปเดินมาในห้องรับแขก ท่านเซียวเดินไปจนสุดทางเดิน ห้องแรกที่อยู่หัวมุมคือห้องเธอ
หลงเซียวยื่นมือออกไป หมุนลูกบิดประตู ประตูไม่ได้ล็อก เปิดดังคลิก