คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 246 ออกจากบ้านกรุณาเปิด ปฏิทินสีเหลืองเก่า
ตอนที่ 246 ออกจากบ้านกรุณาเปิด ปฏิทินสีเหลืองเก่า
พูดว่าเป็นการสำรวจวิจัย แต่สำหรับลูกผู้ดีมีเงินอย่างหลงจื๋อมากล่าว เพียงแค่ได้ออกจากประตูของบริษัท หลีกห่างจากสายตาของพ่อกับพี่ชายใหญ่ ก็คือโลกของตัวเองแล้ว
ฉวยโอกาสเอาตารางการสำรวจวิจัย ทิ้งออกจากนอกรถฝั่งที่นั่งคนขับ!
มหาวิทยาลัยคณะแพทยศาสตร์ อ่า! ผมมาแล้ว!
มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เมืองหลวงคือมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เชิงบูรณาการที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศ มีคณะที่รวมอยู่มากสมบูรณ์ที่สุดในประเทศ พื้นที่การก่อสร้างในโรงเรียนใหญ่ที่สุดในประเทศ ทุกปีจะมีผู้ที่มีความสามารถจบจากที่นี่เยอะที่สุดในประเทศ
แน่นอน ยังมีจุดสำคัญมากจุดหนึ่ง คณะแพทยศาสตร์ทั้งหมดอยู่ในมหาวิทยาลัย พวกนักศึกษาหญิงของมหาวิทยาลัยคณะแพทยศาสตร์ค่าเฉลี่ยความงามสูงสุดในประเทศ!
ทิวทัศน์สวยงาม ภูมิภาคที่ตั้งดี สาวสวยหนุ่มหล่อมากมาย ผู้มีความสามารถมากมาย ท่องเที่ยวหนึ่งวันในมหาวิทยาลัยคณะแพทยศาสตร์ สง่างามร่าเริง!
รถสปอร์ตหรูเฟอร์รารี่สีแดงของหลงจื๋อขับเข้าไปในมหาวิทยาลัยโดยตรงอย่างอลังการ ขับตามถนนจือสิงไปเรื่อยๆ สถานที่ที่ผ่านไปล้วนมีเสียงกรีดร้องที่ชื่นชอบ
หลงจื๋อใส่แว่นตาดำที่ยั่วยวน นั่งอยู่ในรถอย่างสง่างามตามอำเภอใจ สายตาที่กวาดมาจากรุ่นน้องที่อ่อนหวาน ในปากอดไม่ได้ฮัมเพลงฮิตขึ้นมา
มหาวิทยาลัย อ่า รุ่นน้องต่างๆนานาที่อ่อนหวาน หล่อเลี้ยงตาดีที่สุดแล้ว
รถเลี้ยวอยู่ตรงถนนจือสิงข้างหน้าคือถนนเซี่ยหยู่ไม่ได้มามหาาวิทยาลัยคณะแพทยศาสตร์เป็นครั้งแรก หลงจื๋อแทบจะชำนาญลู่ทางดี
จะดูสาวสวยต่างๆนานา แน่นอนต้องไปเขตซีหยวน เพราะว่าที่นั่นมีโรงอาหารที่ใหญ่ที่สุดในมหาวิทยาลัยคณะแพทยศาสตร์ ข้างหลังโรงอาหารคือหอพักหญิง
ไอ่หย่า! อิอิ
รถสปอร์ตหรูขับเร็วดั่งบิน กำเริบเสิบสาน ลมพัดแรงที่เกิดจากยางรถ ฟิ้ว ผ่านไป ชายกระโปรงของนักศึกษาหญิงที่ผ่านไปล้วนถูกเปิดขึ้นมาด้วยแรงลม เสียงกรีดร้องเป็นพักๆ
หลงจื๋อมองผ่านกระจกหลัง จ้องมองนักศึกษาหญิงทั้งหลายที่ถูก “แหย่เล่น” ทั้งจับกระโปรงไว้อย่างโมโห ทั้งสายตาที่อึ้งตื่นตกใจตะลึงชื่นชม อารมณ์ปีติอยากบิน!
สะใจ! ก็คือความรู้สึกอันนี้!
อยู่ดีๆ ตาของหลงจื๋อเปิดกว้างขึ้นมาทันทีเลย!
“แม่มึงเอ่ย! หลีกทาง อ่า อีเหี้ยยยยย!”
ทางสี่แยกที่อยู่ข้างหน้าไม่ไกล หญิงผมยาวคนหนึ่งมือถือไอศกรีมโคนทั้งกินทั้งก้มหน้าเดินผ่านถนน ต้องไม่ได้สังเกตว่ามีรถขับเร็วมากอย่างบินอย่างแน่นอน
ทันทีนั้น หลงจื๋อเหยียบเบรกเต็มแรง!
“เอี๊ยด!!”
รถสปอร์ตหรูสีแดงหยุดทันที!
เพราะว่าแรงกระทบที่รุนแรงมาก ครึ่งท่อนด้านบนของหลงจื๋อถูกแรงกระทบกระเด็นไปข้างหน้าไกลถึงครึ่งเมตรอย่างรุนแรง ห่างจากหัวเพียงไม่กี่เซ็นก็จะชนไปที่กระจกต้านลมแล้ว
แม่มึงเอ่ย!
ด่าในใจไปสักพัก หลงจื๋อที่จิตสติยังไม่เข้าที่เงยหน้าขึ้น ผ่านกระจก มีตาคู่หนึ่งที่ตื่นตะลึงกว่าเขา จ้องมองเขาอย่างไม่กะพริบตาจากข้างนอก ตาสีน้ำตาลเข้ม ตื่นตะลึง ตกใจว้าวุ่น โมโห มึนงง
มือยังอยู่ในท่าที่ถือไอศกรีมโคนอยู่ แต่ของที่อยู่ในมือกลับปลิวไปนานแล้ว
มองผ่านกระจกแผ่นหนึ่ง ตาสี่ดวงของทั้งสองสบตากัน สิ่งต่างๆที่อยู่ในรถกับนอกรถเย็นชาลงพร้อมกัน ตกผลึกเย็นชาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“คุณเป็นคนปัญญาอ่อนรึเปล่า!”
หลงจื๋อผลักประตูรถออกมา ถอดแว่นตาดำออก จากนั้นความโมโหเต็มอก หลงจื๋อดุด่าผู้หญิงอย่างรุนแรงทีหนึ่ง ดูเหมือนด่าคนแล้วก็ยังไม่หายโมโห เขาอยากจะต่อยสมองของเธอแตกโดยตรง มองดูว่าข้างในใส่น้ำใช่หรือไม่
ในที่สุดผู้หญิงก็คืนสติกลับมาจากความตื่นตะลึง เงยหน้าขึ้นมาทำตาหยีแล้วทำตาหยีอีก สายตาที่สั้นมากหลังจากแว่นตาถูกชนลอยไปแล้ว ดูเหมือนคนตาบอดครึ่งคน เสียงดูถูกดุว่า “คุณคือใคร!”
สายตามัวๆไปหมด ผู้หญิงมองไม่ชัดถึงหน้าตาของหลงจื๋อ อีกทั้งความสูงของทั้งสองคนห่างกันมากเกินไป เธอแค่อยากจะมองเห็นใบหน้าของเขาก็ต้องเงยหน้าขึ้นเกินสิบกว่าเซ็นจากความต่างของความสูง
อะไรนะ? ถึงขนาดถามว่าเขาคือใครหรือ?
หลงจื๋อกวาดดูผู้หญิงที่อยู่ต่อหน้า ความสูงประมาณหนึ่งเมตรหกต้นๆ สวมใส่รองเท้าผ้าใบ กางเกงยีนสีน้ำเงิน เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ ผมยาวปรกอยู่ข้างหลัง หน้าม้าบนหน้าผากเรียบตรงไปหมด ใบหน้ากลม อ้วนเหมือนเด็กทารกเล็กน้อย ผิวพรรณถือว่าใช้ได้ แต่ว่า ตาคู่นี้หยีตลอดคืออะไรกันแน่?
ดูถูกเขาหรือ?
“น้องสาว คุณขวางรถผมแล้ว รู้เรื่องไหมนี่?”
ผู้หญิงคนนี้ ใช้สายตาดูแล้วน่าจะเป็นนักศึกษาใหม่ปีหนึ่ง เห็นการแต่งตัวที่ไร้รสนิยมก็รู้แล้ว ถ้าไม่ใช่มาจากจังหวัดเล็กๆก็คืออำเภอเล็กๆ
ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าน้องสาว หัวเราเสียงเบาๆสองเสียงว่า “ฉันว่า คุณขับรถไม่ได้เอาตามาหรือ? ที่นี่ไม่มีไฟจราจร ตามมารยาทพื้นฐานที่สุด รถจำเป็นต้องหลีกทางให้คนเดิน”
หลงจื๋อ คิกคิก “ผมว่าน้องสาวบ้านนอก คุณเห็นรถของผมขับมา ยังไม่หลบหลีกหรือ? ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้ตั้งใจที่จะแกล้งโดนชนเรียกร้องค่าเสียหายหรือ? โชคดีว่าผมฝีมือดี ถ้าไม่เช่นนั้นคุณคงลมลงไปแล้วเข้าใจไหม?!”
ผู้หญิงทำตาหยี แม่มึงเอ่ย ไอ้เหี้ยคนนี้คือใครหรือ!
“คุณ ช่วยหาแว่นตาฉันกลับคืนมาหน่อย!”
หลงจื๋อ “………”
อธิบายไม่ถูกว่าความรู้สึกเป็นเช่นไร แต่ว่าทำไมผู้หญิงคนนี้มีลักษณะพลังที่ทำให้คนไม่สามารถจะปฏิเสธได้? เสียงไม่ดัง ตัวเตี้ยมาก หน้ากลมๆเต็มเปี่ยมเหมือนเช่นเด็กทารก ลักษณะพลังนี้มาจากไหนหรือ?
“อึ้งอยู่ตรงนั้นทำไมล่ะ? คุณทำให้แว่นตาฉันหาย รีบหากลับมาให้ฉัน”
หลงจื๋อกัดฟันอย่างอึดอัดใจ “คุณเก่งนะ! รออยู่นั่นล่ะ”
ผู้หญิงใช้มือเกาะไว้อยู่บนหน้ารถ รอก็รอ
หลงจื๋อก้มหัวค้นหาแว่นตาไปทั่ว กดความโมโหเยาะเย้ยไว้ “น้องสาวบ้านนอก ดูไม่ออกว่า คนก็ไม่ใหญ่ อารมณ์กลับใหญ่มาก”
ผู้หญิงหัวเราะเย็นชาเสียงหนึ่ง “น้องสาวหรือ? คำนี้ฉันขอเตือนว่าคุณอย่าเรียกมั่วๆ”
“ได้ อารมณ์ช่างแรงมากจริงๆ”
หลงจื๋อก้มตัวหาหลายนาทีผ่านไปแล้ว ในที่สุดก็ได้เห็นแว่นตาสายตาสั้นที่เป็นขอบหนาสีดำอยู่ที่ในพงหญ้าข้างถนน คุณภาพกลับใช้ได้ ถึงขนาดไม่ถูกตกจนแตก มีความรู้สึกสนุกชั่ววูบอยากเอาไว้เทียบใส่กับตาของตนเองสักที “อีเหี้ยยยยย!คุณเป็นคนตาบอดหรือ? สั้นเท่าไหร่ล่ะ?”
เพียงแค่ส่องดูข้างเดียว ฟ้าดินก็หมุน ถ้าไม่สั้นเจ็ดร้อย ก็ยังต้องสั้นถึงห้าหกร้อย
ผู้หญิงแย่งแว่นตากลับไป ใส่ไว้บนจมูกอย่างถนัด ในที่สุดคราวนี้ก็มองคนอย่างชัดเจนแล้ว
ความชัดเจนของสายตากลับคืนมา ผู้หญิงมองเห็นใบหน้าของหลงจื๋อ ก็เห็นรถที่จอดอยู่ข้างตัวเขา จากนั้นยิ้มอย่างแจ่มแจ้งว่า “มิน่าล่ะทำไมไม่เห็นใครอยู่ในสายตาขนาดนี้ ที่แท้ก็คือคนรวยรุ่นที่ 2 ของบ้านเศรษฐี”
หลงจื๋อกอดอก เหล่ตามองผู้หญิง แว่นตาขอบดำอันหนึ่งปิดใบหน้าไปครึ่งหนึ่ง ตาโตที่อยู่ภายใต้แว่นตาแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มเย็นชาที่ดูถูกเล็กน้อย แม้ว่าสายตาสั้นมาก กลับไม่ลดความสดใสของเรี่ยวแรงฉลาดเฉลียว
แต่ว่า ค่าความงดงามของมหาวิทยาลัยคณะแพทยศาสตร์ที่ค่อนข้างสูงมาก ถึงขนาดทำให้เขาชนกับข้อยกเว้นหนึ่งคน
“ทำไมหรือ? เสียใจที่ล่วงเกินผมแล้วหรือ?”
ผู้หญิงทำปากเบ้ มือสอดเข้าไปในกระเป๋าข้างหลังของกางเกงยีน ยิ้มด้วยงอมุมปากข้างหนึ่ง “ใช่ค่ะ เสียใจแล้ว เมื่อกี้น่าจะต้องนอนลงไปเลยไม่ลุกขึ้นมา ไม่แน่ว่าอาจจะได้รับค่าชดเชยที่ไม่น้อย”
แม่ง!
รุ่นน้องปีหนึ่งในยุคสมัยนี้ก็ฉลาดเก่งกล้าขึ้นแล้วหรือ? กล่าวโดยทั่วไป รุ่นพี่ปีสี่จึงจะมีความสามารถเช่นนี้
“น้องแว่น ผมไม่มีเวลาไร้สาระกับคุณ หลีกทาง ผมจะไป”
ผู้หญิงกลับก้าวไปที่ตรงกลางของรถ ขวางทางของเขาไว้ มือเรียวเล็กไร้กระดูก ยื่นไปที่ต่อหน้าเขา สะบัดมือ “อยากจะไปหรือ? ชดเชยค่าเสียหายให้กับฉันก่อน ไอศกรีมโคนที่ฉันเพิ่งซื้อมา กินไปได้แค่คำหนึ่ง ถูกคุณชนตกพื้นแล้ว จ่ายค่าชดเชยแล้วค่อยไป”
แม่มึงเอ่ย!
เสียเงินสลายภัย หลงจื๋อหยิบกระเป๋าเงินออกมา “ราคาเท่าไหร่ บอกสิ”
ผู้หญิงกวาดสายตาไปยังกระเป๋าเงินของเขาหนึ่งที อาร์มานี รุ่น จำกัดในฤดูนี้ แม้ว่าราคาสูง แต่ไร้รสนิยมจริงๆ “สามบาทห้าสิบสตางค์”
ท่าทางการหยิบเงินของหลงจื๋ออยู่ดีๆก็ชะงักไป ยักคิ้วตามแล้วยักคิ้วอีก
“สามบาทห้าสิบสตางค์หรือ?”
ถึงขนาดยังมีสามบาทห้าสิบก็สามารถซื้อไอศกรีมโคนได้แล้วหรือ? มาจากเกาหลีหรือ?
เขาหยิบใบสีแดงใบหนึ่งยื่นให้เธอ “เอาไป ซื้อหลายอันหน่อย กินให้อร่อยนะ”
ผู้หญิงเหล่ตาหนึ่งที “ไม่ต้อง ฉันจะเอาแค่สามบาทห้าสิบ เอาเหรียญให้ฉัน”
แม่ง!
“ไม่มีเหรียญ ผมยินดีที่จะช่วยเหลือนักศึกษายากจน ไม่ต้องเกรงใจ!”
“ฮึ!”
นักศึกษายากจนหรือ?
ผู้หญิงเอาเงินยัดใส่เข้าไปในมือของเขา “คุณชอบช่วยเหลือนักศึกษายากจน อ่า? ใจดีเช่นนี้หรือ?”
หลงจื๋อยักคิ้ว “ทำไมล่ะ? หมอบกราบพี่สิ?”
ผู้หญิงมุมปากเบี้ยว “หมอบกราบ! ในเมื่อคุณใจดีขนาดนี้ แน่นอนคงไม่ถือสาที่จะซื้อเยอะกว่านี้หน่อยล่ะ?”
“แน่นอน!”
“ดีมาก ถ้าเช่นนั้นรบกวนหนุ่มหล่อตามฉันมา”
ผู้หญิงเปิดทางอยู่ข้างหน้า หลงจื๋อเดินตามหลังเธออย่างสงสัย ก้าวขึ้นบันได ข้างหน้าต้องเป็นโรงอาหารฟางเฉ่าหยวนที่ใหญ่ที่สุดในมหาวิทยาลัยคณะแพทยศาสตร์
หลงจื๋องอปาก ดูไม่ออกเลย น้องสาวช่างเข้าใจฉวยโอกาส ถึงขนาดเปลี่ยนรูปแบบจะให้เขาเลี้ยงข้าวเธอ อิอิ โดยแท้จริง รุ่นน้องก็ฉลาดเก่งกล้าขึ้นแล้ว
ใครจะรู้ หลงจื๋อยังคิดไม่จบ “เปรี้ยะๆ” เสียงปรบมือสองครั้งอยู่ๆตัดความคิดของเขา
ผู้หญิงปรบมือสองที คนที่กำลังกินข้าวอยู่ เข้าแถวตักข้าวอยู่ ค้นหาอาหารอร่อยอยู่ในโรงอาหาร ทั้งหมดล้วนหยุดการกระทำ
ผู้หญิงใช้หางตามองหลงจื๋อหนึ่งที จากนั้นมุมปากเบี้ยวยิ้ม “นักศึกษาทั้งหลายโปรดสังเกต เที่ยงวันนี้มีคนอยากเลี้ยงข้าวทุกคน! ทุกคนไม่ว่าจะกินอะไร ดื่มอะไร ค่าใช้จ่ายทั้งหมดล้วนคิดบัญชีกับคุณผู้ชายคนนี้ ทุกคนปรบมือขอบคุณสักหน่อย!”
หลงจื๋อ “……..”
คนทั้งหลาย “………”
หลังจากเงียบไปสักพัก ในโรงอาหารอยู่ดีๆระเบิดเสียงปรบมืออย่างคึกคักสักพัก เปรี้ยะๆๆ ไม่หยุดเป็นเวลานาน
“หว่า! หนุ่มหล่อใจกว้าง! หนุ่มหล่อเก่งมาก!”
“หนุ่มหล่อเป็นแฟนของรุ่นพี่หลิน ใช่หรือไม่ อ่า!”
“หนุ่มหล่อจะต้อของรุ่นพี่หลิน อยู่อย่างแน่นอน! รุ่นพี่หลิน จีบไม่ง่ายล่ะ! หนุ่มหล่อสู้ๆ!”
“หนุ่มหล่อ คุณเป็นนักแสดงใช่หรือไม่! ปริมาณความงดงามสูงมาก หว่า!”
รุ่นพี่หรือ?
อีกทั้ง………ทำไมรู้สึกว่า คนในโรงอาหารทั้งหมดล้วนรู้จักเธอ?
หลงจื๋อปากสั่น มองไปยังรุ่นพี่หลิน ที่ว่า “คุณ…….อายุมากเท่าไหร่แล้ว?”
ผู้หญิงเอียงหัวอย่างสง่างาม “ปีห้า”
หลงจื๋อเกือบจะล้มลงนั่งบนพื้น “แม่ง! คุณปีห้าแล้วหรือ?!!”
ผู้หญิงงอมุมปากเล็กน้อย “ทำไมหรือ? คณะแพทยศาสตร์ปีห้า พี่นักศึกษาระดับปริญญาตรีส่งตรงเข้าสู่ระดับปริญญาโท ห้าปี มีความสงสัยหรือ?”
แม่มึงเอ่ย!
คิดไม่ถึงว่าคนบ้านนอกจะเป็นเด็กหัวกะทิ
หลงจื๋อเช็ดเหงื่ออย่างเงียบๆ “ดีๆๆ อาหารเที่ยงของทุกคนผมเลี้ยงเอง แต่ว่าทุกคนมองให้ชัดเจน ผมกับรุ่นพี่ของพวกคุณ ไม่ใช่แฟนกัน ผมจะไม่จีบเธออย่างเด็ดขาด! OKไหม?!”
ผู้หญิงยักไหล่ “นั่นดีที่สุด ฉันก็ไม่ชอบกายสังขารที่สวมใส่ของมียี่ห้อทั้งตัว ไอคิวเป็นศูนย์”
พูดจบหมุนตัวออกจากโรงอาหาร เหลือแค่ภาพข้างหลังที่หล่อสง่างาม
หลงจื๋อ “…….คุณรอก่อน! คุณชื่ออะไร!”
ในโรงอาหารหลายร้อยคนร้องเสียงดังพร้อมกันว่า “หลินซีเหวิน! นักศึกษาปริญญาโทศัลยกรรมหัวใจ หอพักอยู่ที่ตึกเบอร์ 10 ฟางหวาเขตตะวันตก ห้อง 1205! หนุ่มหล่อ พวกเราสามารถช่วยคุณถึงแค่นี้ล่ะ!”
หลงจื๋อ “………”
แม่ง! นักศึกษาในปัจจุบันนี้ ฉลาดเก่งกล้าขึ้นแล้วจริงๆ! บ้าคลั่งมากกว่าพวกพนักงานออฟฟิศอีก!
หลงจื๋อปากสั่น ยัดเงินใส่ก้อนหนึ่งอย่างอึดอัดใจแล้วเดินออกจากโรงอาหารเลย
วันนี้ออกจากประตูไม่ได้เปิดปฏิทินสีเหลืองดูใช่หรือไม่ ดวงไม่ค่อยดีเลย!
หลินซีเหวินเดินออกจากโรงอาหาร สายตากวาดผ่านรถของหลงจื๋อ มองดูทะเบียนรถหนึ่งที จากนั้นก้าวยาวๆจากไป
เดินอ้อมไปที่ซุ้มร้านค้า ซื้อไอศกรีมโคนแบบเดียวกันอันหนึ่งอีก กินไปเดินกลับไปหอพัก ไปถึงข้างล่างตึกหอพัก หลินซีเหวินถูกเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งดึงแขนไว้ “อาเหวิน ข่าวดี! ข่าวดีเท่าฟ้า!”
หลินซีเหวินกัดไอศกรีมโคนหนึ่งคำ “ข่าวดีอะไรหรือ? ศาสตราจารย์เปิดเผยเนื้อหาข้อสอบให้คุณหรือ? หรือว่าโครงการงานวิจัยของคณะจบแล้วล่ะ?”
“ไม่ใช่ๆ! ล้วนไม่ใช่! คุณรู้จักแอนน่าไหม? ก็คือทุกคนลือว่าแอนน่าที่เป็นหมอเทวดา?” เพื่อนนักเรียนหญิงสายตาแวววาว มือสองข้างแกว่งแขนของเธออย่างบ้าคลั่ง
หลินซีเหวินพยักหน้า “รู้จักล่ะ ได้ยินว่าการคงอยู่ดั่งเทวดา ปัจจุบันทำงานอยู่ในโรงพยาบาลหวาเซี่ย”
“เธอจะรับสมัครผู้ช่วยแล้ว! ผู้ช่วยไง! รับแค่สองคน! อีกทั้งจะรับสมัครที่ประเทศจีน!”
หลินซีเหวินอยู่ดีๆอึ้งไป “จริงหรือ?!”
“จริงอย่างแน่นอน! โรงเรียนของพวกเราคือหน่วยงานสำคัญที่ถูกเสนอ!”
“ดีมากเลย!”
หลินซีเหวินกัดไอศกรีมโคนคำใหญ่ไปครึ่งหนึ่ง ที่เหลือยัดใส่ให้เพื่อนร่วมชั้น “ให้คุณล่ะ! จุ๊ฟๆ!”
“เฮ้ย!อาเหวิน! คุณจะไปไหนหรือ?”
“ไปสมัครไง!”