ขอสายลมพารักคืนใจเธอ - บทที่ 9 พนันกัน
ฉันเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ พยักหน้าเบา ๆ ถือว่าตกลงกัน
คนเราจะรู้สึกต่ำต้อยแบบไม่มีเหตุผลอยู่เป็นบางครั้ง ส่วนฉันเหมือนจะเคยชินกับคำสั่งของอาธิปไปแล้ว ไม่เคยคัดค้านคำสั่งเขา ถึงแม้จะต้องฝืนใจขนาดไหน
รถมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง ทีแรกฉันคิดว่าอาธิปจะส่งฉันกลับบ้านก่อน แต่ที่ไหนได้ เขาพาฉันมาที่โรงพยาบาลเลย
กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อฟุ้งกระจายไปทั่งซอกมุมของโรงพยาบาล ฉันไม่ชอบกลิ่นนี้เลย แต่ก็ต้องตามอาธิปเข้าไปหานัชชาที่ห้องพักผู้ป่วย นัชชากำลังทำการให้น้ำเกลืออยู่ ปกติเธอก็ดูไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว พอป่วยเข้าและนอนอยู่ในบนที่นอนสีขาวแบบนี้ สายตาว่างเปล่า ยิ่งดูทรุดโทรมน่าสงสารไปอีก
พอเห็นฉันเดินเข้ามากับอาธิป สายตาที่เธอมองฉันนั้นเย็นชาขึ้นมาทันที สักพักเธอถึงจะมองไปที่อาธิป ว่า “หนูไม่อยากเจอคนนี้”
เหมือนจะเป็นเพราะว่าเสียลูกไปแล้ว ความอ่อนโยนและน่ารักของเธอนั้นหมดหายไป เพิ่มเติมคือความเย็นชาและเกลียดชัง
อาธิปเดินเข้าใกล้เธอ กอดอุ้มเธอ และเอาคางตัวเองวางไว้ที่หน้าผากของเธอ พร้อมปลอบใจเธอด้วยว่า “ ให้เขามาดูแลหนูไงคะ มันเป็นสิ่งที่เขาควรทำเพื่อหนูนะ”
การที่เขารักและสนิทสนมกับเธอแบบนี้ กวนประสาทฉันเป็นอย่างมาก
ทีแรกนัชชายังอยากจะพูดอะไรต่อ แต่พออาธิปอ้อนเธอ เธอก็เงียบและเงยหน้ามองอาธิป ยิ้มอย่างหวาน กล่าวว่า “ได้ค่ะ หนูเชื่อฟังพี่อาธิปค่ะ”
เขาสองคนพูดถามตอบกลับกันเอง ก็ตกลงชีวิตฉันกันเองเลย
จะว่าไปก็ตลกนะ ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ แต่ก็ยอมกับการตกลงของเขาสองคน
อาธิปงานเยอะมาก งานศพอาก๋ง เขาไม่ได้มาออกงาน แต่ยังไงเขาก็เป็นสมาชิกของครอบครัวตระกูลฟู่ เขาต้องจัดการดูแลหลาย ๆ เรื่อง งานที่บริษัทเขาก็ต้องบริหาร เขาไม่มีเวลามาดูแลนัชชาที่นี่หรอก
คนที่มีเวลามาดูแลนัชชาที่นี่ ก็ต้องตกเป็นฉันแหละ
เมื่อเวลาตีสอง นัชชาคงนอนตอนกลางวันเยอะไป กลางคืนก็นอนไม่หลับ ส่วนฉันต้องนั่งเก้าอี้พักผ่อน เพราะที่โรงพยาบาลไม่มีที่นอนว่างสำหรับญาติเฝ้าผู้ป่วย
เธอเห็นฉันก็ยังไม่ได้นอน เธอเลยมองมาที่ฉัน พูดว่า “ดารัณ เธอนี่ก็วางตัวต่ำต้อยเกินไปนะ”
ณ วินาทีนั้น ฉันไม่รู้จะตอบเธอยังไงเลย ก้มหน้าดูแหวนที่นิ้วมือ สักพักถึงจะเงยหน้าขึ้นมาตอบเธอว่า “รักใครสักคนก็ต้องเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
เธอหัวเราะ เหมือนไม่เข้าใจกับฉัน เงียบไปพักใหญ่ถึงจะพูดขึ้นมาว่า “เธอเหนื่อยบ้างไหม”
ฉันส่ายหัว ชีวิตเราหลายสิบปี มีอะไรบ้างที่จะไม่ต้องเหนี่ยกับมัน ฉันก็แค่รักใครสักคน
“ช่วยเทน้ำให้หน่อยได้เปล่า” เธอพูด แล้วขยับตัวขึ้นมาพิงกับราวเตียง
ฉันพยักหน้า ลุกขึ้นมาเทน้ำให้เธอ
“ไม่ต้องเติมน้ำเย็น กินแบบร้อน ๆ อะดี” เธอบอก เดาไม่ออกว่าเธอจะมาไม้ไหน
ฉันเทน้ำเสร็จ ก็ยื่นไปที่เธอ เธอไม่ได้รับ จ้องมองแต่ฉัน และพูดว่า “ฉันรู้สึกว่าเธอนี่น่าสงสาร แต่ก็น่าสมเพช เรื่องลูกฉัน จริง ๆ แล้วไม่ควรจะโทษเธอนะ แต่ฉันก็อดโทษที่เธอและแค้นเธอไม่ได้”
ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร ฉันก็ยื่นน้ำให้เธอ กล่าวว่า “ระวังร้อนนะคะ”
เธอรับแก้วน้ำไป แบะจับมือฉันแบบกะทันหัน ด้วยสัญชาตญาณของมนุษย์ ฉันก็จะดึงมือกลับ เธอจ้องตาฉันอย่างดุดัน กล่าวว่า “เรามาพนันกันไหม ดูว่าเขาจะรักเธอรึเปล่า”
ฉันตกตะลึง เหล่ตามองเห็นมีผู้ชายคนนึงยืนอยู่ตรงประตู ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร นัชชามองฉัน สายตาแบบท้าทาย ถามฉันว่า “กล้าไหม”
ฉันไม่ตอบ ปล่อยให้เธอเทน้ำร้อน ๆ ลงหลังมือฉัน เจ็บทรมานมาก เหมือนโดนมดหมื่น ๆ ตัวกัดในเวลาเดียวกัน
ถึงฉันจะไม่ได้พูดอะไร แต่การพนันครั้งนี้ ถือว่าฉันตกลงเล่นกัน
นัชชาวางแก้วลง ทำหน้าเหมือนตัวเองไม่ได้ตั้งใจทำ กล่าวว่า “หนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจค่ะ แก้น้ำมันร้อนเกินไป หนูไม่ได้ระวังเอง พี่ดารัณเป็นไรไหมคะ”
อื้มหืมมม หมั่นไส้ !!!
ฉันดึงมือกลับ อดทนกับความเจ็บ และบอกว่า “ไม่เป็นไร”