ตอนที่ 251 ความยินดี
「นายน้อย ท่านมีแผนจะทำอะไรกันแน่?」
หลังออกจากห้องประชุมใหญ่ เซน่อน ควิสทัสก็รีบตามรากุนะที่กำลังเดินอยู่ตรงหน้าของเขา แล้วถามออกมาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา
ลูเซียสที่อยู่ข้างๆเซน่อนก็เหมือนจะกังวลไม่แพ้กัน
รากุนะที่เดินผ่านทางเดินภายในคฤหาสน์มิตสึรุกิก็ตอบคำถามของอีกฝ่ายโดยไม่ได้หยุดเดินแต่อย่างใด
「ท่านพ่อก็อนุญาตแล้วยนี่ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ฉันในการจัดการพี่ชายผู้โง่เหล่าซึ่งขายวิญญาณให้กับพวกคิจินให้เรียบร้อยแล้วก็เอาหัวไปให้ท่านพ่อดูไง ยังไงกฏของตระกูลเราก็คือสิ่งที่เด็ดขาด ในฐานะว่าที่ผู้สืบทอดตระกูลมิตสึรุกิแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่สมควรกว่าสิ่งใด」
มันคือคำตอบที่เซน่อนกับลูเซียสก็พอจะคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว แต่พอมันเป็นไปตามที่คิดจริงๆทั้งสองก็มองหน้ากัน
ก่อนจะพูดกลับไปด้วยน้ำเสียงอันสงบ
「ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่สมควร แต่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าเถิด」
「ไม่ได้เด็ดขาด ฉันเป็นคนบอกท่านพ่อโดยใช้ชื่อของว่าที่ผู้สืบทอดนะ ฉันก็ต้องทำมันให้เรียบร้อยสิ」
「ข้าคงปล่อยท่านทำแบบนั้นไม่ได้ นายน้อย」
แล้วนั่นก็เป็นครั้งแรกที่รากุนะได้หยุดลงก่อนจะหันกลับไปมองเซน่อนด้วยสายตาสงสัย
「คงจะไม่ได้บอกว่าฉันจะแพ้มันใช่ไหม?」
「ไม่ใช่แบบนั้น ทว่าเนื่องจากการกระทำอันโง่เขลาของท่านโซระจึงทำให้ชื่อเสียงของเขาภายในตระกูลตกต่ำลงมากไม่ต่างอะไรกับอาชญากร ในฐานะว่าที่ผู้สอบทอดตระกูลมิตสึรุกิแล้ว ข้าไม่เห็นว่าท่านควรลงมือด้วยตัวเองเลยสักนิด ทางที่ดีควรปล่อยให้ลูกน้องจัดการจะดีกว่านะครับ」
พอเซน่อนพูดแบบนั้นลูเซียสก็พยักหน้าเสริม
「ข้าเห็นด้วยกับท่านพ่อนะ ท่านรากุนะ」
「ไม่ได้ ฉันจะจัดการหมอนั่นเอง นั่นคือสิ่งที่ท่านพ่อต้องการด้วย เพราะแบบนั้นเขาเลยอนุญาตให้ฉันไปต้อนรับโซระไง」
พอพูดจบรากุนะก็กัดฟันเหมือนนึกอะไรในอดีตขึ้นมาได้
「หลังจากการต่อสู้คราวก่อน ท่านพ่อเคยพูดกับกิลมอร์เอาไว้ว่า สำหรับพวกธงแห่งผืนป่าแล้วความพ่ายแพ้คือสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แต่ก็หาใช่เรื่องน่าละอาย สิ่งที่น่าละอายไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่เป็นการปกปิดความพ่ายแพ้นั้น หรือก็คือการที่ฉันจะกลับไปเผชิญหน้ากับโซระก็เหมือนเป็นการแก้ไขความพ่ายแพ้ยังไงล่ะ」
「แต่ท่านไม่ได้แพ้ให้กับท่านโซระเสียหน่อย」
「มันเอาชนะเทพปีศาจที่ฉันสู้ไม่ได้นะ แล้วจะบอกว่าไม่แพ้มันอีกเหรอ!」
รากุนะพูดออกมาด้วยความโกรธ
แน่นอนว่าเป้าหมายของอารมณ์ดังกล่าวไม่ใช่เซน่อน ลูเซียสหรือแม้กระทั่งโซระ
แต่เขาโกรธตัวเอง ราวกับถูกอะไรบางอย่างกัดกิน จิตใจสักแห่งหนึ่งของเขาบอกว่าตนไม่อาจเทียบโซระได้เลย
เขาจึงหงุดหงิดตัวเองไม่หาย ความรู้สึกดังกล่าวคงจะตั้งแต่เหตุการณ์เทพปีศาจได้
「เซน่อน ลูเซียส โซระน่ะกลายเป็นสุนัขของพวกคิจินไปแล้ว ยังไงก็ต้องถูกท่านพ่อสังหารในที่สุด ตอนนี้จึงเป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะจัดการกับเขาได้ การปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดไปก็ไม่ต่างอะไรกับการปกปิดความพ่ายแพ้ของตัวเองไปจนวันตาย และนั่นคือความอับอายที่สุดในชีวิตของฉันแน่」
พอเขาคิดได้แบบนั้นเขาจึงก้าวเท้าออกไปขอร้องพ่อของเขา เขารู้ดีว่ามันหยาบคายมากแค่ไหนในที่ประชุม ยิ่งเขาอยู่ในฐานะว่าที่ผู้สืบทอดอีก แต่การกระทำในฐานะดังกล่าวที่จำเป็นต้องยึดกฏเหล็กของตระกูลแล้ว การแสดงพลังของตนว่าเหนือกว่าผู้เป็นพี่ที่ยอมจำนนต่อคิจินไปก็ถือเป็นเรื่องสมควร
แล้วพ่อของเขาก็ยอมรับคำขอร้องนั้น เขาอนุญาตให้ตนได้สู้กับโซระ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับโอกาสครั้งสุดท้ายในการล้างแค้น หากไม่ใช่แบบนั้นพ่อของเขาคงไม่ยอมปล่อยเขาออกมาแน่
เจอเหตุผลนี้เขาไปพ่อลูกควิสทัสก็แสดงสีหน้าลำบากใจออกมา พวกเขาเข้าใจถึงสิ่งที่รากุนะต้องการ แต่ก็ยากจะเห็นด้วยได้
นอกจากนี้ในมุมของเซน่อนแล้ว หากชิกิบุตั้งใจจะให้รากุนะสู้กับโซระจริงๆจังๆ เขาคงจะทำให้เป็นพิธีภายในโถงประชุมหลักไปแล้ว
แถมการที่ชิกิบุอนุญาตให้พวกตนทั้งสองตามมาด้วยก็ไม่ต่างอะไรจาก อยากจะให้รากุนะยืมมือพวกตน
เซน่อนก็พยายามครุ่นคิดขณะมองไปยังรากุนะ
――ชื่อเสียงของท่านโซระก็ดิ่งลงเหวไปแล้ว แต่ถ้านายน้อยแพ้ให้กับท่านโซระชื่อเสียงของนายน้อยก็จะแย่ลงไปด้วย ก็จริงอยู่ว่าลูกชายคนอื่นของท่านผู้นำไม่มีแววจะได้แทนที่นายน้อยเลย แต่ว่า….จากเหตุการณ์นี้นายน้อยอาจจะสูญเสียความมั่นใจแล้วคิดว่าตนเองไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้ก็ได้นะสิ
พอพิจารณาถึงเรื่องนี้แล้ว การห้ามรากุนะไม่ให้เข้าไปสู้ก็จะเป็นหนทางที่ดีกว่า แต่อีกฝ่ายดันอยากจะสู้จนตัวสั่น เซน่อนก็เลยไม่รู้จะห้ามยังไงดี แถมจะให้ลูเซียสไปช่วยหยุดรากุนะ ระหว่างที่ตนจัดการโซระก็คงจะยาก
พอคิดได้แบบนี้เขาก็ถอนหายใจออกมา
ดังนั้นพวกเขาจะปล่อยให้รากุนะสู้กับโซระตัวต่อตัว ทว่าหากรากุนะตกอยู่ในอันตรายตนกับลูเซียสก็จะเข้าไปช่วยแทน ยังไงคู่ต่อสู้ก็เป็นเพียงสุนัขของพวกคิจินถึงจะเกิดการรุมขึ้น ก็ไม่น่าจะมีใครบ่นออกมา
แม้นั่นจะทำให้รากุนะเกลียดเขา แต่เขาก็ไม่มีทางยอมให้โซระทำอะไรนายน้อยของตนเป็นแน่
จากนั้นไม่นานนัก รากุนะก็เข้าไปในประตูปีศาจและมุ่งไปยังป้อมปราการนันเท็น ก่อนจะลากโซระกลับมายังเมืองชูโตะ
โดยระหว่างนั้นสิ่งที่รากุนะพูดกับโซระมีเพียงประโยคเดียวก็คือ 「แกตามฉันมาคนเดียวก็พอ」ส่วนทางโซระก็พยักหน้าให้อย่างว่าง่ายโดยไม่พูดอะไร คิจินเด็กอีกคนก็ยักไหล่สบายๆก่อนจะรออยู่ที่ป้อมนันเท็น
เซน่อนแอบประหลาดใจนิดหน่อย เพราะตอนแรกเขาคิดว่ารากุนะจะชิงเปิดประเด็นก่อนเลย แต่พอเขาเห็นรากุนะไปหยุดอยู่บนบันไดทางขึ้นคฤหาสน์มิตสึรุกิเขาก็เข้าใจทุกอย่างในทันที
มันคือสถานที่ที่เขาพ่ายแพ้ให้กับเทพปีศาจ
จุดที่ชี้เป็นชี้ตายของเขา จากนั้นรากุนะก็พูดกับโซระ
「โซระ พ่อของฉันสั่งให้พาแกไปหาในฐานะที่ฉันเป็นว่าที่ผู้สืบทอดตระกูล บาปของแกที่ไปส่ายหางให้กับพวกคิจิน ตามกฏเหล็กของตระกูลแล้วมันคือบาปร้ายแรง ดังนั้นฉันจะฆ่าแกโดยมีชื่อของว่าที่ผู้สืบทอดเป็นเดิมพันก่อนจะนำหัวของแกไปให้ท่านพ่อ ให้สำนึกเอาไว้ซะว่านี่แหละคือความเมตตาสุดท้ายที่ฉันจะแสดงให้คนโง่อย่างแกได้เห็น เสริมแกร่งอาภรณ์วิญญาณ――จงเก็บเกี่ยว ฮาร์ป!」
รากุนะเปิดใช้งานอาภรณ์วิญญาณของเขาทันที ดวงตาของโซระเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เพราะออร่าสีทองที่ส่องประกายออกมา
รากุนะที่กระตุ้นอาภรณ์วิญญาณของเขาอย่างเต็มที่ก็เริ่มพูดอย่างสงบนิ่งในขณะที่จับอาภรณ์วิญญาณไว้แน่น
「ฉันรากุนะในฐานะตัวแทนของนักบุญดาบรุ่นที่ 17 มิตสึรุ กิชิกิบุ จงชักดาบของแกออกมาซะ」
「……」
「ถ้ายังไม่ เดี๋ยวฉันจะเริ่มก่อนให้เอง!」
รากุนะตะโกนออกมาแล้วพุ่งไปในอากาศราวกับวิหค
พอเห็นแบบนี้แล้ว เซน่อนก็รู้ทันทีว่ารากุนะกำลังจะใช้เทคนิคลับของเขาในการโจมตีครั้งแรกทันที คงตั้งใจจะจัดการให้จบในทีเดียวพร้อมกับประเมินศัตรูด้วยว่าหากรับมือได้จะทำอย่างไรต่อ
แน่นอนว่ามันไม่ใช่การโจมตีที่ขี้ขลาด แล้วก็ไม่ใช่การลอบโจมตีก่อนด้วย เพราะโซระได้รับโอกาสในการชักดาบออกมาแล้ว แต่เขาไม่ทำมันเอง ดังนั้นจึงไม่ผิดหากรากุนะจะใช้โอกาสดังกล่าวเข้าโจมตี
「มายาดาบเดียว กระบวนท่าประกายแสงดาบผ่าสรวงสวรรค์!」
มันคือการโจมตีที่รุนแรงจากดาบแสงแห่งสรวงสวรรค์ขนาดมหึมา ซึ่งพร้อมจะปะทะกับร่างของโซระ
หากกระบวนท่าสายฟ้า เทพอัสนีคำรามที่ที่สุดแห่งกระบวนท่าสายฟ้าแล้ว กระบวนท่าประกายแสงดาบผ่าสรวงสวรรค์ก็คือสุดยอดแห่งกระบวนท่าประกายแสง ยิ่งไปกว่านั้นมันยังอยู่ในจุดสูงสุดของกระบวนท่าลับทั้งหมดอีกด้วย
การโจมตีที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดและแผดเผาทุกสิ่งจึงยากที่จะหลีกเลี่ยงหรือป้องกันได้ สำหรับเซน่อนแล้วโซระที่ทำตัวประมาทนั้นย่อมไม่สามารถหลีกพ้นได้แน่ ซึ่งลูเซียสเองก็เห็นด้วย
แล้วก็เป็นไปตามที่ทั้งสองคิดไว้ เทคนิคอันทรงพลังของรากุนะโจมตีเข้าจุดที่โซระอยู่เต็มๆ จนทำให้พื้นดินโดยรอบแตกกระจายจนหมดสิ้น ก่อนจะส่งเสียงสั่นสะเทือนออกมาอย่างรุนแรง ฝุ่นควันจำนวนมากได้ลอยคลุ้งไปทั่ว
รากุนะแสยะยิ้มออกมาอย่างสะใจราวกับแสดงความมั่นใจในการโจมตีของตนซึ่งสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าการโจมตีดังกล่าวโดนอีกฝ่ายเต็มๆ แถมถึงโซระจะยังมีชีวิตอยู่สภาพก็คงสาหัส
แม้จะสันนิษฐานกันเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอาภรณ์วิญญาณของโซระนั้นมีพลังในการฟื้นฟู แต่การที่เขาไม่รีบเอามันออกมาใช้ก็นับว่าสายไปแล้ว แล้วโอกาสที่สองของเขาก็คงไม่มาถึงอีก
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานชีวิตภายในกลุ่มควันอยู่ รากุนะก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปซ้ำอีกครั้งราวกับนกล่าเหยื่อ
「ถ้าแกจะโกรธ ก็โทษตัวเองที่ประมาทเสียเถอะโซระ! มายาดาบเดียว ――」
ในที่สุดเขาก็จะได้หลุดพ้นจากฝันร้ายที่แสนทรมาน รากุนะทำการเหวี่ยงฮาร์ปของเขาออกไปด้วยความปิติยินดี
แล้วจากนั้น―
「กระบวนท่าสายฟ้า เทพอัสนีคำราม!!」
้เขาเหวี่ยงมันสุดแรงเท่าที่เขาจะทำได้
จากนั้นรากุนะก็หัวเราะออกมา บางทีนั่นคงจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของมิตสึรุกิ รากุนะที่เกิดมาได้ 18 ปี
เขาหัวเราะอย่างมีความสุขและพึงพอใจมาก จนกระทั่งฮาร์ปของเขามันถูกคว้าเอาไว้ด้วยมือเปล่า
แล้วก็――
「โทษทีว่ะ แต่ไอ้ของแบบนี้ฉันเคยโดนมาก่อนแล้ว」
เสียงหัวเราะของรากุนะสิ้นสุดลงในทันทีเมื่อเห็นพี่ชายของตนจะปรากฏร่างออกมาจากกลุ่มควันนั้น ไม่ได้รับบาดแผลใดๆเลยแม้แต่น้อย
—-
Note : คือพรี่แกโดนเจ๊โซเฟียเปิดอันติอัดรัวๆ 3 ดอกแล้ว มันก็ต้องหาทางรับมือแล้วบ้างแหละ แต่น่าสงสารจัด พ่อหนุ่มคนนี้5555
MANGA DISCUSSION