การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 158
บทที่ 158 – ลาจาก
“เอ่อ.. ว่าแต่เจ้าเป็นใคร..”
ชาร์ล็อตมองผู้หญิงตรงหน้าที่ดูมีอายุเยอะกว่าเธอพอสมควร เธอมีผมสีดำยาวปกคลุมใบหน้าเอาไว้ทำให้แฝยกไม่ออกว่ามีหน้าตายังไง
แต่ที่เธอคนนี้ยืนอยู่เฉยๆ ชาร์ล็อตก็สัมผัสถึงความรู้สึกเสียใจบางอย่างได้ จริงๆ ที่เธอสัมผัสได้อาจจะเป็นเพราะสูญเสียเพื่อนคนแรกไป
บางทีคนคนนี้อาจจะสูญเสียคนสำคัญของตัวเองไปไม่นานมานี้ก็ได้ นั่นคือสิ่งที่ชาร์ล็อตคิดขึ้นมาได้เช่นนี้ก็หันไปมองหญิงสาวไม่ทราบชื่อ
เธอมองไปที่ชาร์ล็อตสักครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“ฉันเป็นนักเดินทางน่ะ.. มาจากที่ไกลแสนไกล”
“ไกล?”
ชาร์ล็อตสับสนกับคำพูดที่ดูแปลกๆ ของหญิงสาว ในขณะที่หญิงสาวคนนั้นก็พูดขึ้นในเวลาต่อมา
“จะมายืนพูดอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้กลับกันเถอะ..”
“กลับ? กลับอะไร..?”
พอชาร์ล็อตได้ยินภาพที่ตัวเธอถูกบีบคอกดลงกับพื้นก็ลอยมา แขนที่จับกับหญิงสาวลึกลับก็ถูกดึงออกมา
เธอกลัว.. กลัวที่จะกลับไปรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว พอหญิงสาวเห็นแบบนั้นเธอก็ไม่ได้บังคับ เธอพูดขึ้นเบาๆ ว่า
“บ้านของเราไงล่ะ?”
“บ้านของเรา..?”
ชาร์ล็อตสับสน แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็มายืนอยู่หน้าบ้านไม้หลังใหญ่แล้ว บ้านหลังนี้ตั้งอยู่กลางป่าซึ่งมีแสงลอดส่องลงมาถึง
ทำให้มีทั้งความสดชื่นของแสงแดดและกลิ่นหอมของต้นไม้ใบหญ้า ดูสบายและรื่นรมย์อย่างไม่น่าเชื่อ
ชาร์ล็อตที่พึ่งเคยเห็นบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้เธอก็อ้าปากค้าง.. จากที่ซิลฟี่เคยบอกมาว่าโลกนี้มีพวกคนรวยที่มีเงินเยอะแยะ
พวกเขาสามารถสร้างบ้านหลังใหญ่ได้และกินอาหารอร่อยทุกวัน ชาร์ล็อตมองไปที่หญิงสาวคนนั้น
ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าตัวเองเก่งที่สุดในโลกด้วยนี่น่า.. คนสุดยอดแบบนั้นต้องการอะไรจากเธอกัน ทำไมถึงช่วยเธอกัน
ชาร์ล็อตหยุดชะงักลง ทำให้ผู้หญิงคนนั้นหันมามอง
“ทำไม…”
“….?”
“ทำไมถึงช่วยข้าล่ะ.. ข้าเป็นแค่ปีศาจร้ายที่มนุษย์อย่างพวกเจ้ารังเกียจ ไม่มีอะไรดีสักอย่าง.. ทำไมถึงช่วยข้ากัน!”
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนคนนี้ถึงพยายามช่วยเหลือตัวเธอเอง ตัวเธอที่บนโลกนี้ไม่มีใครต้องการปีศาจอย่างเธอ
พอผู้หญิงคนนั้นได้ยินก็เงียบไปพักหนึ่ง เธอหันหลังให้ชาร์ล็อตแล้วก็พูดขึ้น
“ฉันน่ะ … เคยมีคนสำคัญคนหนึ่งล่ะ..”
“…”
“เธอคนนั้นเหมือนเธอมาก ไม่สิ.. ก็เพราะว่า—”
“จ๊อกกก”
เสียงท้องของชาร์ล็อตดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เธอรู้สึกอายขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าเหตุผลที่เธอช่วยชาร์ล็อตก็เป็นเพราะ อยากช่วยนั่นแหละ
เธอคนนั้นที่ได้ยินเสียงร้องก็หยิบเอาอาหารออกมาจากไหนไม่รู้ยื่นให้ชาร์ล็อต เธอก็รู้สึกแย่เหมือนกันเลยได้แต่ก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าตรงๆ
“ขอบคุณค่ะ…”
“มาทางนี้ นี่คือห้องของเธอ..”
และใช่.. ฟันเฟืองแห่งโชคชะตาของชาร์ล็อตก็ได้เริ่มเดิน ณ ตอนนั้น แม้มันจะเป็นเส้นทางที่แสนเจ็บปวดจากการสูญเสีย
แต่ทว่าวันนี้ชาร์ล็อตได้รู้จักกับหญิงสาวที่อ้างตัวว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้ว.. นับแต่นั้นพวกเธอก็ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนั้น
วันแล้ววันเล่า ความสัมพันธ์ที่น่าอึดอัดของทั้งสองก็เริ่มจางหายไป ชาร์ล็อตยิ่งมองเห็นถึงความเศร้าโศกเสียใจของเธอคนนี้ชัดขึ้น
ชัดขึ้นทุกวัน แต่ไม่ว่าชาร์ล็อตจะหาทุกซอกทุกมุมยังไง ก็ไม่เจอเกี่ยวกับร่องรอยคนสำคัญของเธอคนนี้ในบ้านเลย
มันอาจจะเป็นการยุ่งเรื่องคนอื่นแต่ชาร์ล็อตกลับรู้สึกว่าไม่อยากให้เธอคนนี้เศร้าเลย เธออยากจะพูดอะไรสักอย่าง
แต่เพราะเธอไม่รู้อะไรเลย… จนเวลาได้ล่วงเลยไปเกือบๆ ครึ่งปีต่อมา ชาร์ล็อตที่ออกไปข้างนอกก็กลับเข้ามาในบ้าน
ประตูของห้องหญิงสาวลึกลับเปิดอยู่นิดหน่อย พอชาร์ล็อตเดินผ่านเธอก็ได้ยืนเสียงทุบโต๊ะจากในห้องและเสียงตะโกนดังออกมา
“ฉันรู้อยู่แล้ว ฉันรู้อยู่แล้ว ฉันรู้อยู่แล้ว!! แต่จะให้ฉันทำยังไงล่ะ!!”
“เอ่อ..”
เสียงร้องของผู้หญิงคนนั้นดูเจ็บปวดทรมานมาก เธอไม่เคยบอกชื่อตัวเองให้กับชาร์ล็อตรู้ เวลาชาร์ล็อตถามเธอจะเมินไปแบบเงียบๆ
แม้ความสัมพันธ์จะพัฒนาขึ้นแต่ว่ามีเพียงแค่ชื่อ.. ชื่อของเธอที่ไม่ยอมบอก แต่แน่นอนว่าชาร์ล็อตรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นคนดี
เธอสอนอะไรต่างๆ ให้กับชาร์ล็อต ไม่ว่าจะเรื่องเผ่าพันธุ์หรืออะไรก็ตามแต่ ดังนั้นสำหรับชาร์ล็อตแล้วเธอเชื่อว่าอีกฝ่ายต้องมีเหตุผลแน่ๆ
พอชาร์ล็อตส่งเสียงออกมา เธอก็หันมามองชาร์ล็อตเหมือนกันก่อนที่.. เธอจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“กินอาหารเย็นกันเถอะ”
ชาร์ล็อตเงียบลงไปเล็กน้อย เวลาทานข้าวของทั้งสองก็เริ่มขึ้น ชาร์ล็อตไม่ได้พูดอะไรและหญิงสาวคนนั้นเช่นกัน
แต่พอกินไปสักพักชาร์ล็อตก็อดทนไม่ไหวในที่สุด เธอเปิดปากถามออกไป
“ท่านคุยกับใคร…”
“….”
หญิงสาวคนนั้นที่กำลังทานข้าวก็หยุดชะงักลงไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะทานต่อโดยไม่ตอบคำถามของชาร์ล็อต
ชาร์ล็อตจึงก้มหน้าลงถอนหายใจออกมา บางที.. เธอคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเด็กอย่างชาร์ล็อตหรอก..
นั่นคือสิ่งที่เธอคิดขึ้นมาในตอนนั้น แต่ทว่าในตอนนั้นเองหญิงสาวคนนั้นก็หยุดทานอาหารแล้วเธอก็พูดขึ้น
“บางทีมันคงถึงเวลาแล้วล่ะ..”
“…?”
ชาร์ล็อตที่กำลังงุนงงต่อคำพูดของหญิงสาวลึกลับคนนั้นก็หยิบเอาสร้อยคออันหนึ่งออกมา เป็นสร้อยคอที่มีจี้สีแดงเปล่งประกายสดใส
“นี่คือของสำคัญของฉันที่ได้มาจากคนสำคัญที่เสียไปแล้วของฉัน.. แต่ต่อไปนี้มันเป็นของเธอ”
ว่าแล้วหญิงสาวคนนั้นก็วางมันใส่มือของชาร์ล็อต เธอจับมือของชาร์ล็อตไว้แน่น ดวงตาจ้องมองไปยังดวงตาชาร์ล็อต
“จงจำไว้ เก็บมันไว้กับตัวจนมันเป็นเหมือนชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของเธอ… เป็นเหมือนชีวิตของเธอ”
“เอ๋.. ทำไ—”
ในขณะที่ชาร์ล็อตกำลังจะถาม หญิงสาวคนนั้นก็ผุดลุกขึ้นจนเก้าอี้ล้มไปด้านหลัง เธอพึมพำออกมา
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้…”
“….?”
ชาร์ล็อตได้แต่สับสนกับท่าทางของหญิงสาวคนนี้ เพียงแต่ว่ายังไม่ทันได้ถามอะไรเธอก็กัดริมฝีปากจนเลือดไหลซิบ
พร้อมกับก้มลงมาพูดกับชาร์ล็อตด้วยสีหน้าที่ดูไม่ออกเธอรีบพูด
“ฟังฉัน! อย่า! มอบ! ให้! ใคร! ชีวิตเธอน่ะ.. สำคัญที่สุด! ฉันต้องไปแล้ว!”
“เดี๋ยวสิ!”
ชาร์ล็อตร้องออกมา แต่ทว่ายังไม่ทันได้เอื้อมมือออกไป ร่างของอีกฝ่ายก็หายไปแล้ว
“ไม่.. ไม่.. ไม่!”