ตอนที่ 13
ตนที่ 13 ลาเต้~
เมื่อ 13 ปีก่อน..
ณ บ้านไม้สองชั้น..
ภายในห้องของบ้านไม้ชั้นที่สอง สายสิญจ์ที่ถูกวงในลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตรุอยู่ ณ ใจกลางของห้อง มีทั้งธูปและเทียนที่ถูกจุดวางประกอบพิธี ภายในวงสายสิญจ์ปรากฏให้เห็นเป็นร่างของชายชราที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าของเด็กหนุ่มวัย 7 ขวบ
ฝ่าเท้าข้างซ้ายของชายชรากำลังเหยียบย่ำอยู่บนไหล่ของเด็กหนุ่มเพื่อเป็นฐานรองในการทรงตัว ส่วนฝ่ามือทั้งสองข้างกำลังบรรจงทิ่มแทงเข็มลงไปยังกลางหน้าอกของร่างเล็กๆตรงหน้าพร้อมกับบริกรรมคาถาไปด้วย..
“งึม งำ งึม งำ งึม งำ..!!!”
จึก จึก จึก..!!!
“แง..!!!!~ เจ็บๆ ๆ”เสียงของเด็กชายหรือก็คือช้างที่ไม่อาจอดกลั้นความเจ็บปวดได้ กู่ร้องออกมาทั้งน้ำตา พาลทำให้เข้มที่กำลังบรรจงทิ่มอยู่พลันต้องหยุดชะงักตามไปด้วย..
“อดทนหน่อย..อยากจะเข้มแข็งไม่ใช่หรอ..? อยากจะเป็นชายชาตรีไม่ใช่หรือยังไง..?”แววตาที่แข็งกร้าวจับจ้องมองลงมายังช้างอย่างจริงจัง ทำให้เด็กชายที่เห็นเช่นนั้นค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นมาพนมอีกครั้ง ก่อนจะบริกรรมคาถาอยู่ภายในใจ..
จึก จึก จึก..!!!
“กร่อด..!!!~”เสียงกัดฟันที่ดังเล็ดลอดออกมาจากร่างของช้าง ความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขาแบกรับค่อยๆปรากฏเป็นตัวอักขระ และรอยสักรูปช้างสามเศียร
หลังจากนั้นไม่นานนัก..~
“อดทนได้ดีนิ..เสร็จแล้ว..”อัครเดชที่พูดกับช้าง เมื่อเด็กชายลืมตาขึ้นมาก็ค่อยๆบรรจงก้มตัวกราบลงบนฝ่าเท้าของชายชราตรงหน้า เป็นอันเสร็จพิธีกรรม..
“พญาเอราวัณ..มหายันต์ในตำนานที่หายสาปสูญ เป็นยันต์เริ่มต้นของตระกูลเรา ถึงมันจะไม่มีวันเสื่อม แต่ขอให้เจ้าจงทำตามข้อบังคับ ทั้งสามประการอย่างเคร่งครัดด้วย..”อัครเดชที่ค่อยๆย่อตัวลงไปประคองร่างของช้างขึ้นมา..
“ข้อห้ามที่ 1 ห้ามคนเล่นหัว..”
[ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ชอบให้ใครมาจับหรือลูบหัวน่ะครับ..]
“ข้อห้ามที่ 2 ห้ามกินของเหลือจากผู้อื่น แต่กินร่วมกันได้..”
[ขอบคุณสำหรับน้ำใจครับ แต่ไม่เป็นไรผมยังไหว..]
“ข้อห้ามที่ 3 ห้ามด่าหรือว่าร้ายอาจารย์ซึ่งนั่นก็คือฉันเนี้ยแหละ..”
“ครับปู่ ผมจะจดจำเอาไว้..”เด็กชายที่ตอบกลับปู่ของเขา เมื่อชายชราเห็นเช่นนั้นก็เกิดความเอ็นดู จึงค่อยๆเอื้อมฝ่ามือไปหวังที่จะลูบศรีษะ
เพี๊ยะ..!!!
“ห้ามให้ใครมาจับหัว..!!”เด็กชายที่ตอบกลับเสียงแข็ง หลังจากที่สบัดแขนตบฝ่ามือของปู่ออก..
โปก..!!!
“โอ้ย..!!!”
“ฉันคือข้อยกเว้นโว้ยยย ไอ้เด็กบ้า..!!!”
ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน..
กรุ๊บ กรุ๊บ กรุ๊บ
เสียงของม้าที่กำลังควบวิ่งลากรถ และแรงสั่นสะเทือนจากเส้นทางที่ขรุขระ ช่วยปลุกให้ช้างที่กำลังหมดสติฟื้นขึ้นมา..
“อื้อ..~
“ชะ..ช้าง..!!!”ชบาที่ส่งเสียงเรียกช้างที่กำลังนอนอยู่บนตักของเธอ
ฟุบ..!!!
“นม..!!”
ชายหนุ่มที่ลุกพรวดขึ้นมานั่ง คำแรกที่เขาสบถออกมาเป็นความต้องการและสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากจะเห็นก่อนที่จะหมดสติ
เมื่อตั้งสติได้ช้างก็ทำกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่าในเวลานี้เขากำลังนั่งอยู่ภายในรถม้า ข้างๆคือชบาที่กำลังเอียงคอมองดูปฏิกริยาของเขาด้วยความสงสัย
“ฟื้นแล้วสินะเจ้าค่ะ..ท่านผู้มีพระคุณ..~”เสียงของหญิงสาวที่ดังมาจากที่นั่งฝั่งตรงข้ามเรียกสติของช้างให้คืนกลับมา
เมื่อช้างหันไปมองสิ่งที่พบก็คือหญิงสาวในชุดเมด คนที่เขาได้ช่วยชีวิตเอาไว้ ส่วนข้างๆเธอนั้นมีหญิงสาวอีกคนนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ ซึ่งก็เป็นคนเดียวกันกับที่ช้างได้เห็นตอนที่วิ่งลงมาจากรถม้า ก่อนที่เขาจะหมดสติไป
โดยหญิงสาวคนนั้นอยู่ในชุดเดรสเสื้อกระโปรงโทนสีดำ ลวดลายของชุดที่เธอกำลังสวมใส่มันช่างแปลกตา แต่พอมองดูแล้วก็เหมาะกับเธอเป็นอย่างมาก แถมทรงผมยังเป็นทรงทวินเทลปลายผมม้วนเป็นลอนๆ
“ขะ..ขอบใจ..ที่ช่วยมาเรียเอาไว้..”หญิงสาวผมสีน้ำทะเลที่พูดขึ้นด้วยท่าทีที่กำลังประหม่าอย่างเห็นได้ชัด..
‘คัพ A เล็กจัง..~’ผมที่คิดอยู่ภายในหัวอย่างเซงๆ หลังจากที่ทำการตรวจสอบหน้าอกหน้าใจของเธอคนนั้น แต่หน้าตาถือว่าอยู่ในระดับนางฟ้าอันนี้ก็พอจะให้อภัยได้อยู่..
“เสียมารยาท..!!!”แต่แล้วเธอคนนั้นก็ตวาดออกมา พร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดรัดหน้าอกของตัวเองเอาไว้ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ..
“ห้ะ..?”ผมที่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องร้องอุทานออกมา
“ต้องขออภัยแทนนายท่านของข้าด้วย เห็นแบบนี้แต่เขาก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร..”
“ชะ..ใช่..”
ตุบ..!!
“อุ๊ก..!!!”
ชบาที่โค้งศรีษะกล่าวขอโทษแทนผม ซึ่งผมก็กำลังจะพูดออกไปเหมือนกัน แต่ก็ถูกเธอศอกกลับเข้ามาที่ท้องน้อย จนได้แต่นั่งกุมท้องด้วยความจุกเสียด..
‘ข้อหาที่นายท่านไม่ยอมบอกฉันว่าชุดนี้เป็นชุดของคนรับใช้..!!’เสียงของชบาที่ดังก้องอยู่ภายในหัวของผม จากการที่เธอส่งกระแสจิตเข้ามา แถมยังสื่อทางสีหน้าว่ากำลังไม่พอใจ..
“อะ..เอ่อคือแนะนำตัวกันก่อนดีมั้ย..?”ผมที่ยิ้มแห้งๆฝืนความจุกเสียดกล่าวกับคนทั้งสองตรงหน้า ก่อนที่หญิงสาวผมสีน้ำเงินน้ำทะเลจะค่อยๆชันตัวลุกขึ้นยืน..
ฟุบ..
“ฉันชื่อ ลาติเนส แห่งตระกูล คอฟฟี้ ยินดีที่ได้รู้จัก..ส่วนนี่คือมาเรียแม่นมของฉันเอง..”หญิงสาวที่กล่าวแนะนำตัว พร้อมกับจับชายกระโปรงถอนสายบัวตามมารยาท
“ฉันก็ขอขอบพระคุณจากใจจริงที่คุณได้ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้..”มาเรียที่โค้งศรีษะให้ผม
“มะ..ไม่เป็นครับ ส่วน ผะ..ผมชื่อ หมื่นกรินณ์ แห่งตระกูล คชสาร หรือจะเรียกสั้นๆว่าช้างก็ได้..”ผมที่ตอบกลับมาเรียและลุกขึ้นยืน พร้อมกับยกมือขึ้นมาแนบหน้าอก ต่อด้วยโค้งตัวลงเล็กน้อย พลางกล่าวแนะนำตัวและคิดที่จะเอามั้ง โดยการบอกชื่อวงค์ตระกูลไป..
“หื้ม..? ตระกูลคชสาร ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเลย นายมาจากอาณาจักรอื่นงั้นหรอ..?”
“อะ..อะไรทำนองนั้น..”ผมที่ยิ้มแห้งๆเพื่อกลบเกลื่อน ส่วนชบาก็ได้แต่ชำเลืองสายตามองมาทางผมเป็นระยะๆ
ครึ้ม..!!!
“อ๊ะ..!!
ฟุบ..!!!
จู่ๆรถม้าที่กำลังขับเคลื่อนก็ได้ตกลงไปในหลุมขนาดใหญ่ ทำให้ลาติเนสที่ยืนอยู่เสียหลักเซเข้ามาหาผม ซึ่งผมก็ประคองรับร่างของเธอเอาไว้ได้ จึงทำให้ในเวลานี้เราทั้งสองอยู่ในลักษณะที่เหมือนกำลังสวมกอดกันอยู่..
ฟุบ..~
“ขออภัยที่เสียมารยาท..ไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกิน..”ผมที่รีบผละออกในทันที เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร ซึ่งอีกฝ่ายก็ค่อยๆย่อตัวลงกลับไปนั่งด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
“ขะ..ขอบใจ..”ลาติเนสที่ตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก
“ว่าแต่ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน..?”
“คุณหนูลาเต้ได้ให้พวกเราติดรถม้าของเธอมาด้วย..ตอนนี้พวกเรากำลังจะเดินทางไปที่เมืองหลวงกัน..”ชบาที่อธิบายถึงเรื่องราวในช่วงที่ผมหมดสติไปให้ฟัง..ว่าแต่ลาเต้นี้คือใคร..?
“ลาเต้..?”
“หมายถึงฉันเอง..มันเป็นชื่อเล่นน่ะ..”ลาติเนสที่พูดขึ้น..หวังว่าพ่อของเธอคงจะไม่ได้ชื่อเอสเปรซโซหรอกนะ..
“งั้นแสดงว่าเราก็กำลังออกเดินทางพร้อมกับขบวนรถม้ารับจ้างสินะ..”
“เปล่าเลย..รถม้าของเราออกเดินทางกันเอง..”
“แบบนี้มันจะไม่อันตรายหรอ..?”ผมที่ถามด้วยความสงสัย เพราะเส้นทางที่เรากำลังใช้ในการเดินทาง มันเป็นเส้นทางค่อนข้างที่จะอันตรายจากข้อมูลที่ผมเคยได้รับจากคนในเมือง.
“ลองมองออกไปดูสิ..”ลาเต้ที่พูดบอกผม ผมจึงค่อยๆแหงมเปิดผ้าม่านหน้าต่างของรถม้าและสอดส่องสายตามองออกไป ก่อนจะพบว่าบริเวณด้านนอกรอบๆรถม้า มีกลุ่มคนที่ขี่ม้าตามมาคอยประกบคุ้มกัน ถ้ากะด้วยสายตาก็มีอยู่ประมาณราวๆ 10 คนด้วยกัน..
“10 คนเองงั้นหรอ..?”
“อย่าได้ดูถูกเชียว เห็นแบบนั้นแต่พวกเขาเป็นถึงผู้อัญเชิญระดับ 1 ดาวที่มีทักษะการโจมตีสองรูปแบบเชียวนะ..”ลาเต้ที่อธิบายให้ผมฟัง ซึ่งผมก็เข้าใจอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ผู้อัญเชิญระดับ 1 ดาว ก็ไม่สามารถที่จะวัดระดับพลังได้ รูปแบบเฉพาะตัวของจิตวิญญาณอัญเชิญเท่านั้นที่เป็นตัวตัดสินความแข็งแกร่ง..
“แบบนี้ก็อุ่นใจขึ้นมาหน่อย..”ผมที่พูดและปั่นสีหน้าให้ดูเหมือนว่ากำลังโล่งใจ..
“แล้วอีกอย่างมาเรียก็เป็นถึงผู้อัญเชิญระดับ 2 ดาว ถ้าเมื่อกี้นายไม่เข้ามาช่วย ม้าตัวนั้นก็คงที่จะตายไปแล้ว..”
“คุณหนู..!!”
ลาเต้ที่พูดต่อ แต่ก็ถูกมาเรียที่เข้ามาขัดคอเอาไว้เสียก่อน แถมคำพูดที่เธอใช้เหมือนกำลังจะหลอกด่าผมทางอ้อมว่าเข้าเผือกยังไงไม่รู้..
“ขอโทษแทนคุณหนูด้วยเจ้าค่ะ เธอมักจะเป็นแบบนี้อยู่ประจำ..”มาเรียที่ขอโทษแทนผู้เป็นนาย
“ชิ..”ลาเต้ที่ส่งเสียงออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดอก แก้มขาวๆอมชมพูของเธอกำลังโป่งพอง พอผมมองๆดูแล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่น่ารักดี..
ตุบ..!!
“อุ๊ก..!!!”จู่ๆยัยชบาก็ศอกเข้ามาที่ท้องน้อยของผม แถมยังทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอยังคงนั่งสงบเสงี่ยมอยู่นิ่งๆ ยัยบ้าเอ๊ย..!!!
“หืม..”
“มีอะไรหรือเปล่า จะ..จุกงั้นหรอ ขะ..ขอโทษ..”ชบาที่สังเกตุเห็นว่าผมนั้นจู่ๆก็นิ่งเงียบ ก่อนที่เธอจะกล่าวคำขอโทษออกมา
“เปล่าไม่ใช่..”
ฟุบ..!!!
ผมที่ลุกออกจากที่นั่งและแหง่มเปิดผ้าม่านหน้าต่างของรถม้าดูอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าในตอนนี้ กลุ่มคนที่คอยคุ้มกันรถม้าทั้งสิบได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“เวรล่ะไง..”
ครึม..!!!!!!!
จู่ๆรถม้าทั้งคันก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้มันไม่ได้สั่นเพราะตกหลุมแต่อย่างใด แต่มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างที่กระโดดลงมาเกาะอยู่บนหลังคาของรถม้า..
“โดดเร็วเข้า..!!!!”ผมที่ตะโกนบอกทุกๆคน ก่อนที่มาเรียจะหิ้วปลีกพาร่างของลาเต้กระโดดออกไปนอกรถม้าในขณะที่มันยังคงเคลื่อนที่อยู่ ส่วนผมและชบาก็ไม่รอช้ารีบเปิดประตูอีกฝั่งและกระโดดตามออกไปในทันที
ฟุบ..!!!!×4
ร่างของผมและทุกๆคนที่กลิ้งไปกับพื้นดิน แต่ก็ไม่มีใครที่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก และเมื่อผมหันไปมองรถม้าที่กำลังเคลื่อนที่จากไป สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาของผมและคนอื่นๆก็คือร่างของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายคลึงกับกบ แต่มีขนาดที่ใหญ่เทียบเท่าได้กับรถม้าทั้งคัน มันกำลังเกาะอยู่บนหลังคาของรถม้า โดยที่บนหัวของมันมีร่างของคนชุดดำที่กำลังขึ้นขี่อยู่ อย่าบอกนะว่าคนที่กำลังขี่กบตัวนั้นอยู่จะเป็น..นะ..นารูโต..ถุ้ย..!!!
ฉับ..!!!!
โครม..!!!!
กบยักษ์ที่ตวัดลิ้นใส่หลังคาของรถม้า ผลปรากฏว่ารถม้าทั้งคันถูกลิ้นที่ตวัดผ่าให้แยกออกเป็นสองเสี่ยง
ฟุบ..!!
ตู้ม..!!!
ต่อจากนั้นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ก็ดีดตัวกระโดดออกจากรถม้า ก่อนจะตกลงมาสู่พื้นดินต่อหน้าของผมและคนอื่นๆ ระยะห่างของพวกเรากับมัน ห่างกันประมาณ 40 เมตรโดยประมาณ..
“หึๆ บุตรีแห่งตระกูลคอฟฟี้ ข้ามารับตัวของเจ้าแล้ว อย่าได้ขัดขืน ถ้ายังไม่อยากตาย..!!”เสียงของคนชุดดำที่ยืนอยู่บนหลังของกบยักษ์พูดขึ้น จากน้ำเสียงที่ได้ยินบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นชายที่ค่อนข้างมีอายุ
“กร่อด..ใครเป็นคนส่งแกมา..!! อยะ..อย่าบอกนะว่าจะเป็นฝีมือของตระกูลอาดัส..ท่านพ่อของฉันยกเลิกการหมั้นหมายไปแล้วไม่ใช่หรือยังไงกัน ทำไมถึงยังไม่เลิกมาตามรังควาญตระกูลคอฟฟี้ของฉันอีก..!!”ลาเต้ที่ตวาดถามออกมา สีหน้าของเธอแสดงให้เห็นถึงความโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก..
“หึๆ..ไม่ใช่คำถามที่ข้าจะต้องตอบ เคโรโรจับตัวของมันมา..!!”
“รับทราบ..!!!”เสียงทุ่มๆของกบยักษ์ที่ขานรับ ก่อนที่มันจะอ้าปากและยืดลิ้นยาวเข้าโจมตีลาเต้และมาเรีย..
“ระวัง..!!!”ผมที่ตะโกนเตือนลาเต้และมาเรีย ซึ่งผมและชบาในเวลานี้กำลังยืนดูอยู่ทางด้านหลังของคนทั้งสอง ห่างออกมาประมาณ 20 เมตร เห็นจะได้
“จิตวิญญาณอัญเชิญจงออกมา..!!!×2″ลาเต้และมาเรียที่กางฝ่ามือออกไปทางด้านหน้า ก่อนจะปรากฏเป็นวงเวทย์สีน้ำเงินบนฝ่ามือของลาเต้และวงเวทย์สีแดงเพลิงบนฝ่ามือของมาเรีย
ฟุบ..!!!!
ชิ้ง..!!!!
ฉับ..!!
สิ่งที่ปรากฏออกมาจากวงเวทย์ของลาเต้คืออัศวินในชุดเกราะหนักสีเงินที่สวมใส่เครื่องแต่งกายและหมวกเหล็กอย่างมิดชิด ตรงบริเวณเอวของอัศวินดังกล่าวสะพายดาบเคลย์มอร์อยู่สองเล่มด้วยกัน
อีกทั้งทันทีที่มันปรากฏตัวออกมา มันก็ทำการชักเคลย์มอร์ออกมาฟาดฟันลิ้นของกบยักษ์ที่พุ่งเข้ามาโจมตีจนขาดสะบั้น ทำให้กบยักษ์พลันต้องรีบหดลิ้นกลับเข้าไป..
ส่วนทางด้านจิตวิญญาณของมาเรียจะเป็นนกฟิกนิกซ์ตัวใหญ่ที่กำลังแผ่รัศมีความร้อนระอุไปทั่วบริเวณ ทำให้พื้นดินเริ่มที่จะถูกความร้อนดังกล่าวหลอมจนละลาย แต่ทว่าลาเต้ที่ยืนอยู่ข้างๆกับไม่เป็นอะไร
“เปร์โตส..!! เจ้าจงไปจัดการเจ้าจิตวิญญาณอัญเชิญระดับ 2 ดาวตัวนั้น เดี๋ยวผู้อัญเชิญฉันกับมาเรียจะเป็นคนจัดการเอง..”
“รับทราบเหนือหัว..!!”
ลาเต้ที่ออกคำสั่งกับจิตวิญญาณอัญเชิญของเธอที่ชื่อเปร์โตส หลังจากนั้นเธอก็ทำการถอดชุดเดรสที่กำลังสวมใส่อยู่ออก ก่อนที่มันจะเผยให้เห็นอีกชุดที่ซ่อนอยู่ภายใน ซึ่งชุดดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นรัดรูปสีดำ อีกทั้งมันยังทำให้ผมได้รู้ว่าจริงๆแล้วเธอนั้นเป็น..
“โลลิ..?”ผมที่สบถออกมาด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นว่าร้องเท้าที่เธอกำลังสวมใส่เป็นรองเท้าส้นสูงที่สูงเอามากๆ สาเหตุที่ตอนแรกไม่รู้เป็นเพราะว่ากระโปรงของเธอมีขนาดที่ยาวจนลากพื้น มันจึงคลุมปิดร้องเท้าดังกล่าวเอาไว้
ฟุบ..!!
ชิ้ง..!!!!!
“หะ..หื้ม..!!”ผมที่ส่งเสียงออกมาด้วยความแปลกใจ จากการที่ลาเต้ได้ถอดร้องเท้าส้นสูงออก ก่อนจะเดินอ้อมไปดึงเคลย์มอร์จากจิตวิญญาณอัญเชิญของเธอออกมา และทันทีที่ถอดรองเท้าออกความสูงของเธอก็กลับกลายเป็นหญิงสาวตัวเล็กกระทัดรัดพกพาสะดวกในทันที
ตุบ..!!!
ดูก็รู้อยู่แล้วว่าหญิงสาวร่างเล็กไม่มีทางที่จะยกดาบเคลย์มอร์ที่ใหญ่และหนักได้ ถึงแม้ว่าเธอจะใช้สองมือถือก็ตาม..
“น่าสนุกดีนิ..เคโรโรออกไปเล่นกับพวกมันสักหน่อยไป..อึก..อ๊วก..!!!”
ชิ้ง..!!!
ชายชุดดำที่กระโดดลงจากหลังของกบยักษ์ ก่อนที่มันจะขย้อนอะไรบางอย่างออกมาจากปาก และทันทีที่สิ่งนั้นปรากฏออกมา มันก็เผยให้เป็นดาบที่มีขนาดความยาวอยู่ในระดับกลาง
“นะ..นี่ พะ..พวกเธอ..!!”ผมที่เห็นว่าท่าไม่ดีตะโกนเรียกขานคนทั้งสอง จากข้อมูลที่รู้ๆมานึกว่าการต่อสู้จะมีเพียงแค่การต่อสู้ระหว่างจิตวิญญาณอัญเชิญด้วยกันเพียงเท่านั้น แต่เหตุการณ์ในตอนนี้มันก็ทำให้ผมได้รับรู้ว่ายังมีอะไรอีกมาที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับโลกใบนี้..
“อย่าได้เข้ามายุ่ง นี่..เป็นการต่อสู้ของฉันกับมาเรีย..”ลาเต้ที่หันมาพูดกับผมด้วยดวงตาที่แข็งกร้าว แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าเธอแค่ไม่อยากจะให้คนนอกต้องเข้ามาเดือดร้อนเพราะเธอ
“มาเรีย..!!!”
“ค่ะ..คุณหนู..!! ไฟเยอร์เจ้าจงไปจัดการกับจิตวิญญาณอัญเชิญตนนั้น..!!”มาเรียที่ขานรับคำสั่งของลาเต้ ก่อนที่เธอจะหันไปออกคำสั่งกับจิตวิญญาณอัญเชิญของตัวเอง พลันดึกมีดสั้นที่เหน็บซ่อนเอาไว้อยู่ตรงบริเวณต้นขาออกมา
“เอาล่ะนะ..!!!”ลาเต้ที่ส่งเสียงตวาด..
“เชื่อมจิตวิญญาณ..!!!!×2”
ตู้ม..!!!!
เสียงตะโกนของลาเต้และมาเรียที่ดังผสานกัน เป็นเวลาเดียวกันกับที่ร่างของพวกเธอจะเปล่งประกายออร่าสองสีออกมา การเชื่อมวิญญาณที่พวกเธอตะโกนออกมานั้น ผมไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร แต่สิ่งที่รู้คือในเวลานี้ลาเต้กำลังยกเคลย์มอร์ขึ้นมาพาดบ่าเอาไว้ แถมเธอยังถือมันด้วยแขนเพียงแค่ข้างเดียว..
ส่วนมาเรียรอบๆตัวของเธอกำลังแผ่กระจายรัศมีความร้อนออกมาแบบเดียวกันกับจิตวิญญาณอัญเชิญของเธอ มันก็ยิ่งทำให้ผมตะลึงหนักยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนชบาที่อยู่ข้างๆก็ได้แต่จับจ้องมองไปยังร่างของคนทั้งสองอย่างไม่กระพริบตา..
ชิ้ง..!!!!
“ด้วยเกียรติแห่งตระกูลอัศวิน ฉันจะลงทัณฑ์แกเอง..!!!”ลาเต้ที่ชี้ดาบไปยังร่างของชายชุดดำ พร้อมกับแผดเสียงประกาศกล่าว..!!
Chapters
Comments
- ตอนที่ 20 พฤษภาคม 23, 2022
- ตอนที่ 19 พฤษภาคม 23, 2022
- ตอนที่ 18 เมษายน 30, 2022
- ตอนที่ 17 เมษายน 30, 2022
- ตอนที่ 16 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 15 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 14 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 13 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 12 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 11 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 10 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 9 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 8 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 7 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 6 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 5 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 4 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 3 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 2 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 2 เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 1 เมษายน 29, 2022
MANGA DISCUSSION