เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1625 ผลวิญญาณดั้งเดิม / ตอนที่ 1626 ภัยพิบัติที่คาดไม่ถึง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 1625 ผลวิญญาณดั้งเดิม / ตอนที่ 1626 ภัยพิบัติที่คาดไม่ถึง
ตอนที่ 1625 ผลวิญญาณดั้งเดิม / ตอนที่ 1626 ภัยพิบัติที่คาดไม่ถึง
ตอนที่ 1625 ผลวิญญาณดั้งเดิม
“ท่านนั่งตรงนี้ก็แล้วกัน!” ชายชราพาเขาไปนั่งที่โต๊ะว่างตัวหนึ่งตรงมุมห้อง แล้วถามว่า “จะเอาสุราหน่อยหรือไม่? คิดเงินแยกอีกต่างหาก”
“ไม่ล่ะ” เฟิ่งเซียวตอบ แล้วนั่งลงข้างโต๊ะ แล้วหยิบอาหารแห้งออกมากินจากห้วงมิติเอง
เห็นอย่างนั้น ชายชรายิ้มๆ แล้วค่อยเดินลงไปชั้นล่าง
“ฮ่า เจ้ามาใช้เส้นทางนี้ได้อย่างไร? อีกอย่างยังมาคนเดียวด้วย? ใจกล้าไม่เบาเลยนะ! เจ้าก็มาเพราะผลวิญญาณดั้งเดิมหรือ?” ผู้บำเพ็ญตนคนหนึ่งถามเฟิ่งเซียว
“ผลวิญญาณดั้งเดิมอะไรหรือ? ข้าแค่ถามทาง แล้วรู้มาว่าเส้นทางนี้ใกล้กว่าก็เท่านั้น ไม่รู้จักผลวิญญาณดั้งเดิมอะไร” เฟิ่งเซียวตอบ ไม่รู้จักผลวิญญาณดั้งเดิมที่เขาพูดถึงเลยสักนิด
“ฮ่าๆ อย่างนี้เองหรือ? เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเจ้าโชคดีหรือโชคร้ายดี” คนผู้นั้นหัวเราะเสียงดัง บอกว่า “ผู้บำเพ็ญตนที่นี่ส่วนใหญ่มาเพราะผลวิญญาณดั้งเดิมทั้งนั้น ผลวิญญาณดั้งเดิมเป็นของดีเชียวล่ะ หนึ่งผลสามารถทำให้พลังเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้น เป็นของดีที่มีไม่มาก
เพียงแต่แม้มันจะเป็นของดี แต่กลับเด็ดได้ยากมาก เพราะผลวิญญาณดั้งเดิมเติบโตในที่ที่หนาวสุดขีด มีหมื่นวิญญาณคอยคุ้มกัน แล้วก็เพราะเหตุผลนี้ ภูเขาแถบนี้จึงถูกขนานนามว่าเขาวิญญาณอย่างไรเล่า”
เฟิ่งเซียวชะงักเล็กน้อย เขาเพียงผ่านทางมา แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะเดินทางตามเส้นทางที่คนคนนั้นบอกจนจับพลัดจับผลูมาอยู่ที่นี่ได้ ไม่น่าเล่าชายชราถึงได้บอกว่าเดินทางยามกลางคืนจะออกไปจากเขาลูกนี้ไม่ได้ ที่แท้ก็เพราะอย่างนี้เอง
สถานที่หมื่นวิญญาณงั้นหรือ? เช่นนั้นก็คงเป็นที่ที่หนาวเย็นจับใจ อีกทั้งคืนนี้ก็เหมือนจะเป็นคืนจันทร์เต็มดวง เป็นช่วงที่พลังหยินรุนแรง หากอยู่ที่นี่ต่อไป จะเป็นอะไรหรือไม่…
เขาลอบกังวลในใจ ทว่าในเวลานี้ เสียงของหงส์ไฟที่เกาะอยู่บนไหล่ดังเข้ามาในหูเขา
“ไม่ต้องห่วง อย่างไรก็มีข้าอยู่”
ได้ยินเสียงของหงส์ไฟ เฟิ่งเซียวจึงคลายใจเล็กน้อย พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ใช่แล้ว เขาไม่ได้เดินทางตัวคนเดียว ยังมีหงส์ไฟอยู่ข้างกาย หากมีเรื่องอะไรที่รับมือไม่ได้จริงๆ ก็ยังมีหงส์ไฟอยู่
นึกมาถึงตรงนี้ เขาสงบจิตใจ ผลวิญญาณดั้งเดิมอะไรเขาไม่อยากได้ ฉวยโอกาสนี้รีบพักผ่อนเอาแรงดีกว่า
ด้วยเหตุนี้ เขาหยิบอาหางแห้งขึ้นมากิน แล้วยังเตรียมไว้ให้หงส์ไฟด้วยส่วนหนึ่ง เหล่านักบำเพ็ญที่กำลังดื่มสุราพูดคุยกันเห็นหงส์ไฟที่กระโดดลงมาจากไหล่เขา ก็พากันหัวเราะ
“ไม่ใช่กระมัง? นกตัวนี้เป็นสัตว์คู่พันธะสัญญาของเจ้า? น่าอนาถเกินไปแล้ว”
“นกที่บีบมือเดียวก็ตายอย่างนี้จะมีประโยชน์อะไร? ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าสัตว์พันธะสัญญาของผู้ฝึกพลังเร้นลับจะเป็นอย่างนี้”
“นั่นสิ พลังต่อสู้ของผู้ฝึกพลังเร้นลับเดิมก็ไม่ได้เรื่องอยู่แล้ว สัตว์คู่พันธะสัญญายังเป็นนกตัวเล็กอย่างนี้อีก ช่างเปิดโลกกว้างจริงๆ ฮ่าๆๆๆๆ!”
เฟิ่งเซียวที่กินอาหารแห้งอยู่เงยหน้ามอกพวกเขา แล้วบอกว่า “ข้าว่าสัตว์คู่พันธะสัญญาของข้าจะเป็นอะไร ก็ไม่เกี่ยวกับพวกท่าน”
“ไม่เกี่ยวหรอก พวกข้าก็แค่เห็นว่าน่าสนใจดี” คนคนหนึ่งตอบ ส่ายหน้าแล้วไม่สนใจเฟิ่งเซียวอีก หันไปพูดกับผู้บำเพ็ญตนโต๊ะเดียวกัน “มาๆ ดื่มอีกสักถ้วย”
เฟิ่งเซียวละสายตาออกไป หลังกำชับหงส์ไฟก็ร่ายเขตอาคมเก็บเสียงเล็กๆ ไว้ข้างกาย จากนั้นก็พิงกำแพงหลับตาพักผ่อน ไม่มีเสียงข้างนอกเหล่านั้น โลกทั้งใบราวกับสงบลงมา กอปรกับเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางอย่างเร่งรีบมาตลอดทาง ไม่นาน เขาก็หลับไปอย่างสะลึมสะลือ
ตกดึก จู่ๆ ลมก็กรรโชกแรง สายลมที่กรีดพัดผ่านไปราวกับพายุที่ม้วนตัวอยู่…
………………………………….
ตอนที่ 1626 ภัยพิบัติที่คาดไม่ถึง
ประตูโรงเตี๊ยมราวกับถูกมือที่กำลังมองไม่เห็นหลายคู่เคาะตี เกิดเป็นเสียงดังโครมคราม โคมไฟข้างนอกโยกตัวตามสายลม แสงไฟถูกลมแรงพัดจนดับ เหลือเพียงความมืดมิด
ฟังเสียงเคลื่อนไหวข้างนอก คนในโรงเตี๊ยมต่างก็เงียบกริบ นอกจากคนที่ดื่มสุราจนเมาหลับหน้าฟุบโต๊ะไปแล้ว คนอื่นต่างจ้องมองไปข้างนอกด้วยสีหน้าระแวดระวัง
คนในโรงเตี๊ยมชั้นล่างเป็นเช่นนี้ บนชั้นสองก็เช่นกัน เพียงแต่เทียบกับคนที่อยู่ชั้นล่าง พวกเขารู้สึกเบาใจกว่าเล็กน้อย เพราะพวกเขามีเขตอาคมคุ้มกันมากกว่าคนข้างล่างหนึ่งชั้น
ขณะที่แต่ละคนกำลังจ้องไปข้างล่างอย่างระวังตัว ตรงมุมห้องของชั้นสอง เฟิ่งเซียวกลับกำลังหลับสนิท เพราะเขาร่ายอาคมเก็บเสียงเอาไว้ ไม่ได้ยินเสียงข้างนอก ย่อมไม่ได้ยินเสียงสายลมแปลกๆ ที่ชวนให้ขนลุกนั่นด้วย
“เหอะ! คนคนนี้กลับใจแข็งนัก”
ผู้บำเพ็ญตนคนหนึ่งเหลือบมองเฟิ่งเซียวที่กำลังหลับสนิท แล้วยิ้มหยัน “อีกเดี๋ยวจะตายอย่างไรยังไม่รู้”
คนอื่นๆ เองก็หันไปมองเฟิ่งเซียวตรงมุมห้อง สายตาบ่งบอกว่ากำลังรอดูเรื่องสนุก
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ยิ่งใกล้ยามจื่อ[1] บ้างก็เตรียมตัวออกไปข้างนอก บ้างก็ตั้งใจจะเป็นเพียงผู้ชม สถานที่ที่ผลวิญญาณดั้งเดิมอยู่ คือหุบเขาด้านหลังที่ห่างจากที่นี่ไม่ถึงสามสิบจั้ง
คนที่อยู่ชั้นล่างออกไปด้วยกัน แม้รู้ว่ายามจื่อพลังหยินรุนแรง แต่คืนนี้เป็นคืนที่ผลวิญญาณดั้งเดิมสุกและร่วงจากต้น ร้อยวิญญาณจะแย่งชิง แล้วนับประสาอะไรกับพวกเขาเล่า?
ต้องรู้ไว้ว่า แม้จะเป็นวิญญาณหากได้ผลวิญญาณดั้งเดิมไปก็จะมีอายุบำเพ็ญร้อยปี และหากพวกเขาอยากได้ผลวิญญาณดั้งเดิมนั่น ก็ต้องแย่งชิงกับวิญญาณเหล่านั้น!
คนในโรงเตี๊ยมออกไปทีละคน บ้างก็ไปด้วยกัน บ้างก็ไปคนเดียว ไม่นาน แม้แต่คนบนชั้นสองก็ออกไปกันแล้ว มีเพียงชายชราที่เดินเก็บของอยู่ในโรงเตี๊ยมคนเดียว
ยามมาถึงชั้นสอง เห็นว่าเฟิ่งเซียวที่อยู่ตรงมุมห้องกำลังหลับสนิท ชายชราคนนั้นยิ้มๆ แล้วเดินไปนั่งลงที่ด้านหนึ่ง
ยามจื่อ ดวงจันทร์ถูกพยับเมฆปิดบังจนมิด ในเวลานี้เอง ประตูโรงเตี๊ยมถูกลมแรงพัดเปิด ลมกลางคืนอันหนาวเหน็บและเสียงวิญญาณโหยหวนดังเข้ามา แล้วยังมีเงาสีขาวรางๆ ลอยเข้ามา
โต๊ะที่ชั้นหนึ่งถูกกระแทกล้มไปด้านหนึ่ง เงาสีขาวนับไม่ถ้วนลอยเข้ามาและอาละวาดไปทั่วสี่ทิศ เหล่าผู้บำเพ็ญตนที่เมาหลับอยู่ที่ชั้นหนึ่งสั่นสะท้านไปทั้งตัว จากนั้นก็ลุกขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆ…”
เสียงหัวเราะดังออกมาจากปากของผู้บำเพ็ญตนพวกนั้น ภายใต้แรงกดดันอันสะท้านสะเทือน กระแสอากาศสั่นสะเทือนเล็กน้อย ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยว สายตาตวัดขวับ หันขึ้นมามองคนที่อยู่บนชั้นสอง
“แย่แล้ว! พวกเขาถูกผีเข้าสิงแล้ว!”
เหล่าผู้บำเพ็ญบนชั้นสองหน้าเปลี่ยนสี มองดูผู้บำเพ็ญตนที่ถูกผีสิงพวกนั้นกำลังพยายามทำลายเขตอาคมแล้วบุกเข้ามา ก็อดหันไปมองชายชราที่นั่งอยู่ด้านหนึ่งไม่ได้ “เขตอาคมนี้ต้านทานพวกมันได้หรือไม่?”
ชายชราลูบหนวด เหลือบมองแวบหนึ่ง “เขตอาคมนี้ป้องกันผี ไม่ได้ป้องกันคน หากเดาไม่ผิด เขตอาคมนี้ต้านทานการโจมตีจากคนพวกนั้นได้ไม่กี่ครั้ง”
“อะไรนะ? ตาเฒ่านี่! ต้านการโจมตีได้ไม่กี่ครั้งเจ้าก็ยังมีหน้ามาเก็บพวกข้าคนละหนึ่งร้อยเหรียญทองงั้นหรือ?” พวกเขาโวยวายอย่างหัวเสีย ในมือถือกระบี่เตรียมตัวสู้
แต่ทว่า ในตอนที่พวกเขาเพิ่งจะพูดจบ เขตอาคมที่ชั้นสองก็ถูกทำลายเสียงดังบึ้ม ผู้บำเพ็ญตนเหล่านั้นที่ถูกผีสิงยังไม่ทันพุ่งเข้ามา วิญญาณนับไม่ถ้วนก็ลอยเข้ามาก่อน หมายจะเข้าสิงร่างพวกเขา…
………………………………….
[1] ยามจื่อ หมายถึงเวลาเที่ยงคืน