เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 295 ผู้หญิงของแกถูกกู้ซานเยี่ยอุ้มไปแล้ว!
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 295 ผู้หญิงของแกถูกกู้ซานเยี่ยอุ้มไปแล้ว!
บทที่ 295 ผู้หญิงของแกถูกกู้ซานเยี่ยอุ้มไปแล้ว!
“ฉันจะไม่ฆ่าแก แต่จะทำให้แกพิการ ทำให้แกไม่สามารถมีลูกหลานได้อีก”
พอเขาโบกมือ คนที่อยู่ด้านข้างก็ผลักเหอซานไห่ลง และทำให้เขากางแขนกางขาออก
หลัวชิงซานหยิบมีดขึ้นมา ต้องการจะแทงที่ไหนสักแห่งบนตัวเหอซานไห่
เมื่อเจียงหว่านเห็นอย่างนั้นก็ไม่คิดซ่อนตัวอีกต่อไป เธอใช้เท้าถีบหน้าต่างแล้วเข้าไปข้างในทันที
ทว่าตอนเธอกำลังจะกระโดดไปบนหน้าต่างก็ถูกเฉียวเหลียนเฉิงห้ามไว้เสียก่อน
“เข้าไปทางประตู ผมกลัวว่าคุณจะติดหน้าต่างเอา”
ยังไม่ทันจะเอ่ยจบ เฉียวเหลียนเฉิงก็พุ่งเข้าไป และต่อสู้กับคนที่อยู่ภายในแล้ว
เจียงหว่านมองไปยังหน้าต่าง แล้วจำใจหันหน้าเดินเข้าไปยังทางประตู
แต่ขณะที่เปิดประตู ก็มีคนสวนออกมา
เจียงหว่านยกขาเตะคนที่อยู่ด้านหน้าทันที
คนที่อยู่ด้านหน้าคนนั้นค่อนข้างผอม เพียงชั่วพริบตาเขาก็เสียการทรงตัว และล้มลงไป
เพราะว่ามีคนอัดอยู่ในห้องมาก การล้มลงครั้งนี้จึงราวกับโดมิโนที่ล้มต่อ ๆ กันไป
เวลานี้เฉียวเหลียนเฉิงได้พุ่งเข้าไปชิงตัวเหอซานไห่ออกมาแล้ว และได้ชกหลัวชิงซานเข้าไปอีกหนึ่งหมัด
หลัวชิงซานถึงกับโกรธจัด “พวกแกอีกแล้ว ทำถึงได้เป็นพวกแกอีกแล้ว!”
เขายังตะโกนไม่ทันจบ เจียงหว่านก็ยิ้มกริ่มมองเขา แล้วเอ่ยถาม
“หลัวชิงซาน แกปีนออกมาจากหลุมได้แล้วเหรอ!”
หลัวชิงซานโกรธจัด “พวกแกคือคนที่ถีบฉันลงหลุม!”
เจียงหว่านชูนิ้วชี้ขึ้นแล้วส่ายไปมาพลางปฏิเสธ “ไม่ ๆ ไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นฉันต่างหาก!”
“ฉันถีบแกลงไปเอง แต่น่าเสียดายที่ลูกถีบเบาไปหน่อย ไม่อย่างนั้นแกคงจะกระเด็นไปไกลกว่านั้น!”
หลัวชิงซานแทบคลั่ง เขาคำรามเสียงเกรี้ยว “นังอ้วน ฉันจะฆ่าแก!”
พูดจบเขาก็จับมีดสั้นพุ่งเข้าหาเจียงหว่านทันที
แต่เพิ่งจะวิ่งได้ไม่กี่ก้าว เฉียวเหลียนเฉิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ขยับตัว
และเพราะตอนนี้ชายหนุ่มชอบศึกษาหนังสือโบราณเป็นอย่างยิ่ง พอมีเวลาว่างก็จะอ่าน นั่นจึงทำให้เขาเข้าใจเกี่ยวกับจุดฝังเข็มบนร่างกายมนุษย์มากยิ่งขึ้น
เขายกเท้าขึ้น ใช้นิ้วเท้าเตะไปที่จุดฝังเข็มตรงขาของอีกฝ่ายโดยไม่ได้ใช้แรงอะไรมาก
แต่แค่นั้นหลัวชิงซานก็พลันรู้สึกขาชาแล้ว และร่างกายก็สูญเสียการทรงตัว ก่อนจะล้มลงกับพื้น
เขาตะเกียกตะกายจะลุกขึ้น แต่ขาข้างที่ถูกเตะกลับชามากขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ขาข้างนั้นก็ไร้ความรู้สึก ไม่รับรู้สิ่งใดอีก
เจียงหว่านจึงรีบพุ่งเข้าไปเตะมีดของอีกฝ่ายให้ปลิวออกไป
และชกเข้าที่หน้าของหลัวชิงซานอีกสองหมัดเต็ม ๆ
หลังชิงซานเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงตีลังกาถอยหลัง
เขามองไปยังลูกน้อง โดยไม่ทันระวังก็ถูกเฉียวเหลียนเฉิงเตะจนพลิกคว่ำไปอีกรอบ
เพราะว่าห้องมีขนาดเล็ก เมื่อมีคนหนึ่งล้มก็จะล้มกันไปทั้งแถบ
แล้วแบบนี้จะสู้ได้ยังไง!
หลัวชิงซานกัดฟันแน่น รีบตะโกนออกสั่ง
“ทุกคนหยุด!”
บรรดาลูกน้องต่างหยุดนิ่ง พากันถอยไปข้างหลัง แล้วล้อมหลัวชิงซานไว้
หลัวชิงซานมีสีหน้าเคร่งขรึม “จะล้อมฉันไว้ทำไม ไสหัวออกไป”
คนในห้องตอบรับคำสั่ง และเตรียมพากันออกไป ทว่าเจียงหว่านไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น
“ฉันให้พวกแกไปแล้วเหรอ? พวกแกคิดว่าที่นี่คือที่ไหน อยากมาก็มา อยากไปก็ไปได้เหรอ?!”
หลัวชิงซานตะโกนอย่างหัวเสีย “นังอ้วน! ตอนนี้เสบียงทั้งเมืองหลินเฉิงนอกจากเสบียงสาธารณะและที่ชาวบ้านเก็บไว้ ก็ล้วนแต่อยู่ในมือฉัน”
“ตราบใดที่เธอไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องของเจ้าตาบอดเหอนั่น ฉันอาจจะแบ่งขายให้เธอสักส่วนนึง! ไม่อย่างนั้น ฉันรับประกันได้เลยว่าเธอจะไม่ได้อะไรแม้แต่น้อย!”
เจียงหว่านนิ่งเงียบ ก่อนจะพูดว่า
“ฉันเต็มใจจะทำงานร่วมกับใครก็จะทำกับคนนั้น”
“และคนอย่างแก หลัวชิงซาน แกมันเย่อหยิ่งถือดี!”
“แกคิดว่าแกผิดใจกับฉันเหรอ? เปล่าเลย! คนที่แกผิดใจด้วยคือมู่เหย่!”
หลัวชิงซานตะคอกอย่างดูถูก “มู่เหย่แล้วทำไม คนที่สนับสนุนฉันมีอำนาจมากกว่ามู่เหย่ เธอคิดว่าฉันจะกลัวหมอนั่นอย่างนั้นเหรอ”
เจียงหว่านประสานฝ่ามือแล้วหัวเราะออกมา
“แกวางใจได้ ฉันจะบอกความจริงกับมู่เหย่ ถึงตอนนั้นแกก็จะเข้าใจสิ่งที่เรียกว่าอูฐผอมตายก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า[1]* ว่ามันมีความหมายว่ายังไง!”
ใบหน้าของหลัวชิงซานเคร่งขรึมขึ้น แววตาที่มองไปยังเจียงหว่านมีเพียงความฉุนเฉียว
เวลานี้เจียงหว่านไม่อยากเอาจริงเอาจังกับเขา จึงยิ้มกริ่มพลางพูดต่อ
“อยากจะฆ่าฉันมากใช่ไหม?”
“โอ้ใช่!” จู่ ๆ เจียงหว่านก็อุทานออกมา ราวกับนึกอะไรได้ “แกคงยังไม่รู้สินะว่าหลิวเชี่ยนเชี่ยนสุดที่รักของแกถูกกู้ซานเยี่ยพาตัวไปแล้ว!”
ครั้งนี้สีหน้าของหลัวชิงซานเปลี่ยนไปทันที “เธอ เธอพูดอะไร?”
เจียงหว่านหัวเราะเบา ๆ “ร้อนรนแล้วเหรอ? ฉันคิดว่าแกจะไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นเสียอีก!”
“เธอถูกกู้ซานเยี่ยพาตัวไปยังหมู่บ้านเซี่ย อ้อ ไม่สิ! เธอถูกกู้ซานเยี่ยอุ้มไป!”
ตอนนี้ใบหน้าของหลัวชิงซานซีดเผือดราวกับไร้เลือด
หลัวชิงซานมองไปยังสองสามคนที่อยู่เบื้องหน้า สุดท้ายก็ยกนิ้วชี้หน้าพวกเขา “พวกแกรอก่อนเถอะ!”
“พวกเราไป!”
สั่งจบ เขาก็พุ่งตัวออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
คราวนี้เจียงหว่านไม่ได้ห้ามใด ๆ เพียงมองทั้งหมดขึ้นรถตู้แล้วออกไปเท่านั้น
สถานการณ์คับขันจบลงแล้ว เจียงหว่านจึงไปหาหลี่ป้านเซี่ย
“คนคนนี้คือเหอซานไห่สามีของหลิวเชี่ยนเชี่ยน” เจียงหว่านจงใจแนะนำคนทั้งสอง
หลี่ป้านเซี่ยมีสีหน้าเคร่งขรึม พลางพยักหน้าไปทางเหอซานไห่
ภายในห้อง หลังจากที่นั่งลงกันแล้ว เหอซานไห่ก็มองเจียงหว่าน
“หลัวชิงซานตกหลุมพรางไปแล้ว ผมได้ยินมาว่าเขายืมเงินกู้ซานเยี่ยสามหมื่นหยวน!”
ดวงตาของเจียงหว่านเป็นประกาย “สามหมื่นหยวน? ดีมาก!”
“ถ้าเป็นแบบนี้พวกเราก็ฉลองได้เลย!”
เหอซานไห่ส่ายหน้า “ยังไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลาครับ!”
เจียงหว่านประหลาดใจ
เหอซานไห่ตอบ “คนของผมเห็นสัญญาของพวกเขาแล้ว หลัวชิงซานกับกู้ซานเยี่ยตกลงชำระเงินคืนในเจ็ดวัน”
“หากเลยเจ็ดวันแล้ว ดอกเบี้ยก็จะเป็นร้อยละเจ็ด ทบต้นทบดอก!”
“หลัวชิงซานดำเนินกิจการที่เมืองหลินมาหลายปี และมีสินค้าอยู่ในมือ ยังไงเขาก็คงหาวิธีขายออกไปให้ได้ราคาจนได้ เว้นเสียแต่ว่าจะมีสาเหตุพิเศษที่บังคับให้เขาปล่อยมือเร็วขึ้น”
“ถ้าหากพวกเราลงมือตอนนี้ หลัวชิงซานก็จะได้รับผลกระทบหนัก แต่ก็จะไม่ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว!”
“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเขาเป็นสุนัขจนตรอก เสบียงเหล่านั้น ถึงแม้จะขายก็คงจะไม่ขายให้พวกเรา!”
เจียงหว่านขมวดคิ้ว เพราะที่พูดมาจนถึงตอนนี้ก็เห็นแล้วว่า ยังสร้างความกดดันและความเสียหายได้ไม่พอ!
หลัวชิงซานถือเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่ง และพ่อของเขาอย่างหลัวเยว่ก็กิจการที่นี่มานานหลายปี เส้นสายก็ถือว่ามีอยู่
หากหลัวชิงซานมีปัญหา ก็เกรงว่าคนเหล่านั้นจะช่วยลงมือ
เจียงหว่านเงียบ ดวงตามองไปที่หลี่ป้านเซี่ยโดยไม่รู้ตัว และเธอก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ในเมื่อพวกเราทำให้หมอนั่นจบเห่ไม่ได้ งั้นก็ให้คนที่สามารถบีบบังคับเขาได้ลงมือสิ!”
เหอซานไห่ถึงกับสงสัย
เจียงหว่านหรี่ตามองไปยังหลี่ป้านเซี่ย “หมอหลี่ คุณรู้หรือเปล่าว่าสามารถตามหาหลิวเชี่ยนเชี่ยนได้ที่ไหน?”
เมื่อได้ยินชื่อของหลิวเชี่ยนเชี่ยน เหอซานไห่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่าก็มิได้ถามอะไรออกมา
หลี่ป้านเซี่ยรู้เจตนาในใจของเจียงหว่าน จึงบอกว่า “ฉันทำให้แม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้ว เรื่องนี้ฉันจะไม่ช่วย!”
เจียงหว่านยิ้มเย็น “คุณไม่ต้องช่วยฉัน แต่ช่วยตัวคุณเองก็พอ”
“ตอนนี้คุณทำให้ลูกของหลิวเชี่ยนเชี่ยนเสีย หลัวชิงซานกับกู้ซานเยี่ยเกลียดชังคุณเข้ากระดูก คุณรู้ไหมว่าแบบนี้เรียกว่าอะไร? เรียกว่าโกรธแล้วพาลไงล่ะ!”
หลี่ป้านเซี่ยขมวดคิ้วพลางพูดแก้ต่าง
“แต่ฉันไม่ได้ทำให้เด็กนั่นเสียนะ ตอนที่หลิวเชี่ยนเชี่ยนมาหาฉัน เด็กก็เสียชีวิตไปแล้ว!”
เจียงหว่านพูดพร้อมยิ้มออกมา “แต่พวกเขาไม่รู้นี่!”
ได้ยินประโยคที่บอกว่าเด็กเสียชีวิต สายตาของเหอซานไห่ก็ล่องลอย นัยน์ตาเรียบเฉย ทว่ากลับเต็มไปด้วยความดูถูก!
เจียงหว่านพูดต่อ “หากทำให้กู้ซานเยี่ยกับหลัวชิงซานมีเรื่องกัน นั่นเป็นการหันเหความสนใจชั้นดีเลยล่ะ ถึงตอนนั้นพวกเขาก็จะไม่มาคิดบัญชีกับคุณอย่างแน่นอน”
“แค่นี้คุณก็ปลอดภัยแล้ว!”
หลี่ป้านเซี่ยเงียบนิ่ง และยังคงไม่เห็นด้วย “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องทำร้ายหลิวเชี่ยนเชี่ยนด้วยน่ะสิ!”
[1] อูฐผอมตายก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า หมายถึง ถึงแม้จะพบเจอปัญหาทำให้สะดุด แต่สภาพความเป็นอยู่ของเขาก็ยังดีกว่าอีกหลายคน