หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ - ตอนที่ 104 เป็นบ้าอะไรของคุณ
ลู่จือสิงหันมามองฉัน สายตาเหมือนรู้อะไรบางอย่าง
ฉันยื่นอยู่ตรงนั่น ไม่รู้ว่าสีหน้าของตัวเองเป็นยังไง แต่ตอบกลับไปด้วยสีหน้าเรียบๆ "เพื่อนฉันพึ่งคลอดลูก คุณมีปัญหาไร?"
เขากลับก้าวมาทางฉัน"คุณหรือเพื่อนคุณกันแน่ที่พึ่งคลอดลูก"
เขาเดินเข้ามาทีละก้าว สายตาจ้องมองมาที่ฉัน
เขาจ้องฉันจนฉันรู้สึกกังวล เม้มปากไว้แต่ไม่พูดอะไร
"ซูยุ่น อย่าให้รู้ว่าคุณโกหกผมละกัน"
เขาพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ ทำเอามือฉันเหงื่อชุ่มทันที
ดีที่เขาพูดจบแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป เริ่มหาแหวนตั้งแต่ต้นจนจบอย่างตั้งใจ
"คุณเคยทิ้งของเดิมๆไหม"
ฉันชะงักไปแปบนึ่ง และตอบไปว่า "ไม่เคย"
พูดจบ ฉันก็คิดถึงอะไรบางอย่าง :"ลู่จือสิง ไม่ต้องหาแล้ว"
เขาเปิดกระเป๋าเดินทางของฉัน ฉันก็หาหลายรอบแล้วก็หาไม่เจอ มันก็ไม่มีอะไรอยู่เลย
ฉันคิดถึงตอนนี้เลิกลากัน ยกมือไปดึงเขาไว้
เขาหันมาหาฉัน ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา
ฉันรู้สึกผิดทันที แต่ก็ผิดที่ฉัน ฉันเลยลดเสียงน้อยลง:"แหวน น่าจะถูกฉันทิ้งไปแล้ว!"
ลู่จือสิงได้ยินเสียงฉันสีหน้าก็เปลื่ยนเลย สะบัดมือฉันออก:"ทิ้งแล้ว?"
ฉันไม่กล้าเถียงกับเขา:"ฉันไม่แน่ใจ แต่ปีที่แล้ว ตอนที่เราเลิกกัน ฉันทิ้งของหมดแล้ว"
:"ซูยุ่น คุณนี้มันจริงๆเลย คุณโยนทิ้งแล้วจริงๆ!"
เขาพูดอยู่ก็เตะไปที่กำแพง
ทำเอาฉันสะดุ้งจนรู้สึกทนไม่ไหว เลยจับแขนเขาแล้วบอกกับเขาว่า:"เป็นบ้าอะไรของคุณเนี้ย!"
:"เป็นบ้าเหรอ? คุณรู้ไหมว่าคุณทิ้งอะไรไป? นั้นคือแหวนที่คุณยายเก็บไว้ให้ผม!"
ฉันรู้ว่าแหวนหายแล้วเป็นความผิดของฉัน แต่ความรับผิดชอบหลักของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวฉันเลย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคือหรือแหวน อยู่ที่ฉันได้ยังไงฉันยังไม่รู้เลย!!
ชัดเจนมากเขาโยนความผิดมาที่ฉัน ฉันพูดกับเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมากแล้วนะ แต่ตอนนี้ฉันกลั้นไม่ไหวแล้ว เงยหน้าขึ้น:"ลู่จือสิง เรื่องแหวนหายมีความผิดของฉันด้วย แต่มันอยู่ในกระเป๋าฉันได้ยังไง หรือว่าคุณไม่รู้? คุณไม่เคยบอกฉันเลยว่าคุณยายเก็บสร้อยคอและแหวนให้คุณ อยู่ดีๆคุณก็มาขอฉัน ฉันให้ความร่วมมือคุณอย่างมากแล้วนะ ตอนนี้คุณต้องการอะไรอีก? เลิกกันแล้วของที่มันขวางตาฉัน ฉันก็มีสิทธิทิ้งนะ!"
"ของที่ขวางตางั้นเหรอ?"
ฉันก็คิดว่าเขาเข้าใจผิดว่าฉันจงใจเอาไปทิ้ง พูดไปอีกว่า:"ฉันไม่ได้จงใจเอาไปทิ้งนะ เพราะว่าฉันไม่เคยเห็นแหวนวงนั้น! ฉันแค่ทิ้งของเก่า ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้เท่านั้น!"
"ของเก่าที่ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้?"
ฉันไม่อยากพูดอะไรกับเขาอีก เลยดันเขาออกจากห้อง:"แหวนมันหายแล้ว เงินฉันก็คืนแล้ว ถ้าคุณยังจะหาอยู่ ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว"
ระหว่างที่พูด สายโทรศัพท์ก็เข้า
ฉีซิ่วหรานเป็นคนโทรมา รู้เลยว่าเป็นเรื่องเป้ยเปย แต่ลู่จือสิงอยู่ฉันเลยกดตัดสาย
"ไม่รัยสายเหรอ?"
ระหว่างที่เขาพูดฉันจ้องหน้าเขาแล้วบอก:"นี้คุณ แหวนก็หาแล้ว ไม่มีจริงๆ ตอนนี้เชิญคุณออกไปได้แล้ว!"
พูดจบ สีหน้าของเขาก็ซึมๆ มองมาที่ฉันแวปหนึ่ง ก็เดินออกไปแล้ว
เมื่อเห็นเขาออกไปจากตึกแล้ว ก็ค่อยรู้สึกโล่งใจ
ก็ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไรของเขา อยู่ดีๆก็มาหาแหวนถึงบ้านฉัน
แต่ก็มีข้อดี เขาก็ไปแล้ว ต่อจากนี้ไปเขาก็จะได้ไม่มาพูดถึงเรื่องนี้อีก
พอผ่านไปแปปนึงฉันก็รีบโทรหาฉีซิ่วหรานให้เขาอุ้มเป้ยเปยมาหาฉัน
"หิวแล้วใช่ไหมล่ะ?"
ฉีซิ่วหรานพยักหน้า:"เมื่อกี้ฉันชงนมผงให้กินแล้ว"
บ้านของฉีซิ่วหรานก็มีนมผงเช่นกัน เป้ยเปยแปดเดือนแล้ว ฉันคิดว่าควรให้เป้ยเปยเลิกกินนมของฉันได้แล้ว วันหยุดฉันมักจะอุ้มเป้ยเปยไปให้ซิ่วหรานชงนมผงให้
แรกๆเป้ยเปยก็ไม่ยอมกิน ร้องไห้ไม่หยุด พอหลังๆมาก็เริ่มกินแล้ว
ฉันอุ้มเป้ยเปยเข้าไปนอนแล้วออกมา:"ขอบคุณนะ ถ้าไม่มีคุณ ลู่จือสิงก็คงรู้แล้วว่ามีเป้ยเปยอยู่กับฉัน"
ฉีซิ่วหรานจู่ๆก็เรียกชื่อฉัน:"ซูยุ่น"
ฉันกำลังจะไปปอกผลไม้ ได้ยินเสียงเรียกจากเขาก็หยุด :"ทำไมเหรอ?ฉันกำลังจะไปปอกผลไม้"
"เธอ……"
เขาอ้าปากพร้อมพูด แล้วไม่รู้ว่าเขาอยากจะพูดอะไร จากนั้นก็สะบัดหน้าแล้วบอกว่า :"เธอไปปอกผลไม้สิ"
ฉันก็สงสัยนะ แต่เมื่อเขาไม่อยากพูด เลยไม่ได้ถามอะไรมากมาย
จากที่ลู่จือสิงมาครั้งที่แล้ว ฉันก็รู้สึกระแวงตลอดว่าจะเจอเขาอีก
ปีใหม่ฉีซิ่วหรานไม่ได้กลับบ้าน ฉันคิดว่าเขาอยู่เพราะฉัน แต่พอแม่ซิ่วหรานวิดีโอคอลมาเลยรู้ว่าพ่อแม่ซิ่วหรานไปต่างจังหวัด ในบ้านจึงเหลือเขาคนเดียว
จู่ๆฉันก็นึกถึงปีใหม่ของปีที่แล้ว ฉีซิ่วหรานก็อยู่คนเดียว รู้สึกตลกและทั้งน่าสงสาร
วันที่สองชวี่ชิงหนานและพ่อแม่ของเขาก็มาหาถึงบ้าน
เปิดประตูมาแล้วเห็นพ่อแม่ของเขา ฉันก็ตกใจมาก
ฉีซิ่วหรานอุ้มเป้ยเปยแล้วเดินมา:"ใครมาเหรอ?"
เสียงพูดซิ่วหรานทำให้ฉันรู้สึกตัวอีกที ก็รีบเชิญคุณลุงคุณป้าเข้ามาทันที
หลังจากที่นั่งลง ใจก็สงบลง มองไปที่คุณลุงคุณป้า:"คุณลุงคุณป้าคะ ต้องขอโทษจริงๆ ความจริงฉันต้องเป็นคนที่ไปหา แต่……"
ฉันเคยโทรหาคุณลุงและคุณป้าหลายครั้ง ถ้าไม่ใช่ชวี่ขิงหนานฉันไม่รู้จะพูดอะไรกับคุณลุงคุณป้าจริงๆ
"ไม่เป็นไรหรอก ลูกเอ๋ย หลายปีที่ผ่านมาลูกต้องทนทุกข์ทรมานคนเดียวมาตลอด"
คุณยายเลี้ยงฉันตั้งแต่เด็ก นอกจากคุณยาย ก็ไม่มีคนรักและห่วงฉันเลย คำของคุณป้าเอาฉันเกือบน้ำตาไหล
"แม่ ปีใหม่พูดแบบนี้ทำไม มีความสุขกันหน่อย เป้ยเปยมาให้น้าอุ้มหน่อย"
"ว้าย!! นี้เป้ยเปยใช่ไหม อายุหนึ่งปีรึยัง?"
ฉันแอบยิ้ม:"เพิ่งแปดเดือนเองค่ะ'
คุณลุงคุณป้ามัวแต่เล่นกับเป้ยเปยไม่ปล่อยมือเลย คนอายุมากขึ้นก็ชอบเด็กแบบนี้แหละ
ฉันกำลังเตรียมของที่จะกินหมูกะทะ จู่ๆชวี่ชิงหนานก็เข้ามา:"เดือนที่แล้วลู่จือสิงมาเธอใช่ไหม?