ทาสรักทาสหัวใจ - ตอนที่ 27 จากไปไม่หวนคืน
วันต่อมา
ภายในห้องนอนบนเตียงกว้างมุกขยับลืมตาตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกหนักตรงช่วงเอวคอดไม่น้อย เธอใช้สายตาเหลือบมองตรงช่วงเอวก็พบว่ามีท่อนแขนแกร่งกอดรัดเอาไว้อยู่ ดวงตากลมโตหันไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มที่หลับสนิทหายใจเข้าออกสม่ำเสมอเบียดข้างกายด้วยแววตาเศร้าหมอง ไม่ว่าเธอจะอยู่ใกล้ชิดชายหนุ่มมากแค่ไหนเขาก็อยู่ห่างไกลจากเธออยู่ดี มือบางค่อยๆ จับท่อนแขนออกจากเอวจนพ้นกำลังจะลุกขึ้นนั่งแต่กลับถูกท่อนแขนแกร่งโอบกอดเอาไว้อีกครั้ง
“จะรีบตื่นไปไหน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
“มุกจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ”
“จะเข้าห้องน้ำหรือจะลุกหนีฉันกันแน่” ดวงตาคมกริบลืมขึ้นจ้องมองใบหน้าเนียน
“ทำไมมุกต้องหนีด้วยคะ”
“ไม่รู้สิ อาจจะมีใครกระเป๋าหนักกว่าฉันก็ได้”
“นั้นสิคะ ไม่แน่อะไรก็เกิดขึ้นได้”
“หมายความว่ายังไง!” ร่างหนาพลิกตัวขึ้นคร่อมทาบทับร่างบางทันที
“อะไรคะ” จ้องมองใบหน้าชายหนุ่ม
“ไม่แน่อะไรก็เกิดขึ้นได้ มันหมายความว่ายังไง”
“ก็มันจริงนี่ค่ะ ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนทั้งนั้น เหมือนมุกกับคุณ สักวันเราสองคนอาจจะแยกย้ายจากกันไป ใครจะรู้”
“หึ งั้นเหรอ ฉันว่าเธออย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลเลย อยู่กับปัจจุบันจะดีกว่า” พูดจบชายหนุ่มก็ก้มหน้าลงประกบปิดริมฝีปากบางทันควัน
บทพิศวาสบรรเลงไปอย่างเร่าร้อนตามความปรารถนาภายในกายกันและกันที่ถูกปลุกเร้าขึ้นเกินจะหักห้ามใจได้ สองกายเปลือยเปล่าหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแสดงความต้องการผ่านภาษากายออกมาไม่มีปกปิดจนสำเร็จลู่ล่วงถึงปลายทางแห่งความสุขโดยพร้อมเพรียงกัน
หลังจากที่บทพิศวาสจบลงมุกก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวตรงไปยังห้องครัวทำมื้อเช้าง่ายๆ ให้ตนเองกับภพทานก่อนจะไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมมิคและฟังอาการจากหมอ
“หอมจัง” ร่างหนาเดินเข้ามาในครัว
“เสร็จพอดีเลยค่ะ ทานอะไรง่ายๆ ไปก่อนนะคะ” มุกพูดพลางตักไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ใส่จาน
“อืม ฉันขอกาแฟด้วยนะ”
“ค่ะ”
มุกชงกาแฟให้ชายหนุ่มยกวางลงบนโต๊ะพร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับชายหนุ่มทานอาหารของตนเองไปเงียบๆ โดยภายในหัวมีแต่เรื่องอาการป่วยของน้องชายอยู่ตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วง
“เดี๋ยวออกไปพร้อมกันเลยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
“ไม่เป็นไรค่ะ มุกไปเองได้ คุณคงจะมีงานมีธุระสำคัญรออยู่ อย่าเสียเวลาเลยค่ะ”
“หึ ฉันไม่คิดเลยเราเพิ่งจะมีความสุขด้วยกันเมื่อกี้ ตอนนี้เธอกลับปฏิเสธจะไปกับฉันเสียอย่างงั้น”
“เปล่านะคะ มุกก็แค่พูดไปเผื่อคุณจะมีธุระที่ไหนก็แค่นั้นเอง”
“ฉันอยากจะดูอาการมิคสักหน่อยน่ะ”
“ค่ะ”
“ตอนที่ฉันไม่อยู่ หมอนนท์คงจะออกตัวช่วยเหลือเธอทุกอย่างสินะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หมอนนท์เขาแค่ทำตามหน้าที่ของหมอ”
“ให้มันจริงเถอะ”
“คุณก็รู้ว่ามุกไม่มีทางหวั่นไหวกับใครนอกจากคุณ อย่างที่มุกเคยบอกคุณ ว่ามุกกับหมอเราเป็นเพื่อนกันเท่านั้น”
“อืม” ชายหนุ่มพยักหน้ารับพยายามเก็บอาการเอาไว้ข้างใน
ทันทีที่ภพกับมุกไปถึงโรงพยาบาลก็ได้รับรู้ถึงอาการของมิคที่ไม่สู้ดีเลย เมื่อหมอนนท์เอ่ยปากบอกว่ามิคต้องการจะคุยกับมุกและภพ ทั้งสองคนจึงรีบตรงปรี่เข้าไปข้างในห้องไอซียูด้วยความรวดเร็ว โดยมีหมอนนท์ตามเข้าไปติดๆ
“มิค เป็นยังไงบ้าง” มุกจับกุมมือน้องชายที่มองมาผ่านม่านน้ำตาไหลอาบแก้ม
“ผมไม่เป็นไรครับ พี่อย่าร้องเลยนะ” มิคส่งยิ้มให้พี่สาว
“มิคต้องพักผ่อนเยอะๆ นะ จะได้ดีขึ้นเร็วๆ ”
“นั้นสิ มีอะไรค่อยคุยกันทีหลังก็ได้” ภพเอ่ยเสริมขึ้นอีกคน
“พี่ภพครับ” มิคส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม
“ว่าไงเรา” ภพใช้มือหนาลูบศีรษะมิคเบาๆ
“ถ้าผมไม่อยู่แล้ว พี่ช่วยดูแลพี่มุกแทนผมด้วยนะครับ”
“พี่ไม่รับปากหรอกนะ พี่สาวใครก็มาดูแลเอาเอง”
“มิคพักเถอะนะ อย่าพูดอะไรอีกเลย” มุกเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องชายเริ่มหายใจเร็วหน้าซีดเผือดลงเรื่อยๆ
“รับปากผมสิครับ ว่าจะดูแลพี่มุกแทนผม พี่ภพ” มิคยังคงไม่ลดละความพยายาม
“มิคไม่ต้องเป็นห่วงนะ หมอจะเป็นคนดูแลมุกเอง” หมอหนุ่มเอ่ยแทรกขึ้นพร้อมกับหันไปมองหน้าภพ
“พี่รับปาก พี่จะดูแลมุกเอง” ภพพูดพลางมองหน้ามุก
“คุณภพ” มุกเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มเสียงเบา
“พี่ดีใจไหมครับ คนที่พี่ชอบเขารับปากจะดูแลพี่แทนผมแล้ว ” มิคส่งยิ้มให้มุก
“โธ่ มิค” มุกก้มหน้าจูบหน้าผากน้องชายเบาๆ
“ผมสบายใจแล้วนะพี่ ผมง่วงนอนยังเลย”
“ง่วงก็นอนซะนะ คนดีของพี่” มุกลูบศีรษะน้องชายอย่างอ่อนโยน
มิคค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ พร้อมกับชีพจรที่เต้นช้าลงเช่นกัน ไม่กีี่วินาทีเครื่องจับสัญญาณชีพจรก็ส่งเสียงเตือนดังไปทั่วห้อง ปรากฏภาพสัญญาณชีพจรบนหน้าจอเป็นเส้นตรง หมอนนท์เห็นอย่างจึงรีบให้ภพพามุกออกจากห้องไป จากนั้นเขาและพยาบาลจึงช่วยกันปั๊มหัวใจมิคให้กลับมาเต้นอีกครั้งแต่กลับไม่เป็นผล หมอนนท์จึงจำใจหยุดยื้อชีวิตเด็กหนุ่มเพราะล่วงเลยเวลาที่จะฟื้นคืนกลับมาได้อีกแล้ว
“หมอมิคเป็นอะไรคะ มิคไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ” ทันทีที่หมอนนท์เดินออกมาจากห้องมุกก็เอ่ยถามขึ้นทันที
“ผมขอโทษนะมุก ผมทำเต็มที่แล้วจริงๆ ”
“หมายความว่ายังไงคะ” มุกมองหน้าหมอหนุ่มน้ำตาคลอเบ้า
“มิคเขาไม่ได้อยู่กับเราแล้วมุก” หมอหนุ่มตัดสินใจบอกออกไปตรงๆ
“ไม่จริง! ” มุกส่ายหน้าน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความสะเทือนใจไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ผมเสียใจด้วยนะมุก” หมอนนท์มองหน้ามุกด้วยความเห็นใจ
“เมื่อกี้เรายังคุยกันอยู่เลย มิคทำไมถึงทำอย่างนี้ ทิ้งพี่ไปทำไม” ร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวสั่นเทาแทบขาดใจ
“มิคเขาทรมานมามากแล้ว ตอนนี้เขาหลับสบายไม่ต้องทรมานอีก เธอต้องเข้มแข็งไว้นะมุกเพื่อตัวเอง” ภพคว้าร่างบางเข้ามากอดปลอบ
“ผมขอตัวก่อนนะ” หมอนนท์รีบเดินออกไปจากภาพบาดตา
“ฮือๆ มุกไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้มันเร็วเกินไป” กอดรัดหนาเอาไว้แน่นเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่อ่อนแอ
“ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าการมาครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้คุยกับมิค” พูดพลางใช้มือหนาลูบแผ่นหลังบางไปมาด้วยความสงสารจับใจ
“มุกเสียใจที่ช่วยน้องไม่ได้เลย มุกพยายามทำทุกอย่างแล้ว แต่สุดท้ายมิคก็ไปจากมุก”
“เธอยังมีฉันอยู่นะ ฉันจะดูแลเธอตามที่ได้รับปากมิคเอาไว้”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ ฉันพูดคำไหนคำนั้น”
“มุกเชื่อคุณค่ะ” ซบหน้าแนบเข้าหาอกกว้างด้วยความอุ่นใจทั้งน้ำตา
ภายในห้องดับจิตภพกับมุกยืนมองร่างอันไร้วิญญาณของมิคที่มีผ้าขาวปิดคลุมเอาไว้ทั้งร่างด้วยความเศร้าเสียใจในการจากไปอย่างไม่มีวันกลับในครั้งนี้อย่างกะทันหัน มือบางค่อยๆ เปิดผ้าบนหน้าน้องชายออกช้าๆ ทั้งน้ำตา
“หลับให้สบายนะมิค ไม่ต้องเจ็บปวดทรมานกับโรคร้ายอีกต่อไปแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงพี่ ไม่ว่ามิคจะอยู่ที่ไหนมิคก็ยังคงเป็นน้องชายของพี่ตลอดไป พี่จะคิดถึงมิคทุกวัน มิคก็เหมือนกันนะคิดถึงพี่บ้าง” มุกร้องไห้สะอึกสะอื้นทรุดตัวลงกับพื้น
“มุกลุกขึ้น” ภพเข้าไปคว้าเข้ามากอดไว้ตรงพื้น
“ฮือๆ มุกไม่เหลือใครแล้ว” ร้องไห้ตัวสั่นเทาอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง
“เธอยังมีฉันนะ อย่าลืมสิ ฉันจะจัดการเรื่องงานศพทุกอย่างเอง เธอไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น”
“ขอบคุณนะคะ ที่ดีกับมุกกับน้องมากถึงขนาดนี้ แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำตามที่รับปากมิคเอาไว้ก็ได้”
“ฉันเต็มใจ น้องเธอก็เหมือนน้องฉัน เธอก็รู้ว่าฉันเอ็นดูมิคเหมือนน้องฉันจริงๆ ”
“มุกรู้ค่ะ”
ภพค่อยๆ ประคองมุกลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินออกไป ก่อนจะออกไปภพก็ไม่ลืมที่จะหันไปมองร่างอันไร้วิญญาณของมิค เขารู้ว่าเด็กหนุ่มรักพี่สาวมากไม่อย่างนั้นคงจะไม่เอ่ยสั่งเสียให้เขาดูแลมุกแทน โดยรับรู้มาตลอดว่ามุกชอบเขาจึงอยากทำให้พี่สาวสมหวัง แต่คงจะไม่ใช่แค่เขาที่เด็กหนุ่มฝากฝังหมอนนท์ก็เป็นอีกคนที่เด็กหนุ่มชื่นชอบด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะทำตามที่ได้รับปากเอาไว้อย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ